คนละครึ่งพลัส วันที่ 2 ยอดใช้จ่ายทะลุ 2.8 พันลบ. ใช้สิทธิ์ 9.93 ล้านราย
โครงการคนละครึ่งพลัสวันที่ 2ยังคึกคักต่อเนื่อง ณ เวลา 15.00 น. ยอดใช้จ่ายรวมพุ่งกว่า 2.85 พันล้านบาท จากผู้ใช้สิทธิ์ 9.93 ล้านราย ร้านค้าใช้จ่าย 5.7 แสนราย
KEY
POINTS
- โครงการคนละครึ่งพลัส วันที่สอง (30 ต.ค. 68) มียอดใช้จ่ายสะสมรวมกว่า 2.85 พันล้านบาท
- มีประชาชนเข้าร่วมใช้สิทธิ์ในโครงการแล้วจำนวน 9.93 ล้านคน ผ่านร้านค้ากว่า 5.7 แสนแห่ง
- ยอดใช้จ่ายดังกล่าวแบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 1.44 พันล้านบาท และรัฐบาลร่วมจ่าย 1.41 พันล้านบาท
กระทรวงการคลังได้รายงานความคืบหน้าของโครงการ "คนละครึ่งพลัส" ในวันที่สอง (30 ตุลาคม 2568) โดยระบุว่า บรรยากาศการใช้จ่ายยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง ข้อมูล ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2568 เวลา 15.00 น. แสดงให้เห็นถึงยอดใช้จ่ายที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมากพบว่า
1. ยอดใช้จ่ายรวม อยู่ที่ 2,854,484,490 บาท โดยแบ่งเป็น
- เงินที่ประชาชนจ่ายเอง: 1,440,399,156 บาท
- เงินที่รัฐบาลร่วมจ่าย: 1,414,085,333 บาท
2. จำนวนผู้ใช้จ่าย ผ่านโครงการฯ สำเร็จมีจำนวนทั้งสิ้น 9,937,380 ราย
3. จำนวนร้านค้าที่ใช้จ่ายสำเร็จ มีจำนวน 571,836 ราย
ข้อมูลยังระบุถึงภาพรวมการเข้าร่วมโครงการของร้านค้า ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2568 เวลา 15.00 น. ดังนี้
• มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ สำเร็จแล้วรวม 671,982 ราย
• ในจำนวนนี้ เป็นร้านค้ารายเดิม 101,565 ราย และร้านค้ารายใหม่ 570,417 ราย
• นอกจากนี้ ยังมีร้านค้าที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการสมัครอีก 60,164 ราย
ก่อนหน้านี้ ในช่วงเวลา 10.00 น. ของวันเดียวกันนี้ (30 ตุลาคม 2568) ยอดใช้จ่ายสะสมอยู่ที่กว่า 2.2 พันล้านบาท จากผู้ใช้สิทธิ์กว่า 8.7 ล้านราย และร้านค้ากว่า 5.4 แสนราย
นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ระบุว่า ผลบวกจากมาตรการคนละครึ่งพลัส ถือเป็นแรงหนุนให้เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ปีนี้ ทำให้จีดีพี มีโอกาสโตได้เกิน 1% ต่อปี
สำหรับโครงการคนละครึ่งพลัส เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดแรกของรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล ภายใต้แนวคิด Quick Big Win วงเงินงบประมาณ 44,000 ล้านบาท สำหรับ 20 ล้านสิทธิ โดยผู้ได้รับสิทธิ์จะต้องเติมเงินเข้า G Wallet ในแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" เพื่อใช้จ่ายร่วมกับรัฐบาล โดยกำหนดให้ใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.- 31 ธ.ค.2568 เวลา 06.00-23 น. และรัฐบาลช่วยจ่ายให้ 50% ประชาชนจ่ายเอง 50% ไม่เกินวันละ 200 บาท


