บอร์ดปาล์มคงราคาขาย47บาท

มติบอร์ดปาล์ม ให้คงราคาขายน้ำมันปาล์มขวดละ 47 บาท ยังไม่ได้ข้อสรุปชดเชยปาล์ม 4 หมื่นตัน รอถกต่อพุธหน้า

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติไม่ปรับลดราคาจำหน่ายปลีกน้ำมันบรรจุขวด ขนาด 1 ลิตร โดยคงราคาจำหน่ายอยู่ที่ขวดละ 47 บาทเช่นเดิม เนื่องจากต้องพิจารณาต้นทุนอีกครั้ง เพื่อให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย และเชื่อว่าน้ำมันปาล์มจะไม่เข้าสู่ภาวะขาดแคลนอีก เพราะปริมาณผลปาล์มเริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้น และเริ่มมีสต๊อกใกล้เคียงภาวะปกติ โดยจะพิจารณาสถานการณ์อีกครั้ง ภายในวันที่ 30 มี.ค.นี้

ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้ทบทวนถึงความจำเป็นที่ให้โรงกลั่นใช้น้ำมันดิบภายในประเทศอีก 4 หมื่นตัน ซึ่งเป็นมติคณะกรรมการฯครั้งที่แล้ว โดยรัฐบาลจะชดเชยเงินให้ 2.50 บาท/กก. ยังมีความจำเป็นหรือไม่ ซึ่งครั้งนี้ทางกระทรวงพาณิชย์และเอกชนยังตอบไม่ได้ จึงได้ให้ระยะเวลาไปประเมิน 7 วัน และนำกลับมาเสนอในที่ประชุมคณะกรรมการฯใหม่ครั้งหน้า   

สำหรับ การเตรียมรับมือกับผลผลิตที่ออกมามาก และเกรงว่าเกษตรกรจะขายได้ราคาลดลง จึงให้กระทรวงพลังงานไปดูการเพิ่มไบโอดีเซล จากบี 2 เป็นบี 3 บี 5 เพื่อจะดูดปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้นได้ โดยตั้งสมมุติฐานว่า ถ้าเป็นไปได้อยากให้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.  เป็นต้นไป และอาจขอให้กระทรวงพลังงาน ไปกำหนดน้ำมันปาล์มดิบที่จะซื้อและราคาตายตัวชัดเจนในช่วงที่ราคาผันผวน เพื่อให้เกษตรกรมีเวลาปรับตัว เช่น อาจจะให้กำหนดราคาซื้อน้ำปาล์มดิบในประเทศ ในราคากก.ละ 40-41 บาท ถ้าทำอย่างนี้ จะสามารถทอนลงไปถึงเกษตรกรได้ว่า สามารถขายปาล์มทลายได้ในราคากก.ละ 6 บาทกว่า 

นายฉัตรชัย ชูแก้ว ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ กล่าวว่า กรณีที่มีบางบริษัทกล่าวหาว่าไม่มั่นใจนโยบายของกระทรวงพาณิชย์นั้น ไม่อยากให้ความสำคัญ เพราะบริษัทที่กล่าวหาเป็นบริษัทที่เคยเอาเปรียบประชาชนในช่วงที่มีปัญหาน้ำมันปาล์มขาดแคลน โดยได้มีการตรวจจับได้ว่ามีการกักตุนถึง 2 ล้านขวด ก่อนที่จะมีการปรับราคาจากขวดละ 38 เป็น 47 บาท โดยกระทรวงพาณิชย์ยืนยันว่า การเสนอให้คณะอนุกรรมการน้ำมันพืชบริโภคพิจารณาปรับลดราคาขายปลีกนั้น เป็นไปตามต้นทุนที่แท้จริง เพราะหากต้นทุนลดลง ก็ควรจะลดราคาลง เพื่อช่วยเหลือประชาชนชน

พร้อมกันนี้ รมว.พาณิชย์ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในไปติดตามและตรวจสอบพฤติกรรมของโรงงานสกัดและโรงกลั่นที่ไปกดราคารับซื้อผลผลิตปาล์มดิบจากเกษตรกรจนทำให้ราคาตกต่ำอยู่ในขณะนี้ เพราะตามมติของคณะกรรมการฯ ได้ให้ซื้อที่กก.ละ 7 บาท แต่มีการซื้อจริง 5 บาท แล้วยังมาขอชดเชยจากภาครัฐตามมติที่ให้ซื้อ 4 หมื่นตันด้วย