posttoday

นักลงทุนผวาข่าวแบงก์หาหลุมหลบภัย ส่งราคาทองฟิวเจอร์พุ่ง 20.40 ดอลล์

16 มีนาคม 2566

หลังข่าววิกฤติธนาคารสหรัฐและยุโรปสร้างความกังวลหนัก นักลงทุนจึงแห่ซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย บวกกับลุ้นว่าเฟดจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยเดือนนี้ ส่งให้ราคาทองฟิวเจอร์ปิดวันพุธ (15มี.ค.) พุ่งขึ้น 20.40 ดอลลาร์

สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนเม.ย. บวก 20.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,931.30 ดอลลาร์/ออนซ์

ด้วยนักลงทุนวิตกต่อสถานะการเงินของเครดิต สวิส ธนาคารใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสวิตเซอร์แลนด์ จนถูกซ้ำเติมอีกด้วยความกังวลที่รัฐบาลสหรัฐสั่งปิดกิจการของซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (Silicon Valley Bank) และซิกเนเจอร์ แบงก์ (Signature Bank)

ล่าสุดนักลงทุนพากันเทขายหุ้นเครดิต สวิส หลังธนาคารซาอุดี เนชั่นแนล แบงก์ (Saudi National Bank) หรือเอสเอ็นบี ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของเครดิต สวิส ประกาศว่า เอสเอ็นบีไม่สามารถเพิ่มความช่วยเหลือทางการเงินต่อเครดิต สวิส เนื่องจากจะทำให้เอสเอ็นบี ถือหุ้นในเครดิต สวิสมากกว่า 10% ซึ่งจะเป็นการทำผิดกฎระเบียบธนาคาร

โดยก่อนหน้านี้ เครดิต สวิสเปิดเผยว่า ธนาคารขาดทุนสุทธิ 1.4 พันล้านฟรังก์สวิสในไตรมาส 4/2565 โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.32 พันล้านฟรังก์สวิส ส่งผลให้ยอดขาดทุนตลอดทั้งปีอยู่ที่ 7.3 พันล้านฟรังก์สวิส

นอกจากนี้ ลูกค้าแห่ถอนเงินฝากมากกว่า 1.10 แสนล้านฟรังก์สวิสในไตรมาส 4/2565 ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับข่าวอื้อฉาวของธนาคารในการทำผิดกฎระเบียบ และความเสี่ยงในการถูกดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม ราคาทองยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยรวม 1% ภายในสิ้นปีนี้ ท่ามกลางวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารสหรัฐและยุโรป

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 57.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมวันที่ 21-22 มี.ค. และให้น้ำหนักเพียง 42.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25%

นอกจากนี้ นักลงทุนยังให้น้ำหนัก 67.3% ที่อัตราดอกเบี้ยเป้าหมายของเฟดจะลดลงสู่ระดับ 3.50-3.75% ในเดือนธ.ค. จากปัจจุบันที่ระดับ 4.50-4.75% ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากถึง 1.00% ในปีนี้