posttoday

YLG ชี้ทองคำปลายปีคึกคัก ลุ้นขาขึ้นรอบใหญ่ แนะสะสม

27 กรกฎาคม 2566

วายแอลจีคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยปีนี้อีก 1 ครั้ง จากนั้นเข้าสู่ยุคทองคำขาขึ้น แรลลี่ยาว 3-5 ปี ชี้ด่าน 2,079 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ผ่านได้ลุ้น 2,400 ดอลล์ฯ แนะหาจังหวะเก็บแถว 1,900 ดอลล์ฯ

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า เปิดเผยว่า เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งที่ 11 สู่ระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี นับตั้งแต่เริ่มวัฏจักรขาขึ้น 

ทั้งนี้การขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นสิ่งที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่วนสิ่งที่ตลาดให้สนใจมากกว่าคือถ้อยแถลงของ นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในภาพรวมเรื่องทิศทางดอกเบี้ยนโยบาย เฟดจะตัดสินใจในการประชุมเป็นรายครั้ง (Meeting by meeting) และจะขึ้นอยู่กับข้อมูลทางเศรษฐกิจ (Data-Dependent Approach) โดยไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะขึ้นดอกเบี้ยอีกหากมีข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งมาสนับสนุน แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเป็นไปได้ที่จะคงดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย. ด้วยเช่นกัน

ดังนั้น ถ้อยแถลงที่ไม่ได้กำหนดทิศทางที่ชัดเจน และไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญจากรอบก่อน ภาพรวมทิศทางทองคำในระยะสั้นที่ตอบรับประเด็นเดิมๆไปแล้วในช่วงก่อนหน้า จึงไม่ได้ถูกกดดันเพิ่มเติม

จากการติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและปัจจัยอื่นๆ ตลาดได้คาดการณ์ว่าในปีนี้เฟดน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจถดถอยก็ยังน่าเป็นห่วง ดังนั้นมองว่าหากผ่านช่วงที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งไปได้ สถานการณ์เงินลงทุนจะพลิกไหลมาสู่ตลาดทองคำ

อย่างไรก็ดี หากมองภาพใหญ่จะเห็นว่าทองคำเป็นขาขึ้นมาแล้ว 3 ปีต่อเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ต่อเนื่องมาจนสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน แม้ว่าในปีที่ผ่านมาสถานการณ์เหล่านี้จะเริ่มคลี่คลายและดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นแต่ทองคำก็ยังทรงตัวในระดับสูง ดังนั้นหากนโยบายดอกเบี้ยที่เป็นปัจจัยกดดันทองคำหมดไปมองว่าการขึ้นของทองคำรอบนี้จะเป็นขาขึ้นไปอีก 3 – 5 ปี โดยหากผ่านจุดสูงสุดของปีที 2,079 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ไปได้ จะปรับตัวขึ้นไปที่ 2,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ และ 2,400ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าซื้อสามารถใช้จุด 1,900 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์เป็นจังหวะเข้าซื้อได้ 

อย่างไรก็ดีแม้หลังผ่านช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นไปแล้วทาง YLG จะคาดการณ์ว่าทิศทางทองคำจะเป็นขาขึ้น แต่ยังคงคำแนะนำการลงทุนในทองคำที่สัดส่วน 5-15% ของพอร์ตลงทุนรวม เพื่อลดความผันผวนของพอร์ต ไม่ควรลงทุนมากกว่านั้น 

“ปัจจัยกดดันทองคือดอกเบี้ยและกำลังจะสิ้นสุดยุคขาขึ้น แต่ปัจจัยบวกสำหรับทองคำยังอยู่ครบ โดยเฉพาะปัจจัยเศรษฐกิจถดถอย หากมองเศรษฐกิจทั่วโลกจะเห็นว่ามีเพียงเอเชียเท่านั้นที่เป็นบวก ยุโรปและสหรัฐยังคงน่าจับตา ส่วนปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ทั้งฝั่งของจีนและสหรัฐ รวมถึงความขัดแย้งรัสเซีย ยูเครน ก็ยังต้องติดตามต่อไป จึงเป็นไปได้ที่ช่วงปลายปีทองคำมีโอกาสทำจุดสูงสุดใหม่” นางสาวฐิภา กล่าว

อย่างไรก็ดี การลงทุนในทองคำผ่านตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมเพราะทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง ทั้งการลงทุนในประเทศผ่าน TFEX ส่วนการลงทุนต่างประเทศนั้น YLG เพิ่มทางเลือกให้นักลงทุนด้วยการจับมือกับ CME Group ตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้าที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ครอบคลุมบริการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าครบวงจร เพิ่มทางเลือกให้ที่สนใจลงทุนในตลาดล่วงหน้าที่มีสินค้าให้เลือกลงทุนอย่างครบถ้วน ทั้งสินค้าโภคภัณฑ์ สกุลเงิน หุ้น ไปจนถึงสินทรัพย์ดิจิทัล อย่างไรก็ตามการลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนต้องศึกษาให้เข้าใจก่อนการลงทุน สำหรับนักลงทุนที่สนใจการลงทุนทองคำในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทุกรูปแบบ สามารถดูรายละเอียดได้ทาง  www.ylgfutures.co.th