KBANK ลดดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% มีผล 4 มี.ค.นี้ ลดภาระหนี้ลูกค้าทุกกลุ่ม
KBANK ลดดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี มีผล 4 มี.ค.นี้ หลัง กนง. มีมติลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% มาอยู่ที่ 2.00% ต่อปี ช่วยลูกค้าบรรเทาภาระหนี้ ลดต้นทุนทางการเงิน และเพิ่มโอกาสเข้าถึงสินเชื่อสำหรับภาคธุรกิจ และภาคครัวเรือน รวมทั้งสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ
หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 26 ก.พ.2568 มีมติปรับลดอดัตราดอกเบี้ยนโยบายในอัตราลง 0.25% จาก 2.25% เป็น 2.00% ต่อปี โดยมีผลทันที ส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ตอบรับ โดยทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้
ล่าสุด ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เป็นรายที่ 3 ได้ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% เพื่อลดภาระหนี้ให้ลูกค้าทุกกลุ่ม มีผล 4 มี.ค.นี้
นายจงรัก รัตนเพียร ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จาก 2.25% เหลือ 2.00% ต่อปี ธนาคารพร้อมตอบสนองต่อมาตรการดังกล่าวด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับลูกค้าทุกกลุ่มสูงสุด 0.25% เพื่อตอกย้ำความตั้งใจของธนาคารในการดูแลและช่วยเหลือลูกค้าบรรเทาภาระหนี้ ลดต้นทุนทางการเงิน และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อสำหรับภาคธุรกิจ และภาคครัวเรือน
นอกจากนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของธนาคารในการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งยังคงเผชิญกับความท้าทายและมีแนวโน้มขยายตัวได้ไม่เต็มที่ ทั้งจากปัญหาเชิงโครงสร้างและการแข่งขันที่สูงขึ้น รวมถึงนโยบายการค้าที่มีความไม่แน่นอน ตลอดจนเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการเสริมสร้างกำลังซื้อของประชาชน เพิ่มสภาพคล่องให้กับภาคธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อยเพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจสามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ธนาคารปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ มีผลวันที่ 4 มี.ค.2568 เป็นต้นไป รายละเอียด ดังนี้
- อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ปรับลด 0.25% จาก 7.34% เป็น 7.09% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) ปรับลดจาก 7.15% เป็น 7.05% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ปรับลดจาก 7.18% เป็น 7.08% ต่อปี
ธนาคารกสิกรไทยยังคงพร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ต่างๆ ตามความเหมาะสมเพื่อให้ลูกค้าสามารถรับมือและบริหารจัดการภาระหนี้สินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยลูกค้าที่ได้รับผลกระทบสามารถดำเนินการติดต่อผ่านช่องทางต่างๆ ของธนาคารได้ทุกช่องทาง
หลังจากก่อนหน้านี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เป็นรายแรกที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR : Minimum Overdraft Rate) จากปัจจุบันอยู่ที่ 7.325% เป็น 7.075% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR : Minimum Retail Rate) จากปัจจุบันอยู่ที่ 7.175% เป็น 7.075% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR : Minimum Loan Rate) จากปัจจุบันอยู่ที่ 6.925% เป็น 6.825% ต่อปี
ต่อมารายที่ 2 คือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) จาก 7.270% ต่อปี เป็น 7.020% ต่อปี, อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) จาก 6.925% ต่อปี เป็น 6.825% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) จาก 7.445% ต่อปี เป็น 7.345% ต่อปี


