อัศจรรย์พันลึก
เชตวัน...อลังการงานสร้างของสุทัตตเศรษฐี
เชตวัน...อลังการงานสร้างของสุทัตตเศรษฐี
โดย..อ. ตุ้ย วรธรรม
ถามว่าวัดที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับจำพรรษามากที่สุด ก็คือ วัดพระเชตวัน หรือเชตวันมหาวิหาร รวมทั้งหมด 19 พรรษา
ด้วยเวลา 19 พรรษา จึงเป็นวัดที่มีเรื่องราวและพระสูตรสำคัญๆ เกิดขึ้นมากมาย อาทิ เรื่องพระพุทธองค์ทรงดูแลภิกษุไข้ เรื่องของพระองคุลิมาล นางปฏาจาราเถรี พระนางกิสาโคตมีเถรี การถวายอสทิสทาน พราหมณ์จูเฬกสาฏก เรื่องทรงพยากรณ์สุบินนิมิต 16 ประการของพระเจ้าปเสนทิโกศล นางจิญมาณวิกาถูกแผ่นดินสูบ พระเทวทัตถูกแผ่นดินสูบ เป็นต้น
ในส่วนพระสูตร เช่น มหามงคลสูตร ธชัคคสูตร ทสธัมมสูตร สาราณียธรรมสูตร อหิราชสูตร เมตตานิสังสสูตร คิริมานนทสูตร ธัมมนิยามสูตร อปัณณกสูตร อนุตตริยสูตร อินทริยสูตร อนริยสูตร สัปปุริสธัมมสูตร เป็นต้น
ทรงแสดง ณ วัดเชตวันมหาวิหาร ที่สร้างขึ้นด้วยทรัพย์มหาศาลของ สุทัตตเศรษฐี หรือที่ชาวบ้านรู้จักในชื่อ อนาถบิณฑิกเศรษฐี หรือ เศรษฐีขวัญใจคนจน นั่นเอง
ที่ต้องเล่าเกี่ยวกับวัดเชตวันเพราะประวัติการสร้างวัดโดยเฉพาะการได้มาซึ่งที่ดินสร้างวัดนั้นต้องถือว่าเป็นที่เซอร์ไพรส์อย่างมากของคนในสมัยนั้น
สุทัตตะไม่ได้มีที่ดินของตัวเอง จึงไปทำการซื้อที่ดิน และที่ดินที่เศรษฐีซื้อก็คือเป็นที่ดินของเจ้าชายเชตกุมาร เจ้าชายในราชวงศ์โกศลแห่งเมืองสาวัตถี พื้นที่เป็นพระราชอุทยานร่มรื่นอยู่นอกตัวเมืองหลวง มีเนื้อที่ประมาณ 80 ไร่
ข้อตกลงในสัญญาซื้อขายที่ดินผืนนี้มีว่าเศรษฐีใหญ่แห่งสาวัตถีจะต้องนำเงินไปปูลาดให้เต็มที่พื้นที่ที่ต้องการ มันเป็นวิธีที่แปลกมาก เพราะไม่ว่าที่ไหน ตกลงราคาเท่าไหร่ รับเงินไปก็จบ
แต่สัญญานี้ เศรษฐีต้องนำเงินไปวางให้เต็มพื้นที่ที่ต้องการจะสร้างการซื้อขายจึงจะถือว่าสำเร็จเสร็จสิ้น ปรากฏว่าพื้นที่ดังกล่าวต้องใช้เงินทั้งหมด 18 โกฏิ (ตามค่าเงินในสมัยนั้น) ซึ่งมหาศาลมาก
ความจริง สุทัตตเศรษฐี ไม่ใช่ไม่มีที่ดินนะ ที่ดินนั้นมีมาก แต่ไม่มีที่ตรงไหนเป็นที่ถูกใจเขาแม้แต่ที่เดียว นอกจากพระราชอุทยานของเชตกุมาร
เหตุผลที่เลือกสถานที่แห่งนี้ เพราะเศรษฐีมีหลักในการพิจารณาว่า พื้นที่นั้นจะต้องอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านเกินไป เพื่อความสะดวกของพระสงฆ์ในการบิณฑบาต ในขณะเดียวกันก็จะไม่อยู่ใกล้หมู่บ้านมากเกินไปเพื่อป้องกันการพลุกพล่าน
เป็นสถานที่ที่การคมนาคมไปมาสะดวก กลางวันคนไม่มาก กลางคืนเงียบสงบ เป็นที่ที่เหมาะกับการปฏิบัติธรรมของผู้ที่รักความสงบทั้งหลาย
นอกจาก 18 โกฏิในการซื้อที่ดินแล้ว สุทัตตเศรษฐี ก็ได้ทุ่มเงินอีก 18 โกฏิ ในการสร้างเสนาสนะที่อยู่อาศัยของภิกษุสามเณร และอีก 18 โกฏิ ในการสร้าง พระคันธกุฏิที่ประทับของพระบรมศาสดา
รวมแล้วใช้เงิน 54 โกฏิ ไม่รวมเงินที่ใช้ในการเฉลิมฉลองยาวนาน 9 เดือน ที่ถวายภัตตาหารพระสงฆ์โดยมีพระพุทธเจ้าเป็นประธานทุกวัน
ปกติสร้างเสร็จแล้วก็จะตั้งชื่อวัด โดยทั่วไปจะใช้ชื่อผู้สร้างหรือที่เกี่ยวกับตระกูลตั้งเป็นชื่อวัด แต่สำหรับเศรษฐีไม่ได้ใช้ชื่อของตัวเองที่อาจจะตั้งว่า “วัดสุทัตตาราม” ก็ได้ แต่กลับต้องใช้ชื่อของเจ้าของที่คนเก่าคือ “เจ้าชายเชต” ว่า วัดเชตวัน
เข้าใจว่าที่เป็นเช่นนั้น ถ้าไม่เจ้าชายเชตเป็นฝ่ายขอก็น่าจะเป็นเพราะสุทัตตเศรษฐีนั่นแหละที่ต้องการตอบแทนคุณในการที่เชตกุมารทรงขายที่ดินผืนดังกล่าวให้สร้างวัดถวายพระพุทธเจ้าอย่างยิ่งใหญ่อลังการสมพระเกียรติ
แต่จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ก็ถือเป็นความใจกว้างของสุทัตตเศรษฐีทั้งนั้น
เพราะถ้าจะย้อนอดีตก่อนที่เขาจะมาสร้างวัด รู้ไหมเพียงเขาได้ยินคำว่า “พระพุทธเจ้า” เสด็จขึ้นในโลกเท่านั้นก็เกิดปีติและศรัทธาอย่างแรงกล้าพร้อมประกาศตนที่จะสร้างวัดถวายทันที
และจะมีสักกี่คนล่ะที่กล้าทำแบบนี้และทำได้อย่างอลังการเหลือล้นและไม่ใช่เพื่อหน้าตาเกียรติยศชื่อเสียงบ้าง


