ร้านค้าคนละครึ่งพลัส ผ่านเกณฑ์รับเงินหนุนเกือบแสนราย โอนผ่านถุงเงิน พรุ่งนี้

นายพงศ์นคร โภชากรณ์ ผู้อำนวยการกองนโยบายพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน ในฐานะผู้ช่วยโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการดำเนินโครงการพัฒนาความรู้ทักษะ (Upskill) และการเรียนรู้ทักษะใหม่ (Reskill) สำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส ว่า ตลอดระยะเวลาเปิดให้ผู้ประกอบการร้านค้าเข้าร่วมพัฒนาทักษะ ระหว่างวันที่ 19 พฤศจิกายน - 19 ธันวาคม 2568 มีผู้ประกอบการร้านค้าพัฒนาทักษะสำเร็จรวมทั้งสิ้น 98,930 ราย

โดยจำแนกตามช่องทางการพัฒนาทักษะ พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เข้าร่วมและผ่านเกณฑ์การอบรมออนไลน์ของธนาคารออมสิน จำนวน 82,315 ราย รองลงมาเป็นการอบรมออนไลน์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ จำนวน 20,241 ราย และการเข้าร่วมเป็นร้านค้าบนแพลตฟอร์มผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) จำนวน 276 ราย ทั้งนี้ ผู้ประกอบการบางส่วนสามารถพัฒนาทักษะได้มากกว่าหนึ่งช่องทางหรือหลายหลักสูตร

สำหรับการอบรมของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หลักสูตรที่มีผู้เข้าร่วมสูง ได้แก่ หลักสูตรเส้นทางสู่ความสำเร็จธุรกิจร้านอาหาร หลักสูตรการเริ่มต้นธุรกิจสำหรับ SME มือใหม่ หลักสูตรการตลาดยุคดิจิทัล หลักสูตร AI เปลี่ยนเกมธุรกิจ พลิก SME ไทยให้เติบโต และหลักสูตรการตลาดด้าน e-Commerce

จากการคัดกรองข้อมูลผู้ประกอบการร้านค้าที่พัฒนาทักษะสำเร็จ พบว่า มีผู้ผ่านหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ และจะได้รับสิทธิเงินสนับสนุนจากรัฐ จำนวน 97,086 ราย ขณะที่มีผู้ไม่ผ่านเกณฑ์ 1,844 ราย สาเหตุส่วนใหญ่มาจากไม่เป็นร้านค้าถุงเงินในโครงการคนละครึ่ง พลัส พัฒนาทักษะสำเร็จก่อนเข้าร่วมโครงการ หรือเป็นร้านค้าที่ถูกระงับสิทธิในโครงการคนละครึ่งหรือคนละครึ่ง พลัส

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ทยอยแจ้งผลการได้รับสิทธิเงินสนับสนุนให้ผู้ประกอบการที่พัฒนาทักษะสำเร็จทราบแล้วในวันที่ 23 ธันวาคม 2568 ผ่านข้อความสั้น (SMS) ตามหมายเลขโทรศัพท์ที่ลงทะเบียน และข้อความแจ้งเตือนในแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน”

สำหรับเงินสนับสนุน ผู้ประกอบการร้านค้าจะได้รับเงินจากรัฐสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท ต่อ 1 หมายเลขประจำตัวประชาชนหรือหมายเลขผู้เสียภาษี คิดเป็น 20% ของยอดขายที่เกิดจากโครงการคนละครึ่ง พลัส ในส่วนที่ภาครัฐร่วมจ่าย นับตั้งแต่วันที่พัฒนาทักษะสำเร็จจนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2568 โดยพบว่า ผู้ประกอบการที่ผ่านเกณฑ์ได้รับเงินสนับสนุนเฉลี่ยรายละ 1,210 บาท และมีผู้ได้รับเงินสนับสนุนสูงสุดตามสิทธิ 2,000 บาท จำนวน 34,970 ราย หรือคิดเป็นประมาณ 36% ของผู้ได้รับสิทธิทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ประกอบการบางส่วนไม่ได้รับเงินสนับสนุน เนื่องจากไม่มียอดขายจากโครงการคนละครึ่ง พลัส ในส่วนที่ภาครัฐร่วมจ่ายภายในระยะเวลาที่กำหนด

กระทรวงการคลังจะดำเนินการโอนเงินสนับสนุนให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้าผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ที่ผูกกับแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ในวันที่ 25 ธันวาคม 2568 และหากการโอนเงินไม่สำเร็จ จะมีการติดตามโอนซ้ำอีก 2 ครั้ง ในวันที่ 30 มกราคม 2569 และวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2569 หากพ้นกำหนดดังกล่าว จะถือว่าผู้ประกอบการไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการฯ

ทั้งนี้ แม้โครงการจะสิ้นสุดลงแล้ว กระทรวงการคลังยังเชิญชวนผู้ประกอบการร้านค้าและประชาชนที่สนใจพัฒนาทักษะเพิ่มเติม สามารถเข้าร่วมอบรมออนไลน์ผ่านช่องทางของธนาคารออมสิน และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า รวมถึงขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอรีได้อย่างต่อเนื่อง