สติชท์ & ลีโล่ ตัวจริง(ซนจริง)ของคู่แฝดไฮคูล
สติชท์ & ลีโล่ ชิวาวาแสนซน ของ เกศ-ชลิฏา แก้ว-ชลทิชา วณิชชากรพงศ์ แฝดผู้บริหารรุ่นใหม่แห่งลีวณิชย์ ผู้นำเข้าฟิล์มกรองแสงไฮ-คูล
สติชท์ & ลีโล่ ชิวาวาแสนซน ของ เกศ-ชลิฏา แก้ว-ชลทิชา วณิชชากรพงศ์ แฝดผู้บริหารรุ่นใหม่แห่งลีวณิชย์ ผู้นำเข้าฟิล์มกรองแสงไฮ-คูล
เรื่อง วันพรรษา อภิรัฐนานนท์
“ระวังนะคะ ระวังนะคะ เจ้านี่ชอบกระโดดจูจุ๊บ ว้าย !”
เกศ-ชลิฏา แก้ว-ชลทิชา วณิชชากรพงศ์ แฝดผู้บริหารรุ่นใหม่แห่งลีวณิชย์ ผู้นำเข้าฟิล์มกรองแสงไฮ-คูล รีบช่วยกันตะโกนบอก แต่...ช้าไปเสียแล้ว...แบล่บ แบล่บ แบล่บ...เราโดนชิวาวาตัวใหญ่ยักษ์สีน้ำตาลเข้ม กับมีสีดำอยู่ที่หลังและขมับเหนือตา กระโดดจูบจ๊วบเหมือนทำคะแนน 3 ทีรวด
กระโดดจูบปากผู้คนอย่างแคล่วคล่อง เป็นเสือปืนไวมากๆ คือเจ้าสติชท์ ส่วนที่กระต้วมกระเตี้ยมอยู่ใกล้ๆ คือ ลีโล่ ชื่อสติชท์และลีโล่ อาจทำให้นักดูหนังคุ้นๆ เพราะมันคือชื่อภาพยนตร์การ์ตูนจากฮอลลีวูด “สติชท์แอนด์ลีโล่” นั่นเอง สติชท์เป็นมนุษย์ดาวอังคาร บินมาลง (จริงๆ แล้วคือเครื่องตก) ที่เกาะฮาวาย ได้เจอกับสาวน้อยลีโล่ วัยรุ่นขาใหญ่น่องทู่บนเกาะฮาวาย ที่ไม่รู้ว่าสติชท์ไม่ใช่คน (บนโลก)
มนุษย์และสิ่งมีชีวิตนอกโลก (ต่างดาวตัวประหลาด) ต่างฝ่ายได้เรียนรู้ เติมเต็มซึ่งกันและกัน ทั้งคุณสมบัติ ทัศนคติ อารมณ์ ค่านิยม รสนิยม ความรักความเข้าใจ รวมทั้งอะไรอีกมาก อันนี้ก็จะคล้ายๆ กันกับสติชท์ & ลีโล่ 4 ขาของเราเหมือนกัน (ฮา) จะคล้ายอย่างไร ต้องให้เจ้าของเฉลย
เกศเล่าว่า สติชท์และลีโล่ ได้มาตั้งแต่ 2 เดือน ตอนนี้ 3 ขวบแล้ว จากชิวาวาตัวเล็ก ก็กลายเป็นตัวใหญ่ โดยเฉพาะสติชท์ที่ตะกละตะกลาม อย่างน่องไก่อะไรอย่างนี้ ก็กินเป็นน่องๆ (หลายน่อง) อย่างสามารถ กินได้กินดี จนแพทย์ประจำตัวน้องหมาบอกว่า มันเป็นชิวาวาที่ตัวใหญ่มากแล้ว ขอสั่งให้ลดความอ้วนเดี๋ยวนี้! (ฮา)
สติชท์เป็นหมาตัวผู้ที่ร่าเริง ขี้เล่น เกมที่มันชอบ คือการกระโดดจูบคนทุกคน ความที่เป็นหมาน่ารัก ใครเห็นก็มักจะทรุดตัวลง อยากจับอยากอุ้ม อันนี้ก็จะเข้าทางสติชท์ทันที เพราะมันจะเกร็งขาหลังไว้ ก่อนดีดสปริงตัวขึ้น จูจุ๊บที่ปากอย่างจัง ไม่ว่าใครต่างก็ตกเป็นเหยื่อหมาน้อยตัวนี้มาแล้ว
ตรงข้ามกับลีโล่ ขณะที่สติชท์โลดเล่นด้วยความเป็นตัวของตัวเอง ลีโล่จะนุ่มนิ่ม ลีโล่ในหนังเป็นเด็กวัยรุ่นน่องทู่ๆ ขาใหญ่ๆ แต่ลีโล่ตัวนี้ ตัวเล็กแบบบาง และเรียบร้อยมาก สติชท์ลีโล่ต่างครองรักกันมา ไม่เคยมีปัญหา ทั้งที่สติชท์ตะกละแต่ถ้ากับลีโล่แล้ว สติชท์จะให้ภรรยากินก่อน เวลามีลูก ลีโล่จะหวงลูกมาก ไม่ยอมให้สติชท์เข้าใกล้ คนเจ้าของเข้าใกล้ได้ แต่สามีตัวเองไม่ยอมให้มาดูลูก
“สติชท์รักลูก รักเมียมากค่ะ ดูแลอย่างดี สายตาของมันเวลาแลดูครอบครัว เหมือนมันจะยิ้มๆ กึ่งๆ ภาคภูมิใจว่านี่ครอบครัวของฉันอะไรประมาณนี้” แก้วเล่า
อย่างไรก็ตาม ชายย่อมเป็นชาย เกศเล่าต่อว่า สติชท์นั้นพลังมากเหลือ เวลาหันรีหันขวางไม่เจอใคร บางทีแมวก็เอา (กึ๋ยยย์) แมวในบ้านอยู่ดีไม่ว่าดี ส่วนใหญ่สติชท์จะชอบแบบขาวอวบ ซึ่งในบ้านมีอยู่ตัวหนึ่ง ตรงสเปกพอดี เพราะฉะนั้นก็ต้องผจญกรรมกับสติชท์บ่อยครั้ง
สติชท์จะคอยทีเผลอ ดูจังหวะแล้วขึ้นขย่ม เดือดร้อนคนในบ้านต้องห้ามทัพเป็นโกลาหล บางครั้งก็ขนาดต่อหน้าต่อตาลีโล่ หากลีโล่คงปลงได้ เพราะมันไม่ใส่ใจ ชำเลืองดูแล้วลีโล่ก็เมิน คงนึกในใจว่า ฉันดูแลเลี้ยงลูกของฉัน เธอจะไปยุ่ง (กับแมว) ที่ไหนก็ไป...เฮ้อ เหนื่อยใจแทนภรรยาหมาดาวอังคารจริงๆ


