posttoday

ออมสินประกาศจดทะเบียนบริษัทนอนแบงก์เสร็จแล้ว

01 มิถุนายน 2566

“วิทัย รัตนากร” เผย ออมสิน จดทะเบียนบริษัทนอนแบงก์เสร็จแล้ว เหลือเพียงกระบวนการขอใบอนุญาตจาก ธปท. และ กระทรวงการคลัง คาดพร้อมเปิดเป็นทางการภายในสิ้นปีนี้ มั่นใจช่วยกลุ่มอาชีพอิสระเข้าถึงแหล่งเงินทุน หวังช่วยลดดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลโดยรวมได้ 5%

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวถึงความคืบหน้าในการตั้งบริษัท นอนแบงก์เพื่อให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล ว่า บริษัทเพิ่งจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเรียบร้อยในที่ 1 มิ.ย. 2566 คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการสินเชื่อในรูปแบบดิจิทัล หรือ ดิจิทัลเลนดิ้ง ได้ภายในสิ้นปีนี้ 

ขณะนี้ อยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับนอนแบงก์จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จากนั้นจะนำใบอนุญาตไปขออนุมัติกับกระทรวงการคลังอีกครั้ง นอกจากนี้ต้องมีการทำระบบหลังบ้านในการอนุมัติสินเชื่อรูปแบบดิจิทัล อีกด้วย

สำหรับวัตถุประสงค์ของการเปิดบริษัทดังกล่าว เพื่อต้องการให้ประชาชนที่ประกอบอาชีพอิสระ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนโดยง่าย และกระตุ้นให้ภาพรวมของดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลลดลงได้ 3-5% จากปกติที่ในตลาดมีดอกเบี้ยสูงถึง 25-35% 

ส่วนรูปแบบการถือหุ้นในนอนแบงก์แห่งใหม่นั้น ธนาคารออมสินจะเข้าไปเป็นถือหุ้นสัดส่วน 49% ส่วนที่เหลือจะให้บริษัท มีที่มีเงิน ซึ่งมีออมสินถือหุ้นอยู่ 49% เข้ามาร่วมถือหุ้นในนอนแบงก์อีก 51% ทำให้ออมสินจะมีการถือหุ้นทางตรงและทางอ้อมรวมกว่า 80% ซึ่งถือว่า สามารถทำได้โดยไม่ผิดระเบียบเพราะเกณฑ์กำหนดสั่งห้ามให้ถือหุ้นทางตรงเกินกึ่งหนึ่งเท่านั้น

นายวิทัยกล่าวว่า การทำธุรกิจสินเชื่อรายย่อยผ่านนอนแบงก์ จะทำควบคู่ไปกับการปล่อยกู้ของธนาคารออมสิน โดยไม่แย่งลูกค้ากัน ซึ่งเบื้องต้นลูกค้าที่สนใจอยากขอสินเชื่อ สามารถติดต่อได้ที่ออมสินก่อน หากเป็นลูกค้าชั้นดีที่มีข้อมูลเครดิตดี อยู่ในเกณฑ์ที่แบงก์ให้สินเชื่อได้ ก็จะรับเป็นลูกค้าของออมสิน แต่หากพิจารณาแล้ว ลูกค้าไม่ผ่านเกณฑ์ ก็จะส่งต่อไปให้บริษัทลูกแห่งใหม่นี้ ซึ่งสามารถรับความเสี่ยงได้สูงกว่า ซึ่งจะเป็นการปล่อยกู้ผ่านช่องทางดิจิทัล และเลือกใช้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล หรือสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ได้

เมื่อดอกเบี้ยลดลง ประชาชนก็จะมีความสามารถในการชำระเงินต้นได้มากขึ้น ส่งผลให้หนี้ครัวเรือนลดลง และออมสินก็สามารถดึงคนกลุ่มนี้เข้ามาในระบบได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ ธนาคารยังมีแผนที่จะเปิดให้สินเชื่อรายย่อย เพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับหรือนาโนไฟแนนซ์ด้วยโดยคาดหวังจะช่วยดึงดอกเบี้ยในตลาดลงมาได้อีก 5%

เช่น ปัจจุบันดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลในตลาดมีเพดานที่ต้องไม่เกิน 25% นอนแบงก์ของธนาคารก็อาจเหลือไม่เกิน 20% ขณะที่ สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์มีเพดานดอกเบี้ยอยู่ที่ไม่เกิน 33% ในส่วนของออมสินจะอยู่ที่ไม่เกิน 28%

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ออมสินได้ทำธุรกิจจำนำทะเบียนรถยนต์ ซึ่งธนาคารได้ร่วมมือกับบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ผ่านบริษัทเงินสดทันใจนั้น ประสบความสำเร็จ สามารถช่วยให้ดอกเบี้ยเงินกู้ในระบบจำนำทะเบียนรถยนต์ ปรับลดลงได้ชัดเจนอย่างไรก็ตาม ในการร่วมมือนี้ ออมสินได้กำหนดเงื่อนไขว่าสามารถขายหุ้นคืนในราคาทุนได้ภายในสองปี แต่ถ้าออมสินขายหุ้นแล้ว จะต้องดูว่าจะทำอย่างไร ไม่ให้ดอกเบี้ยกลับไปแพงขึ้นเหมือนเดิม