ธอส.โชว์ 2 ปี ปล่อยสินเชื่อใหม่ 4.6 แสนลบ.-บ้านต่ำกว่า 2 ลบ.หนุนอสังหาฯปี69

นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ธอส. เดินหน้าผลักดันพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ควบคู่บทบาทเป็นกลไกสำคัญของรัฐบาลในการอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยในช่วงวันที่ 28 ธันวาคม 2566 - 30 พฤศจิกายน 2568 ธอส. สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ให้ประชาชนมีบ้านเพิ่มขึ้นกว่า 392,000 บัญชี คิดเป็นเม็ดเงินกว่า 460,000 ล้านบาท ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยของประเทศ

สำหรับปี 2568 ธอส. ยังเดินหน้าปล่อยสินเชื่อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดย ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่แล้ว 215,130 ล้านบาท รวม 200,843 บัญชี คิดเป็น 89% ของเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ 241,780 ล้านบาท โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย–ปานกลาง วงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งมีมากกว่า 112,000 ราย เพิ่มขึ้นถึง 17.9% จากปีก่อน สะท้อนความต้องการซื้อบ้านราคาต่ำยังคงแข็งแกร่ง

สำหรับ ปี 2569 คาดว่า การปล่อยสินเชื่อบ้านยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยบ้านราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ยังคงต้องการสูง โดยบ้านระดับไม่เกิน 1 ล้านบาทขายดีต่อเนื่อง อุปทานเหลือขายลดลงราว 20% สอดคล้องกับข้อมูลศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ที่ชี้ว่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งระบบหดตัว 6.6% แต่ธอส. ยังสามารถปล่อยเพิ่มได้ถึง 15.6% ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 43.7% สูงสุดในรอบ 20 ปี

" ปี 2569 คาดการปล่อยสินเชื่อบ้านยังโตต่อ จากอัตราดอกเบี้ยอยู่ระดับต่ำ และดีมานด์บ้านราคาไม่เกิน 2 ล้านบาทยังสูง ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนภาคอสังหาฯ ของไทยในปีหน้าอย่างต่อเนื่อง" นายกมลภพ กล่าว

ขณะเดียวกัน ธอส. ยังรักษาบ้านให้ลูกค้ากว่า 590,000 บัญชี ผ่านมาตรการแก้หนี้ครัวเรือน และมีผู้เข้าร่วมโครงการช่วยเหลือกว่า 115,000 บัญชี รวมถึงผลักดันโครงการ “ธอส. โรงเรียนการเงิน” ผ่านแอป GHB ALL GEN ช่วยลูกค้าที่ไม่มีเอกสารรายได้สร้างวินัยการเงินและยื่นสินเชื่อได้ในอนาคต โดยมีผู้เปิดบัญชีออมกว่า 220,000 ราย และได้รับสินเชื่อแล้วกว่า 50,000 ราย

"ปีนี้เราปล่อยสินเชื่อใหม่ไปแล้วราว 2.1 แสนล้านบาท เหลืออีกเพียงราว 2 หมื่นล้านบาท มั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้าที่ 2.4 แสนล้านบาท  ขณะที่สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ  NPL จะคุมไว้ที่ 5.1% จากปัจจุบันอยู่ที่ 5.2-5.3% " นายกลมภพ กล่าว 

ทั้งนี้ ธอส. ยังเดินหน้าเสริมแกร่งองค์กรด้วยเทคโนโลยี ทั้งอัปเกรดระบบ Core Banking, ระบบประเมินราคาดิจิทัล, Near Real Time Fraud Detection และใช้ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์เชื่อมกับระบบสารสนเทศที่ดิน เพื่อเร่งกระบวนการอนุมัติสินเชื่อให้แม่นยำและรวดเร็วขึ้น

พร้อมกันนี้ยังดำเนินโครงการด้าน ESG และ CSR สร้าง–ซ่อมแซมบ้านให้ผู้ด้อยโอกาสรวมกว่า 5,120 หลัง สะท้อนบทบาทธนาคารที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ควบคู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน