กสิกรอุ้มลูกค้า KGOLD

 ‘กอง SPDR’สิงคโปร์เป็นพิษเอ็นเอวี18มี.ค.แพงผิดปกติ

กองทุน SPDR Gold Trust ที่สิงคโปร์ทำพิษ เอ็นเอวี18 มี.ค. สูงผิดปกติ บลจ.กสิกรไทย ยอมควักเนื้อชดเชยผู้ถือหน่วยลงทุน K-GOLD 2%

นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2554 ราคาปิด ณ สิ้นวันของหน่วยลงทุน (เอ็นเอวี) ของกองทุน SPDR Gold Trust ในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ซึ่งเป็นกองทุนหลักของกองทุนเปิดเค โกลด์ (K-GOLD) เกิดความผิดปกติ จนทำให้ราคาหน่วยลงทุน SPDR Gold Trust ขยับเพิ่มขึ้นไปปิดที่ 144.90 เหรียญสหรัฐ/หน่วย หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 6.07% ขณะที่ราคาทองคำในตลาดโลกในวันเดียวกันเพิ่มขึ้นเพียง 0.86% เท่านั้น

“ความผิดปกติดังกล่าวส่งผลให้เอ็นเอวีของกองทุน K-GOLD เมื่อในวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ 12.5050 บาท หรือเพิ่มขึ้นจากวันที่ 17 มี.ค. ถึง 5.70% ซึ่งกองทุนทองคำของ บลจ.อื่น ที่ลงทุนใน SPDR GOLD Trust ในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน เฉลี่ยประมาณ 5-6%” นายพัชร กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้การซื้อขายในตลาดสิงคโปร์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว

นายพัชร กล่าวว่า แม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเป็นเหตุสุดวิสัย แต่ทำให้นักลงทุนที่ซื้อหน่วยลงทุนในวันที่ 18 มี.ค. มีต้นทุนเพิ่มขึ้นกว่าที่ควรเป็นประมาณ 3% เมื่อเทียบกับเอ็นเอวีในวันที่ 23 มี.ค. ดังนั้น บลจ.กสิกรไทย จึงมีนโยบายที่จะให้ความช่วยเหลือ โดยการซื้อหน่วยลงทุนกองทุน K-GOLD เพิ่มเติมให้ให้กับนักลงทุนที่มีคำสั่งซื้อเข้ามาในวันที่ 18 มี.ค. ในอัตรา 2% ของจำนวนเงินที่สั่งซื้อในวันดังกล่าวโดยอัตโนมัติในวันที่ 28 มี.ค.

“การที่เราเข้ามารับผิดชอบค่าใช้จ่ายสำหรับการซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มเติม 2% นี้ให้ จึงเท่ากับช่วยลดภาระเรื่องต้นทุนจากเหตุการณ์นี้ให้แก่ผู้ลงทุนไปได้มากพอสมควร” นายพัชร กล่าว

นายธนวัฒน์ รุ่งธนาภิรมย์ ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และจัดการกองทุนต่างประเทศ บลจ.กสิกรไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า เอ็นเอวีที่ผิดปกติของกองทุน SPDR Gold Trust ในตลาดสิงคโปร์เกิดจากในช่วงท้ายตลาดมีนักลงทุนส่งคำสั่งซื้อที่มีราคาสูงผิดปกติ จึงส่งผลให้ราคาปิดของหน่วยลงทุนสูงผิดปกติไปด้วย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2549

ทั้งนี้ ประเทศไทยมีกองทุนทองคำที่ลงทุนในกองทุน SPDR GOLD Trust จดทะเบียนซื้อขายในตลาดสิงคโปร์อยู่ 6 กองทุน