เอไอเอขย่มธุรกิจลดค่าเบี้ยโรคร้าย
โพสต์ทูเดย์
— เอไอเอ ประเทศไทย ปรับลดเบี้ยประกันภัยของสัญญาเพิ่มเติมผลประโยชน์โรคร้ายแรงต่อเนื่องลง 79%นายสุทธิ รจิตรังสรรค์ รองประธานอาวุโสฝ่ายบริหาร บริษัท อเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์ สาขาประเทศไทย (เอไอเอ) เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับลดอัตราเบี้ยประกันภัยของสัญญาเพิ่มเติมผลประโยชน์โรคร้ายแรงต่อเนื่อง (ECIR) สำหรับผู้เอาประกันภัยในช่วงอายุ 2049 ปี ยกเว้นผู้หญิงอายุ 4041 ปี ลงประมาณ 79% โดยมีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2553 เช่น ผู้ชายวัย 35 ปี ที่เคยชำระอัตราเบี้ยประกัน ECIR ที่ 2.48 บาทต่อจำนวนเงินเอาประกัน 1,000 บาท จะปรับลดลงเหลือ 2.26 บาทต่อจำนวนเงินเอาประกัน 1,000 บาท หรือลดลง 8.9% ส่วนผู้หญิงวัย 35 ปีที่เคยชำระอัตราเบี้ยประกัน ECIR ที่ 3.45 บาทต่อจำนวนเงินเอาประกัน 1,000 บาท จะปรับลดเป็น 3.16 บาทต่อจำนวนเงินเอาประกัน 1,000 บาท หรือลดลง 8.4%
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยคนไทยให้มีเครื่องมือในการบริหารค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพในระดับหนึ่ง ท่ามกลางค่าใช้จ่ายเพื่อสุขภาพต่อประชากรไทยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มจาก 545 บาทต่อคนต่อปี ในปี 2523 เป็น 6,994 บาทต่อคนต่อปี ในปี 2548 หรือเพิ่มขึ้น 12.8 เท่า ภายในระยะเวลา 25 ปี ซึ่งเป็นสถิติของกระทรวงสาธารณสุข ประกอบกับสภาวะแวดล้อมและปัญหาสังคมส่งผลให้ประสบกับมลพิษและความเครียด จึงเป็นปัจจัยก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรงร้ายแรงเพิ่มมากขึ้น
สำหรับสัญญาเพิ่มเติมผลประโยชน์โรคร้ายแรงต่อเนื่อง หรือ ECIR จะให้ความคุ้มครองตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของสัญญาในโรคร้ายแรง 40 โรค คือ โรคมะเร็ง โรคกล้ามเนื้อหัวใจ ความบกพร่องทางระบบประสาทอันเนื่องมาจากความผิดปกติของหลอดเลือดสมอง (Stroke) ไตวาย ตับวาย อัมพาต โปลิโอ กล้ามเนื้อเสื่อม การปลูกถ่ายอวัยวะ ไวรัสตับอักเสบชนิดรุนแรง โรคโลหิตจางจากไขกระดูกไม่สร้างเม็ดโลหิต ตาบอด เนื้องอกในสมองชนิดที่ไม่ใช่มะเร็ง แผลจากไฟไหม้น้ำร้อนลวก โรคลำไส้อักเสบเป็นแผล โรคสมองเสื่อม (อัลไซเมอร์) โรคระบบประสาทพาร์กินสัน โรคเท้าช้าง สมองอักเสบจากเชื้อไวรัส การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ เป็นต้น โดยผู้เอาประกันภัยต้องเป็นผู้ถือกรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีอายุระหว่าง 2065 ปี และมีสุขภาพที่แข็งแรง


