ยูโอเบีไทยเผยรายย่อยโตต่อ หลังซื้อซิตี้แบงก์ หวังบัตรเครดิตแตะ 2.4 ล้านใบ
ธุรกิจรายย่อยของธนาคารยูโอบีในไทย เติบโตต่อเนื่อง หลังซื้อกิจการซิตี้แบงก์ โดยตั้งเป้ายอดบัตรเครดิตถึง 2.4 ล้านภายในสิ้นปีนี้ มองอัตราการเติบโตของตลาดเครดิตการ์ดในไทยไม่ต่ำกว่าสองหลัก
ภายหลังกระบวนการเข้าซื้อกิจการธนาคารลูกค้ารายย่อยของซิตี้กรุ๊ป ทั้งในมาเลเซียและไทยเสร็จสิ้น เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 นั้น ล่าสุดทาง นางวีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล Head of Retail and Brand ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าว่า ธุรกิจรายย่อยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
"ตลาดสินเชื่อรายย่อยในไทย มีขนาดธุรกิจใหญ่เป็นอันดับสองรองจากในสิงคโปร์ที่เป็นแม่ เช่นเดียวกับที่ธุรกิจสินเชื่อไม่มีหลักประกันในไทยใหญ่ มีขนาดใหญ่สุดในอาเซียน"
ทั้งนี้กลยุทธ์ของธนาคารจะยังคงเดินหน้า ผลักดันธุรกิจบัตรเครดิตให้เติบโตหลังการเปิดประเทศ โดยเฉพาะในส่วนการชำระเงินข้ามพรมแดน หลังผู้บริโภคเริ่มเดินทางและจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น รวมถึงมีแนวทางขยายธุรกิจรายย่อย ที่มุ่งให้ลูกค้าใช้บริการมากกว่า 1 ผลิตภัณฑ์ต่อรายอยู่แล้ว ซึ่งอัตราเฉลี่ยลูกค้าจะถือบัตรเครดิตของธนาคารที่ 1.4 - 1.5 ใบต่อคน
โดยพบว่า ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโตอย่างแข็งแกร่งสูงกว่าช่วงก่อนระบาดของโควิด-19 สำหรับลูกค้าของยูโอบีในไทยนั้นมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตรวมเพิ่มขึ้นถึงกว่า 200% เมื่อเทียบระหว่างไตรมาสแรกของปี 2019 กับ 2023 และมียอดใช้จ่ายบัตรเครดิตข้ามพรมแดนเพิ่มขึ้น 500% เมื่อเทียบระหว่างไตรมาสที่ 4 ของปี 2021 กับ 2022 ซึ่งถือว่าเติบโตสูงสุดในอาเซียน
นอกจากนี้ จากเป้าหมายที่ต้องการให้ธนาคารยูโอบีเป็นที่ชื่นชอบในกลุ่มลูกค้ารายย่อยของไทยนั้น นางวีระอนงค์กล่าวว่า จะเน้นกลยุทธ์ดึงศักยภาพของข้อมูลมาใช้ พร้อมเสริมด้วยเทคโนโลยี และความเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะเน้นการสื่อสารและให้บริการผ่านหลากหลายช่องทาง ทั้งการใช้ UOB Tomorrow app ที่ขับเคลื่อนด้วย AI การมีผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตสำหรับทุกกลุ่มไลฟ์สไตล์ และผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่มมั่งคั่ง
ด้านนายธีรวัฒน์ ตรีรัตน์ดิลกกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ Card Payment & Unsecure Products ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าในส่วนธุรกิจบัตรเครดิตเพิ่มเติมว่า หลังซื้อกิจการลูกค้ารายย่อยของซิตี้แบงก์แล้ว ใน 6 เดือนหลังโอนย้ายกิจการนั้น
ธุรกิจบัตรเครดิตเติบโตต่อเนื่อง โดยล่าสุด มียอดบัตรเครดิตอยู่ที่ 2.3 ล้านใบ ณ เดือนมีนาคม 2565 คาดว่าสิ้นปีจะอยู่ที่ 2.4 ล้านใบ เช่นเดียวกับ ณ ไตรมาสแรกของปี 2566 มียอดค่าใช้จ่ายผ่านบัตร เติบโตขึ้น 30% และมีการเติบโตของสินเชื่อคงค้างที่ 13% ตลอดจนธนาคารยังคงความสามารถในการหาลูกค้าบัตรใหม่ได้ดี ซึ่งมีการเติบโตต่อเนื่องตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 ถึง มีนาคม 2566
นอกจากนี้หลังซื้อกิจการธุรกิจรายย่อยจากซิตี้กรุ๊ปแล้ว ในส่วนธุรกิจบัตรเครดิต นอกจากมุ่งเติบโตด้านจำนวนบัตรเครดิตแล้ว ยังเน้นที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตลอดจนขยายส่วนแบ่งตลาดด้านยอดใช้จ่ายให้แข็งแกร่งขึ้นด้วย
นายธีรวัฒน์ เปิดเผยอีกว่า กลยุทธ์ของการหาลูกค้าใหม่ให้ความสำคัญกับช่องทางดิจิทัลและโซเชียลมีเดียเป็นหลัก รวมถึงยังมาจากช่องทาง Direct Sale เช่น การไปออกงานต่าง ๆ ตลาดจนช่องทาง Tele sale ด้วย เช่นเดียวกับการทำงานร่วมกับพันธมิตรต่าง ๆ ด้วย เพื่อทำให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้มากขึ้น
ด้านมุมมองต่อการเติบโตของตลาดบัตรเครดิตในไทยนั้น นายธีรวัฒน์ให้ความเห็นว่า จากที่ลูกค้าผ่านช่วงโควิด-19 ที่ใช้จ่ายระมัดระวังมาแล้ว ทำให้เห็นยอดการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565 แต่การใช้จ่ายบัตรที่ต่างประเทศมีแนวโน้มสูงขึ้น จนลูกค้ารายย่อยของนาคารธยูโอบีไทย ไปใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศสูงสุดในอาเซียน หรือเติบโตกว่า 500% อย่างไรก็ตามเชื่อว่าตลาดจะเติบโตที่ตัวเลขสองหลักแน่นอน
สำหรับตัวเลขหนี้เสียในส่วนลูกค้าบัตรเครดิตของธนาคารยูโอบีในไทยนั้น พบว่ามีอัตรา NPL ต่ำกว่าอัตรารวมของตลาด ณ ไตรมาสที่ 4/65 ที่ 2.3% และหลังรวมกิจการจบแล้วก็ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดธนาคารประกาศ เปิดตัวแคมเปญบัตรเครดิตใหม่ “For All You Love” ชูกลยุทธ์ผนึกกำลังกับแบรนด์ชั้นนำในภูมิภาคและแบรนด์ระดับโลกกว่า 40 แบรนด์ เพื่อมอบข้อเสนอพิเศษและสิทธิประโยชน์ ที่ดีที่สุดสำหรับ ผู้ถือบัตรเครดิตของยูโอบีทั้งในประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน
การเปิดตัวแคมเปญใหม่ในครั้งนี้ เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นของยูโอบีในการนำเสนอข้อเสนอพิเศษและสิทธิประโยชน์ที่ลูกค้าชื่นชอบ ซึ่งได้เพิ่มข้อเสนอและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ในหลากหลายหมวด เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า
ทั้งนี้ จากข้อมูลด้านการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของยูโอบีในปีที่ผ่านมาพบว่าหมวดท่องเที่ยว ร้านอาหาร และช้อปปิง เป็นหมวดที่มีการใช้จ่ายสูงที่สุด ธนาคารยูโอบีจึงมุ่งมั่นที่จะเพิ่มข้อเสนอและสิทธิประโยชน์ใหม่ใน 3 หมวดหลักนี้ให้กับลูกค้าผ่านการผนึกกำลังกับแบรนด์พันธมิตรที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในระดับภูมิภาค
ด้านความร่วมมือของยูโอบีในระดับภูมิภาคและในไทย นอกจากจะมีการเปิดตัวบัตรเครดิตของยูโอบีที่เป็นแบรนด์ร่วม (Co-brand) กับแบรนด์คอนซูเมอร์ในประเทศไทยถึง 5 บัตรแล้ว ยังมีดีลในประเทศอีกกว่า 2,000 รายการ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ายูโอบี พร้อมรางวัลและสิทธิพิเศษแบบเอ็กซ์คลูซีฟตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้าด้วย


