posttoday

กรุงไทย เปิดตัวเป๋าตังเปย์ หวังผู้ใช้งานกว่า 5 ล้านรายภายในปีหน้า

13 ธันวาคม 2565

หลังเริ่มให้สมัครบริการเป๋าตังเปย์มียอดผู้ใช้งานแล้วถึง 115,600 ราย โดยตั้งเป้ากวาดถึง 5 ล้านรายภายในปีหน้า สานต่อ super wallet ที่เปิดกว้างและได้รับความนิยมสูงภายใน 3 ปี เผยแบงก์ใส่งบปั้นแพลตฟอร์มกว่า 1.1 หมื่นล้านบาทต่อปี

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เพื่อตอกย้ำการเป็นส่วนหนึ่งที่จะขับเคลื่อนสังคมไร้เงินสดอย่างยั่งยืน ธนาคารกรุงไทย จึงร่วมกับ บริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย พัฒนาบริการ “เป๋าตังเปย์” (Paotang Pay) ให้เป็นซูเปอร์วอลเล็ต (super wallet) ของคนไทย หรือ Thailand Open Digital Platform ซึ่งเพิ่มศักยภาพแอปเป๋าตังให้ครบวงจรมากขึ้น เพื่อต้องการยกระดับคุณภาพชีวิต และลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจดิจิทัล 

 

โดยหลังจากเปิดให้สม้ครใช้บริการตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 พบว่ามีจำนวนผู้ใช้งานแล้วถึง 115,600 ราย ซึ่งธนาคารคาดว่าจะมีผู้ใช้งานกว่า 5 ล้านรายภายในสิ้นปี 2566 ที่สำคัญยังวางเป้าหมายให้เป๋าตังเปย์เป็น super wallet อย่างแท้จริง นั่นคือมีความเปิดกว้างในรูปแบบของ Open Digital Platform ซึ่งเชื่อมทุกช่างทางการใช้จ่ายแบบไร้รอยต่อ และเป็นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) ที่ได้รับความนิยมในการใช้งานสูง ภายใน 3 ปีด้วย 

 


ทั้งนี้จะเป็นไปตามยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงิน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ใน 5 Ecosystems หลัก ทั้งบริการภาครัฐ การศึกษา การขนส่งมวลชน สุขภาพและการรักษาพยาบาล รวมถึงการชำระเงิน ซึ่งเป็นหนึ่งในบริการหลักของระบบธนาคาร และเป็นปัจจัยสนับสนุนทุกกิจกรรมในระบบเศรษฐกิจ 

 

"ปกติธนาคารใช้งบประมาณในการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มที่ 1.1 ถึง 1.2 หมื่นล้านบาทต่อปี" 

 

โดยพบว่าช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รูปแบบการชำระเงินของไทยเปลี่ยนแปลงไปสู่การชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Digital Payment อย่างชัดเจน จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้ประชาชนหันมาใช้จ่ายผ่านช่องทางดิจิทัลแทนเงินสดมากขึ้น

 

อีกทั้งจากข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย ล่าสุด ณ เดือนกันยายน 2565 ระบุว่า มีการใช้จ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) เพิ่มขึ้นเฉลี่ยที่ 400 รายการต่อคนต่อปี จากปี 2564  อยู่ที่ 312 รายการต่อคนต่อปี และปี 2563 อยู่ที่ 202 รายการต่อคนต่อปี 

 

โดยช่องทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Internet & Mobile Banking มีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 133 ล้านบัญชี มีปริมาณธุรกรรม 2,139 ล้านรายการ เพิ่มขึ้น 48.6% มูลค่ารวม 8.43 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.3% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 


ขณะที่ธุรกรรมที่เติบโตสูงคือ e-Wallet ซึ่งเป็นการชำระเงินของคนรุ่นใหม่ มีไลฟ์สไตล์ชอบความสะดวก รวดเร็ว ทำธุรกรรมได้แบบเรียลไทม์บนมือถือ ที่มีจำนวนผู้ใช้งานถึง 122.6 ล้านบัญชี ปริมาณธุรกรรม 302 ล้านรายการต่อเดือน เพิ่มขึ้น 38.5% มูลค่ารวม 5.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

"ล่าสุดแอปเป๋าตังมีผู้ใช้ถึง 40 ล้านคนแล้ว ซึ่งพบว่าผู้ใช้อายุ 30 ปีขึ้นไปคือกลุ่มที่ใช้งานที่ active สูงสุด"

 

ด้านนางประราลี รัตน์ประสาทพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินฟินิธัส บาย กรุงไทย จำกัด ในฐานะผู้พัฒนาแอปฯ เป๋าตัง ให้ความเห็นถึงโอกาสของบริการเป๋าตังเปย์อีกว่า ทิศทางการชำระเงินในอนาคตจะมุ่งสู่ Digital Payment อย่างชัดเจน จากรายงาน Global Payments ของ World Pay ชี้ว่ามีปัจจัยสนับสนุนในหลายด้าน

 

เบอร์สำหรับปัจจัยที่หนึ่งคือความนิยม super app หรือ app ที่รวมฟังก์ชันต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เพราะช่วยให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์การใช้จ่ายแบบครบวงจรจากแพลตฟอร์มเดียว ส่วนปัจจัยต่อมา คือ ผู้บริโภคชอบการชำระเงินที่มีความคล่องตัว ใช้งานง่ายและรวดเร็ว ไม่จำเป็นต้องพกเงินสด

 

สาม คือ ผู้ให้บริการ e-Commerce ชั้นนำ ต่างเปิดรับการชำระเงินด้วย e-Wallet และพัฒนาบริการของตัวเองขึ้นด้วย เพื่อเพิ่มช่องทางการรับชำระค่าสินค้าและบริการให้ผู้บริโภค สี่คือ มีช่องทางการเติมเงินเข้า e-Wallet ที่หลากหลายขึ้น ทั้งบัตรเครดิต บัตรเดบิต บัญชีธนาคาร เป็นต้น ส่วนปัจจัยที่ 5 คือ การชำระเงินแบบไร้สัมผัสมีการเร่งตัวขึ้น โดยผู้บริโภคเริ่มใช้เงินสดน้อยลงและใช้ e-Wallet มากขึ้น

 

จากทิศทางดังกล่าว เป๋าตังเปย์จึงถือเป็นบริการอีกขั้นของการชำระเงินในรูปแบบ super wallet app ที่ผสานความสามารถของ Bank app และ e-Wallet เข้าด้วยกันให้บริการแบบ Open Loop เป็นครั้งแรก โดยใช้ QR พร้อมเพย์ เป็นตัวกลาง จึงเปิดกว้างทุกการใช้จ่าย ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้จ่ายทุกร้านค้าได้อย่างอิสระ ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ มุ่งขยายฐานผู้ใช้งานกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และวัยเริ่มต้นทำงานที่มีเพียง 30% บนแอปฯ เป๋าตังเป็นหลัก

 

นอกจากนี้ เพื่อให้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง บริการเป๋าตังเปย์จึงถูกออกแบบและพัฒนาโดยทีมคนรุ่นใหม่ INFINITAS NEXT GEN TEAM ตามแนวคิด “เปย์ไปมีแต่ได้” ที่ครอบคลุมทั้งบริการโอนเงิน เติมเงิน สแกนจ่ายผ่านคิวอาร์พร้อมเพย์ได้ทุกธนาคาร และทุกร้านค้าทั่วไทย ตลอดจนชำระบิลค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ บัตรเครดิต ประกัน หรือค่าธรรมเนียมหน่วยงานภาครัฐ ฯลฯ ซึ่งจะมาพร้อมสิทธิประโยชน์และภารกิจสนุกๆ เพื่อพิชิตคูปองส่วนลดมากมาย 

 

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สามารถใช้จ่ายได้ทุกร้านทั่วไทยอย่างแท้จริง ยังเปิดตัว บัตรเพลย์ บัตรที่เชื่อมกับเป๋าตังเปย์ ผสานการใช้งานออนไลน์-ออฟไลน์ ใช้ชำระค่าโดยสารระบบขนส่งมวลชน แบบ Contactless แตะจ่ายได้ทั้งรถ ระบบราง และทางด่วน ใช้ซื้อสินค้าออนไลน์ และรูดจ่ายผ่านเครื่อง EDC Payment 

 

โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมในการออกบัตร เมื่อออกบัตรภายในวันที่ 31 มกราคม 2566 และใช้จ่ายผ่านบัตรเพลย์ ครบ 1,000 บาท/บัตร/เดือน รับสิทธิ์รับเครดิตเงินคืนเข้าเป๋าตังเปย์ 45 บาทต่อเดือน (จำกัด 1,000 สิทธิ์/เดือน) ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2565 – 28 กุมภาพันธ์ 2566 

 

สำหรับผู้ที่สนใจใช้งานเป๋าตังเปย์ นั้น สามารถสมัครใช้งานได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องมีบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ เพียงกรอกข้อมูลบัตรประชาชนข้อมูล CDD (Customer Due Diligence) สแกนใบหน้ายืนยันตัวตน หากสมัครเป๋าตังเปย์สำเร็จ จะสามารถกดสมัครบัตรเพลย์บนแอปฯ เป๋าตังได้ทันที จึงสะดวกและสามารถเติมเงินได้หลายช่องทาง ทั้ง G-Wallet Krungthai NEXT และ Mobile Banking ของทุกธนาคาร หรือผ่าน QR Code รับเงิน โดยไม่มีค่าธรรมเนียม 

ข่าวล่าสุด

บอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด โปรแกรมฟุตบอล วันจันทร์ที่ 15 ธ.ค. 68