posttoday

BAY กางแผน 3 ปี ก้าวสู่ธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน ในปี 69

01 กุมภาพันธ์ 2567

BAY ประกาศแผนธุรกิจระยะกลางฉบับใหม่ 3 ปี (67-69) มุ่งสู่ธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน ภายในปี 69 วางงบลงทุน 3 ปี รวม 45,000 ล้านบาท ส่วนปี 67 ปักธงสินเชื่อโต 3-5% NIM แตะ 3.8-4.1% คุม NPL ไม่เกิน 2.50-2.75%

นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า ในปี 2567 ธนาคารตั้งเป้าหมายเงินให้สินเชื่อเติบโต 3-5% จากปี 2566 เติบโต 3.5% 

โดยตั้งเป้าหมายสินเชื่อกลุ่มลูกค้าธุรกิจ เติบโต 4-6% เนื่องจากคาดว่าจะมีการลงทุนมากขึ้น จากปีก่อนที่การลงทุนมีการชะลอตัว, สินเชื่อกลุ่มลูกค้า SME เติบโต 2-3% 

สินเชื่อกลุ่มลูกค้ารายย่อย เติบโต 3-5% ซึ่งจะมีการขยายไปยังภูมิภาค เนื่องจากฐานยังเล็ก โอกาสเติบโตได้อีกมาก ดังนั้นคาดว่าสินเชื่อกลุ่มลูกค้ารายย่อยในต่างประเทศ เติบโต 13-15% ขณะที่สินเชื่อกลุ่มลูกค้ารายย่อยในประเทศ คาดว่าจะเติบโต 2-3% 

ด้านส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ในปี 2567 ตั้งเป้าหมายอยู่ที่ 3.8-4.1% จากปี 2566 อยู่ที่ 3.91% 

นอกจากนี้ ธนาคารคาดว่าอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Ratio) อยู่ที่ราว 2.50-2.75% จากปี 2566 อยู่ที่ 2.53% 

ขณะที่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (cost-to-income ratio) จะอยู่ในระดับ mid-40% จากปี 2566 อยู่ที่ 44.5% 

สำหรับแผนธุรกิจระยะกลางฉบับใหม่ (Medium-Term Business Plan: MTBP) ประจำปี 2567-2569 มุ่งมั่นที่จะก้าวสู่การเป็น “ธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน” ภายในปี 2569 ที่สะท้อนถึงคำมั่นสัญญาขององค์กรสู่อนาคตที่ความยั่งยืนและการสร้างแข็งแกร่งในระดับภูมิภาคเป็นสิ่งสำคัญ 

BAY กางแผน 3 ปี ก้าวสู่ธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน ในปี 69

ทั้งนี้ เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าวแผนธุรกิจฉบับนี้จะมุ่งเป้าไปยัง 3 ประการหลัก ได้แก่ 1.การเป็นธนาคารชั้นนำเพื่อความยั่งยืน โดยได้วางเป้าหมายในการเพิ่มการสนับสนุนทางการเงินให้แก่โครงการธุรกิจเพื่อสังคมและความยั่งยืนที่ 100,000 ล้านบาท ภายในปี 2573 และให้การสนับสนุนลูกค้าในการออกผลิตภัณฑ์การเงินเพื่อความยั่งยืน โดยในปี 2566 ธนาคารมียอดสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนเพิ่มขึ้น 71,000 ล้านบาท จากฐานปี 2564 

โดยแผนธุรกิจระยะกลางฉบับใหม่นี้ ธนาคารจะมุ่งขยายบริการทางการเงินเพื่อความยั่งยืนเพื่อเข้าถึงฐานลูกค้า SME และลูกค้ารายย่อยที่หลากหลายยิ่งขึ้น 

นอกจากนี้ ธนาคารยังให้ความสำคัญกับการจัดหาเงินทุนเพื่อช่วยเหลือกลุ่มลูกค้าธุรกิจ และ SME ในช่วงการเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นธุรกิจคาร์บอนต่ำ ควบคู่ไปกับการสนับสนุนในเรื่องกติกาด้านการเงินและภาษี (Taxonomy) ที่จำแนกประเภทกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับความเข้มของค่าคาร์บอนโดยใช้ระบบสัญญาณไฟจราจรเป็นเกณฑ์

2.การขับเคลื่อนความเป็นผู้นำระดับภูมิภาค โดยปัจจุบันเครือข่ายของธนาคาร และ MUFG ครอบคลุม 9 ใน 10 ประเทศในอาเซียน โดยธนาคารมีบริษัทในเครือ กระจายอยู่ใน 5 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม กัมพูชา และ สปป.ลาว ที่ให้บริการลูกค้าแล้วกว่า 17 ล้านราย 

การดำเนินงานในอาเซียนของธนาคารส่งเสริมขีดความสามารถของธนาคารในหลายแง่มุม ตั้งแต่โมเดลธุรกิจและผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอ ไปจนถึงการระดมทุน การบริหารความเสี่ยง โซลูชันดิจิทัล และนวัตกรรมที่หลากหลาย

ขณะเดียวกัน ธนาคารมุ่งมั่นเดินหน้าใช้ประโยชน์จากเครือข่าย MUFG เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตและเชื่อมโยงความต้องการของลูกค้าทั้งในประเทศไทยและภูมิภาค ผ่านการนำเสนอโซลูชันการจับคู่ธุรกิจแบบครบวงจรด้วยแพลตฟอร์ม Krungsri Business Link และบริการ Krungsri ASEAN Link ที่จะช่วยเชื่อมโยงลูกค้าธุรกิจชาวไทยกับพันธมิตรทางธุรกิจที่เชื่อถือได้เข้าด้วยกันผ่านเครือข่ายของธนาคารที่มีอยู่ในอาเซียนและญี่ปุ่น

3.การรักษาตำแหน่งผู้นำในธุรกิจหลักของธนาคาร เพื่อให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยแรงขับเคลื่อนมาจากธุรกิจต่างประเทศ พร้อมเน้นเรื่องดิจิทัล ดาต้า ระบบนิเวศและการสร้างพันธมิตรเป็นแกนสำคัญในการดำเนินงาน 

สำหรับกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบุคคล ธนาคารยังคงเดินหน้ากลยุทธ์ One Retail โดยการใช้ดาต้าเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าเป็นหลัก 

ส่วนกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ธนาคารจะขยายขีดความสามารถด้านธุรกรรมการเงินทั้งในและต่างประเทศในรูปแบบ Banking as a Service โดยพัฒนาร่วมกับพันธมิตรจากทั้งในไทยและต่างประเทศ 

ในด้าน IT และดิจิทัล ธนาคารจะเดินหน้าลงทุนในดิจิทัลแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีที่ยึดความต้องการลูกค้าเป็นหลัก รวมถึงการใช้ AI และ Machine Learning เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์และการให้บริการกับลูกค้าในทุกกลุ่ม ผ่านทุก Touchpoint ทั้งสาขา ออนไลน์ โมบายแอป และ Call Center

“กรุงศรีก้าวเข้าสู่แผนธุรกิจระยะกลางฉบับที่ 4 โดยมุ่งเป้ายืนหนึ่งการเป็นธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน แผนธุรกิจระยะกลางฉบับนี้สะท้อนถึงความตั้งใจอย่างแน่วแน่ของกรุงศรีเพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืนเชิงเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาลสู่อนาคตที่มั่นคง ทำให้กรุงศรีเป็นธนาคารแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืนระดับแถวหน้า แนวทางการดำเนินงานนี้ยังสอดคล้องกับเป้าหมายของ MUFG ที่ต้องการมุ่งสร้างอนาคตที่สดใสยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายร่วมกันทั้งในด้านความยั่งยืน การเป็นธนาคารที่มีความรับผิดชอบ และการพัฒนาชุมชน” นายเคนอิจิ กล่าว

ทั้งนี้ ธนาคารวางงบลงทุน 3 ปี (2567-2569) ไว้ที่ปีละ 15,000 ล้านบาท รวม 45,000 ล้านบาท ใช้สำหรับพัฒนาแพลตฟอร์ม ยกระดับ Core Banking ตอบโจทย์ลูกค้า รวมถึงการลงทุนด้าน Digital