posttoday

ข้าวจี่ กู๊ดมอร์นิ่ง แปลงของแปลกเป็นแฟรนไชส์

11 มิถุนายน 2554

ในยุคที่อะไรๆ ก็ว่าตามกัน การนำเสนอสิ่งแปลกใหม่ ไม่คุ้นเคย

ในยุคที่อะไรๆ ก็ว่าตามกัน การนำเสนอสิ่งแปลกใหม่ ไม่คุ้นเคย

โดย...สิทธิณี ห่วงนาค

เชิญชวนให้น่าทดลอง กลายเป็นช่องทางหนึ่ง ที่สร้างโอกาสทางธุรกิจได้อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่ง ชัยพร ศรีวิโรจน์ หรือ ป้อม เจ้าของแฟรนไชส์ไก่ย่างเขาสวนกวางอันลือลั่น เป็นผู้ที่กล้าลองกับความเชื่อนั้น จนเป็นที่มาของ แฟรนไชส์ ข้าวจี่ กู๊ดมอร์นิ่ง

ข้าวจี่ กู๊ดมอร์นิ่ง แปลงของแปลกเป็นแฟรนไชส์

 ชัยพร กล่าวว่า เริ่มทำแฟรนไชส์ข้าวจี่ กู๊ดมอร์นิ่ง หลังประสบความสำเร็จจาก ไก่ย่างเขาสวนกวาง ที่ปัจจุบันเป็นแฟรนไชส์ยอดฮิตติดลมไปแล้ว ก็เริ่มมองหาธุรกิจใหม่ โดยพบว่า ข้าวจี่ หรือ บั่นหมี่ อาหารยอดนิยมของคนเวียดนาม เป็นอาหารเช้ายอดนิยมของคนไทยในจังหวัดริมฝั่งโขงหลายจังหวัดเช่นกัน ไล่ตั้งแต่ จ.อุดรธานี นครพนม มุกดาหาร อุบลราชธานี ที่นอกจากเมนูไข่กระทะแล้ว จะต้องมีข้าวจี่เป็นหนึ่งในหลายเมนูอาหารเช้า

ข้าวจี่ กู๊ดมอร์นิ่ง แปลงของแปลกเป็นแฟรนไชส์

 ที่สำคัญ คนกรุงเทพฯ หรือคนจากจังหวัดอื่น เมื่อไปเยือนเมืองริมโขง กว่า 90% ต้องลองเมนูไข่กระทะ ข้าวจี่ เป็นเมนูอาหารเช้า แน่นอนว่าหลังการลิ้มลอง ล้วนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “อร่อย”

“ผมเห็นคนกรุงเทพฯ ชอบไปกิน ตอนเช้าสั่งกันเกือบทุกโต๊ะ ใส่ซอสพริก ซอสมะเขือเทศ แล้วบอกอร่อยกันทุกคน สั่งเพิ่มทุกโต๊ะ ก็จะไม่อร่อยได้อย่างไร แป้งก็หอมนุ่ม ใส่ทั้งหมูยอ กุนเชียง จึงคิดว่าน่าจะลองทำขายดู จากนั้นก็ติดต่อหาพ่อครัวแม่ครัวคนเวียดนามต้นตำรับมาทำจริงๆ จังๆ”

ชัยพร เชื่อว่า สิ่งที่จะทำให้สินค้าตัวนี้ไปได้ก็คือความแปลกใหม่ เพราะคนทั่วไปเริ่มเบื่ออาหารเช้าประเภท ปาท่องโก๋ ซาลาเปา ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ซึ่งจะเป็นช่องให้ข้าวจี่ กู๊ดมอร์นิ่ง แทรกเข้ามาได้

ก่อนทำสินค้าตัวนี้ เจ้าตัวก็ตระเวนชิมหลายร้าน ทดลองทำกับพ่อครัวอยู่นานสองนาน จนได้แป้งข้าวจี่ที่อร่อยน่าพอใจ กรอบนอก นุ่มใน ซึ่งปกติการทำแป้งข้าวจี่ก็ทำยากอยู่แล้ว คนเคยทำจะรู้ เพราะทำแป้งข้าวเหนียวกว่าจะตีให้นุ่ม ฟู กรอบนอกนุ่มในนั้นทำยาก ใครทำไม่เป็นก็จะออกมาแข็งเหมือนแป้งขนมปัง ส่วนไส้ที่ใส่นั้น ก็ทำเองทั้งหมด ทั้งหมูยอ กุนเชียง และไก่เชียง สำหรับตลาดอิสลาม

ข้าวจี่ กู๊ดมอร์นิ่ง แปลงของแปลกเป็นแฟรนไชส์

ก่อนใส่ไส้จะทาเนยที่ตัวแป้งก่อน เพิ่มความหอม ตามด้วยผักเช่นแตงกวา ทำให้ข้าวจี่ที่ได้ออกมาไม่เป็นสองรองใคร เจ้าตัวกล้าพูดได้เต็มปากว่า “ไม่ได้โม้”

หลังจากคิดทำตลาด ประเดิมขายที่หน้าธนาคารกรุงเทพ สาขาสีลม ซอยละลายทรัพย์ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงขายได้กว่า 2,000 ชิ้น ทำให้ยิ่งมั่นใจว่า น่าจะเป็นธุรกิจที่ไปได้

จากความอร่อยที่เจ้าตัวบอกว่า เอาความสำเร็จของไก่ย่างเขาสวนกวางเฮียป้อมเป็นประกัน ทำให้เขาเริ่มธุรกิจแฟรนไชส์ตัวนี้เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะนี้มีประมาณ 6 ราย ที่ซื้อแฟรนไชส์ไปแล้ว อีกหลายรายอยู่ระหว่างติดต่อ เพราะเจ้าตัวบอกว่า โตแบบเรื่อยๆ แต่ต้องมั่นคง

“ก่อนหน้าจะมีการขายใน 2 แบบ คือ แบบแฟรนไชส์ และ แบบผลิตข้าวจี่เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าที่มีหน้าร้านอยู่แล้วรับไปจำหน่าย คิดราคาส่งชิ้นละ 8 บาท แต่เนื่องจากรูปแบบที่ให้ คือ ซื้อข้าวจี่ จึงไม่ได้ช่วยส่งเสริมแบรนด์ ข้าวจี่ กู๊ดมอร์นิ่ง เพราะลูกค้าซื้อแล้วไปวางจำหน่ายในร้านค้าที่มีอยู่แล้ว ทำให้ชื่อสินค้าจมไปกับของกินชนิดอื่น สุดท้ายเลยหันมาเน้นแฟรนไชส์อย่างเดียว เป็นการส่งเสริมแบรนด์ และที่สำคัญลูกค้ารู้จักชื่อ ชัยพร แฟรนไชส์ไก่ย่างเขาสวนกวาง ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ ช่วยกระตุ้นให้ยอดขายดีไปด้วย”

ปัจจุบัน ราคาแฟรนไชส์อยู่ที่ 9,999 บาท คนที่มาซื้อแฟรนไชส์จะได้ตู้คีออสก์ เฉพาะค่าคีออสก์ก็ประมาณ 5,000 บาท หม้ออบความร้อน 1 ชุด ราคาประมาณ 1,200 บาท และอื่นๆ

สมาชิก ราคาส่งชิ้นละ 7 บาท สามารถนำไปขายเองได้ในราคาที่ต้องการ ปกติราคาประมาณ 12 บาท ขึ้นอยู่กับศักยภาพของพื้นที่ หากซื้อ 100 ชิ้นขึ้นไป ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่งฟรี ส่วนต่างจังหวัดจะมีศูนย์ส่งจาก จ.ขอนแก่น

ใครสนใจลงทุนติดต่อล่วงหน้า 1 วัน จากนั้นจะนัดแนะให้มาที่ ร้านอาหารสุดทางรัก ซอยเฉลิมพระเกียรติ 28 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ เพื่อตกลงธุรกิจกัน โดยจะมีการฝึกการอบข้าวจี่จากหม้ออบความร้อน เพื่อให้ได้ข้าวจี่ที่กรอบนอก นุ่มใน ตรงตามสูตร ใช้เวลาในการสอนไม่นาน

ข้าวจี่ที่มีการสั่งซื้อเข้ามานั้น จะมีการผลิตทุกวัน ส่งสินค้าวันต่อวัน เก็บในตู้เย็นทั่วไปไม่เกิน 3 วัน ทำให้รับประกันได้ว่าสินค้ามีความสดใหม่ตลอด

ความสำเร็จของ ชัยพร วันนี้ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความสำเร็จที่มาจากพรแสวงล้วนๆ ไม่ต้องรอสวรรค์ประทานหรือโชคบันดาลให้เกิดขึ้น 
 

 

ข่าวล่าสุด

วปอ.68 มอบตาข่ายป้องกันโดรน ทิ้งระเบิด และสิ่งของ ช่วยทหารชายแดนภาค 2