posttoday

'ท่าฉลอม'ครัวโลกด้านอาหารทะเล จากแปรรูปสัตว์น้ำสู่เมืองท่องเที่ยว

12 มีนาคม 2554

ท่าฉลอม จ.สมุทรสาคร นับเป็นชุมชนเมืองขนาดใหญ่ ที่คลาคล่ำไปด้วยโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์น้ำ สร้างรายได้แก่ประเทศไทยปีละหลายแสนล้านบาท ตลอดจนมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวเลือกซื้อสินค้ามากกว่า 3 แสนคนต่อปี

ท่าฉลอม จ.สมุทรสาคร นับเป็นชุมชนเมืองขนาดใหญ่ ที่คลาคล่ำไปด้วยโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์น้ำ สร้างรายได้แก่ประเทศไทยปีละหลายแสนล้านบาท ตลอดจนมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวเลือกซื้อสินค้ามากกว่า 3 แสนคนต่อปี

โดย...ทีมข่าวธุรกิจ-ตลาด

 

'ท่าฉลอม'ครัวโลกด้านอาหารทะเล จากแปรรูปสัตว์น้ำสู่เมืองท่องเที่ยว

ท่าฉลอม จ.สมุทรสาคร นับเป็นชุมชนเมืองขนาดใหญ่ ที่คลาคล่ำไปด้วยโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์น้ำ สร้างรายได้แก่ประเทศไทยปีละหลายแสนล้านบาท ตลอดจนมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวเลือกซื้อสินค้ามากกว่า 3 แสนคนต่อปี

ทั้งนี้ ท่าฉลอมนับเป็นตำบลใหญ่และเป็นสุขาภิบาลแห่งแรกของประเทศไทย มีตลาดและกิจการต่อเรือเรียงรายอยู่บนฝั่งแม่น้ำท่าจีน ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้ จ.สมุทรสาคร เป็นเมืองประมงครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และยังมีความหลากหลายของอุตสาหกรรมขนาดย่อม

ปัจจุบัน นอกจากท่าฉลอมจะช่วยส่งเสริมการเป็นครัวของโลกในด้านอาหารทะเลและการเกษตรแล้ว ยังนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางเลือกใหม่ของ จ.สมุทรสาคร ที่กำลังเร่งผลักดันกันอยู่ในขณะนี้ ซึ่งหากผนวก 2 ด้านนี้เข้าด้วยกันแล้ว ส่งผลให้ท่าฉลอมเป็นเมืองท่องเที่ยวและการค้าที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง

ในด้านความโดดเด่นของการเป็นเมืองอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์น้ำและสินค้าประมง ท่าฉลอมนับเป็นแหล่งธุรกิจการประมงที่สำคัญของประเทศ การทำประมงมีทั้งประมงน้ำจืดและน้ำเค็ม

นอกจากนี้ ยังเป็นศูนย์รวมอุตสาหกรรมและธุรกิจหลายประเภทที่เกี่ยวเนื่องกับการประมง เช่น ธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ ซึ่งมีตลาดจำหน่ายทั้งภายในและต่างประเทศ จึงมีคำขวัญของจังหวัดว่า เมืองประมง ดงโรงงาน ลานเกษตร เขตประวัติศาสตร์

ด้านการท่องเที่ยวนั้น ท่าฉลอมมีจุดเด่นตรงที่อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครไม่กี่กิโลเมตร มีความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยว และอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์

นอกจากนี้ ยังมีความโดดเด่นของตัว จ.สมุทรสาคร ซึ่งเดิมชื่อ “สาครบุรี” ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำท่าจีน มีชายฝั่งทะเลยาว 42 กิโลเมตร ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง และถือเป็นเมืองเก่าแก่ และมีประวัติศาสตร์ด้านการเมืองการปกครอง โดย “สุขาภิบาลท่าฉลอม” ถือเป็นสุขาภิบาล “หัวเมือง” แห่งแรกของไทย หลังจากมีการประกาศใช้ “พระราชกำหนดสุขาภิบาลกรุงเทพฯ ร.ศ. 116” ขึ้น และเริ่มทำการทดลองเพื่อศึกษาขึ้นในกรุงเทพฯ

สมัยนั้นชาวท่าฉลอม รวบรวมเงินจำนวนหนึ่งมาทำถนนตลาดท่าฉลอมจนแล้วเสร็จ กลายเป็น “ถนนถวาย” ที่ปัจจุบันเป็นแหล่งรวมประวัติศาสตร์เมืองท่าฉลอม และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้ความนิยม

นอกจากนี้ สมุทรสาครยังมีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น วัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม) วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร วัดกลางอ่างแก้ว วัดใหญ่จอมปราสาท ศาลพันท้ายนรสิงห์ คลองโคกขาม ตลาดสดมหาชัย หมู่บ้านเบญจรงค์ ดอนไก่ดี สวนผลไม้บ้านแพ้ว สวนกล้วยไม้กระทุ่มแบน หิ่งห้อยคลองสุนัขหอน ฯลฯ

โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวของท่าฉลอมในปีนี้ ขวัญชัย วงศ์นิติกร อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวว่า กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับจังหวัดสมุทรสาคร เทศบาลนครสมุทรสาคร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ จัดงาน “วันท้องถิ่นไทย” ประจำปี 2554 ขึ้น ภายใต้แนวคิด ย้อนยุค ร.ศ. 124 ในระหว่างวันที่ 17-20 มี.ค. 2554 ณ วัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม) และวัดแหลมสุวรรณาราม ถนนถวาย

เป้าหมายของการจัดงานครั้งนี้เพื่อย้อนรำลึกถึงการจัดตั้งสุขาภิบาลแห่งแรกขึ้นที่ ต.ท่าฉลอม จ.สมุทรสาคร โดยมอบอำนาจให้ท้องถิ่นดูแลจัดการบริหารกันเอง จนถึงในปัจจุบันที่ก้าวเข้าสู่ปีที่ 106 ของสุขาภิบาลท่าฉลอม และคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดปัจจุบันได้เห็นความสำคัญดังกล่าวได้มีมติกำหนดให้วันที่ 18 มี.ค. ของทุกปีเป็นวันท้องถิ่นไทย

ด้านกุลวัชร หงษ์คู นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร กล่าวว่า ภายในงานวันท้องถิ่นไทย ย้อนยุค ร.ศ. 124 จะได้สัมผัสกับบรรยากาศในสมัย ร.ศ. 124 ซึ่งตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 บรรยากาศในงานจึงอบอวลไปด้วยความเป็นไทย กับประเพณีโบราณที่หาชมได้ยากในปัจจุบัน และการตกแต่งประดับประดาด้วยแสง สี เสียง สื่อมัลติมีเดีย (Light & Sound) เรื่อง “ร.ศ. 124 สู่ 106 ปี สุขาภิบาลท่าฉลอม กำเนิดวันท้องถิ่นไทย” การเลิกทาส การแสดงละครรำ การละเล่นพื้นบ้าน การวิ่งกระสอบ การเล่นชักเย่อ การแสดงมวยตับจาก การออกร้านจำหน่ายสินค้าโบราณ ฯลฯ

ตลอดจนมีการจัดนิทรรศการเพื่อนำเสนอถึงวิวัฒนาการของท้องถิ่นไทย ที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการยกระดับและผลักดันให้ชุมชนได้มีการพัฒนา เพื่อวิถีชีวิตที่ดีขึ้น การจัดเสวนาทางวิชาการ เรื่อง “เหลียวหลังแลหน้าท้องถิ่นไทย” โดยตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ กระทรวงมหาดไทย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย นักวิชาการ นักกฎหมาย ฯลฯ ที่จะมาระดมสมองและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อนำไปพัฒนาท้องถิ่นให้ก้าวหน้าต่อไป

ปัจจุบัน การประมงและการท่องเที่ยวจึงกลายเป็นเอกลักษณ์ของท่าฉลอม เมืองท่าสำคัญในการสัญจรไปมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ท่าฉลอมยังได้ชื่อว่าเป็นตำบลที่มีการเติบโตสูงสุด อีกทั้งยังรวมวิถีชีวิตวัฒนธรรมอันดีงามของคนไทยไว้เช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

ความคับคั่งหนาแน่นของผู้คน ทำให้บรรยากาศริมฝั่งตลาดท่าฉลอมเต็มไปด้วยความสนุกสนาน กับย่านการค้าที่มีทำเลอันอุดมไปด้วยอาชีพมากหลาย ทั้งการทำประมง ดองปลา ทำกะปิ และน้ำปลา ทำให้ท่าฉลอมเป็นเมืองที่มีความสมบูรณ์พรั่งพร้อม ทั้งระบบสาธารณูปโภค วิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณี ที่สืบทอดต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้

 

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา