posttoday

เงินบาทอ่อนค่า หุ้นไทยแรงแผ่วช่วงปลายสัปดาห์

24 ธันวาคม 2565

แม้เงินบาททยอยแข็งค่า แต่ปลายสัปดาห์แผ่วลง หลังเงินเหรียญสหรัฐฯ รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดีกว่าคาด SET Index ฟื้นกลับมาช่วงกลางสัปดาห์ จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มแบงก์ เทคโนโลยีและพลังงาน แม้เผชิญปัจจัยลบจากต่างประเทศ

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท


เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าอีกครั้ง ท่ามกลางแรงขายเงินเหรียญสหรัฐฯ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) สร้างความประหลาดใจด้วยการประกาศขยายกรอบการเคลื่อนไหวของบอนด์ยีลด์รัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีมาเป็นกรอบ +/- 0.50% (จากเดิม +/- 0.25%) และแม้ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นจะกล่าวว่า การขยายกรอบการเคลื่อนไหวของบอนด์ยีลด์ดังกล่าว ไม่ใช่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ตลาดก็ตีความว่าเป็นการปรับท่าทีไปในเชิงคุมเข้มของธนาคารกลางญี่ปุ่น   

 

แต่เงินบาทลดช่วงบวกลงบางส่วนในช่วงปลายสัปดาห์ หลังจากที่เงินเหรียญสหรัฐฯ ได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด ซึ่งทำให้มีความกังวลว่า เฟดจะคงส่งสัญญาณนโยบายการเงินแบบคุมเข้มต่อไป ในวันศุกร์ที่ 23 ธ.ค. 2565 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 34.74 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับระดับ 34.98 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (16 ธ.ค.)

 

สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 19-23 ธ.ค. 2565 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 1,051 ล้านบาท และมีสถานะเป็น Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 25,461 ล้านบาท (ขายสุทธิ 11,794 ล้านบาท และตราสารหนี้ที่หมดอายุ 13,667 ล้านบาท)

 

สัปดาห์ถัดไป (26-30 ธ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ระดับ 34.50-35.00 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขการส่งออก และรายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนพ.ย. ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์โควิดในจีน และการเคลื่อนไหวของสกุลเงินเอเชีย

 

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนต.ค.  ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนพ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามสัญญาณและท่าทีต่อทิศทางนโยบายการเงินของผู้ว่าการ BOJ และข้อมูลกำไรภาคอุตสหกรรมเดือนพ.ย. ของจีนด้วยเช่นกัน

 

สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย

 

ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดใกล้เคียงสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้ SET Index เผชิญแรงขายในช่วงต้นสัปดาห์ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ เพราะแม้จะมีปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ แต่ตลาดกลับมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากที่ธนาคารกลางหลายประเทศยังคงส่งสัญญาณในเชิงคุมเข้มนโยบายการเงิน ขณะที่ล่าสุด BOJ ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนกรอบการเคลื่อนไหวของบอนด์ยีลด์อายุ 10 ปีให้กว้างขึ้นด้วยเช่นกัน

 

อย่างไรก็ดีหุ้นไทยทยอยฟื้นตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ นำโดย หุ้นแบงก์และหุ้นกลุ่มพลังงาน ประกอบกับหุ้นของบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์แห่งหนึ่งมีปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากประเด็นการถูกคัดเลือกเข้าคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 หุ้นไทยขยับขึ้นได้เพียงเล็กน้อยช่วงปลายสัปดาห์ เนื่องจากตลาดยังคงกังวลแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด


ในวันศุกร์ (23 ธ.ค.) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,617.55 จุด ลดลง 0.09% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 47,240.56 ล้านบาท ลดลง 20.37% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 1.69% มาปิดที่ระดับ 561.40 จุด     

 

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (26-30 ธ.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,600 และ 1,590 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,625 และ 1,635 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์โควิดในจีน รวมถึงการทำ Window Dressing ช่วงสิ้นปี

 

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนพ.ย. ดัชนีราคาบ้านเดือนต.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ กำไรบริษัทภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. ของจีน ยอดค้าปลีก และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. ของญี่ปุ่น 

เงินบาทอ่อนค่า หุ้นไทยแรงแผ่วช่วงปลายสัปดาห์

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด อาร์เซน่อล พบ คริสตัล พาเลซ คาราบาวคัพ วันนี้