posttoday

คุมเข้มสารก่อมะเร็งในมาบตาพุด

17 กุมภาพันธ์ 2554

โพสต์ทูเดย์ กรมโรงงานตั้งเป้าคุมปล่อยสารก่อมะเร็งในมาบตาพุดเท่ามาตรฐานสากล เล็งขยายผลในพื้นที่โรงงานหนาแน่น

นายเดชา พิมพิสุทธิ์ ผู้อำนวยการส่วนมลพิษอากาศ สำนักเทคโนโลยีน้ำและสิ่งแวดล้อม กรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ในปีนี้กรมโรงงานตั้งเป้าหมายจะลดการปล่อยสารอินทรีย์ระเหยง่าย (Volatile Organic Compounds : VOCs) หรือสารก่อมะเร็งภายในพื้นที่มาบตาพุดให้ได้เท่ากับค่ามาตรฐานสากล หรือเท่ากับค่ามาตรฐานของญี่ปุ่น แต่คงจะลดให้เท่ากับค่ามาตรฐานของไทยไม่ได้ เพราะตั้งค่ามาตรฐานไว้ในระดับที่ต่ำเกินไป และเมื่อในพื้นที่มาบตาพุดมีการจัดการที่ดีแล้ว จะขยายออกไปทำในพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศด้วย โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีอุตสาหกรรมตั้งอยู่หนาแน่น เช่ม แหลมฉบัง

สำหรับค่ามาตรฐานที่ตั้งเป้าหมายไว้คือสารอินทรีย์ระเหยง่าย 3 ชนิด ได้แก่ สารเบนซีนจะลดให้อยู่ที่ระดับ 3 ไมโครกรัม เป็นค่ามาตรฐานของญี่ปุ่น ส่วนของไทยตั้งอยู่ที่ 1.7 ไมโครกรัม สาร 1,2ไดคลอโรอีเทน จะลดให้อยู่ที่ 2.21 ไมโครกรัม ส่วนของไทยตั้งอยู่ที่ 0.33 ไมโครกรัม และสาร 1,3บิวทาไดอีน ให้อยู่ที่ระดับ 4 ไมโครกรัม ขณะที่ของไทยอยู่ที่ 0.44 ไมโครกรัม

การลดให้ได้เท่ากับค่ามาตรฐานของสากล หรือของญี่ปุ่นก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมาก ส่วนการจะลดให้ได้เท่ากับค่ามาตรฐานของไทย ต่อให้เอาโรงงานออกจากพื้นที่ให้หมด สารดังกล่าวก็ยังเกินค่ามาตรฐานอยู่ดี เพราะเป็นสารที่ออกมาจากรถยนต์ รถจักรยานยนต์ด้วยนายเดชา กล่าว

ในวันที่ 25 ก.พ.นี้ กรมจะเชิญผู้ประกอบการที่อยู่ในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยสาร VOCs ในการควบคุมของกรมโรงงาน หรือนอกเขตนิคมอุตสาหกรรม จำนวน 12 แห่ง เช่น บริษัท ไออาร์พีซี เป็นต้น เข้ามานำเสนอแผนการลดการปล่อยสาร VOCs โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มโรงงานปิโตรเคมี และกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน หลังจากที่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เรียก 24 โรงงานในนิคมเข้าไปส่งแผนการจัดการเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ หลังจากที่ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่องแนวปฏิบัติเพื่อควบคุมสารอินทรีย์ระเหยง่าย VOCs มีผลบังคับใช้จะช่วยทำให้มีการเข้าไปตรวจสอบโรงงานได้ง่ายขึ้น โดยกรมจะส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจอย่างสม่ำเสมอ และให้โรงงานทุกแห่งที่มีกระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับสารอินทรีย์ระเหยง่ายทั้ง 3 ชนิด รายงานการข้อมูลเข้ามาทุก 6 เดือน หากพบโรงงานที่ไม่ทำตามแผนต้องปรับปรุงภายในระยะเวลาที่กำหนด และถ้าไม่ปรับปรุงก็อาจถูกสั่งหยุดหรือถอนใบอนุญาตประกอบการได้

สำหรับแผนการลดสารอินทรีย์ระเหยง่ายของโรงงานต้องครอบคลุมการปล่อย 6 ด้าน คือ การรั่วซึม การเผาไหม้ การขนส่ง ถังเก็บ ระบบบำบัดน้ำเสีย และการปล่อยมลพิษทางปล่องโดยจะมีการจัดกลุ่มโรงงานที่มีโอกาสปล่อยสารอินทรีย์ระเหยทั้ง 36 แห่ง ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ ระดับมาก กลางและน้อย เพื่อเป็นข้อมูลในการกำกับดูแลโรงงานในมาบตาพุดสอดคล้องกับการกำกับดูแลโรงงานที่เข้มงวดขึ้นของกระทรวงอุตสาหกรรม

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์ชู 3 แกนพัฒนาคน รับรางวัล HR Leader for Social Impact 2025