เบื้องหลัง CATHY DOLL ดึงเมกอัพอาร์ติส BLACKPINK คอลแลปลุยโกลบอล

หลายปีมานี้แบรนด์ CATHY DOLL (เคที่ดอลล์) สร้างความฮือฮาอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะครั้งล่าสุดที่ประกาศเปิดตัวคอลเลกชัน CATHY DOLL x MAENG ที่ร่วมมือกับ MAENG (Lee Myung Sun) เมกอัพอาร์ติสชื่อดังเกาหลีใต้ ผู้อยู่เบื้องหลังลุคของศิลปิน K-Pop  และเซเลบริตี้แนวหน้าเกือบทั้งวงการมากว่า 20 ปี โดยเฉพาะในยุคของ BLACKPINK สร้างปรากฏไวรัลทั่วโลก

{CATHY DOLL ดังไม่หยุด ประกาศร่วมมือช่างแต่งหน้า“ลิซ่า BLACKPINK”}
 

จากการเปิดเผยของผู้บริหารจากบริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) ซึ่งยอมรับว่าตลอด 2–3 ปีที่ผ่านมาโปรดักต์ของ CATHY DOLL และแบรนด์ในเครือถูกเมกอัพอาร์ติสและผู้เชี่ยวชาญความงามทั่วโลกหยิบไปใช้กับศิลปินระดับโลกอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงเซเลบริตี้ระดับสากลที่นำไปใช้และโพสต์บนโซเชียลจนเกิดไวรัล ไม่ว่าจะเป็น บ้านคาเดเชียน หรือคาร์ดิ-บี ศิลปินชื่อดังที่มีคนติดตามบนโลกออนไลน์หลักร้อยล้าน ทั้งหมดนี้แปลงเป็นดีมานด์จากคู่ค้าต่างชาติที่ต้องการนำสินค้าเราไปจำหน่ายในหลายประเทศ

 

อินไซต์ตลาดบิวตี้เอเชีย โอกาสของ T-Beauty

พงศ์วิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล รองกรรมการฯ สายงานสื่อสารการตลาด และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะที่ตลาดเมคอัพโลกยังเติบโตต่อเนื่อง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เร่งเครื่องอย่างโดดเด่น พฤติกรรมผู้บริโภคกำลังขยับจากเมคอัพจัดเต็ม สู่ลุคผิวสุขภาพดีด้วยผลิตภัณฑ์ไฮบริดกึ่งสกินแคร์ รองพื้นบางเบา บลัชและลิปแบบทินต์ เน้นติดทนและใช้ง่ายในชีวิตจริง พร้อมแรงขับจากคอนเทนต์สั้นและไลฟ์คอมเมิร์ซ 

 

โดยเฉพาะ TikTok Shop ที่ไทยติดกลุ่มผู้นำโลก ดันบิวตี้ขึ้นชาร์ตหมวดขายดี ผลลัพธ์คือสนามแข่งขันที่เร็วขึ้น กว้างขึ้นและวัดกันที่ “ความเข้าใจเฉดผิวเอเชียบวกกับความน่าเชื่อถือของแบรนด์” มากกว่าชื่อประเทศต้นกำเนิดเพียงอย่างเดียว นี่คือหน้าต่างโอกาสของ T-Beauty ที่แบรนด์ไทยสามารถยืนหนึ่งด้วยอินไซต์ผู้บริโภคในภูมิอากาศร้อนชื้น การคุมคุณภาพ และสปีดการออกนวัตกรรม

 

ทำให้ CATHY DOLL ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ T-Beauty World Class ด้วย Collaboration-led Brand Elevationเลือกพาร์ตเนอร์ระดับโลกที่สะท้อน “ลายเซ็นงานผิวมืออาชีพ” อย่าง MAENG ผู้สร้างลุคให้ K-Pop ศิลปินชื่อดังและนักแสดงเกาหลีจำนวนมาก มาร่วมพัฒนาคอลลเลกชัน ถึง 8 โปรดักซ์เรือธง 

สำหรับที่มาการคอลแลปกับ MAENG เกิดจาก 7-8 ปีก่อน ซึ่งมีโอกาสได้เจอในคอนเสิร์ต BlackPink ที่ประเทศอังกฤษ และ MAENG ใช้สินค้าของแบรนด์แต่งหน้าให้กับโรเซ่ (Rose) เกิดคลิปบนโซเชียลกลายเป็นไวรัล และสินค้าดังพลุแตก

 

แต่กระแสดังกล่าวทำให้เกิดความเข้าใจว่า แบรนด์จ้าง แต่พงศ์วิวัฒน์ เปิดเผยว่า ไม่ได้จ้าง และไม่ได้มีคอนแทค แต่หลังจากนั้นได้ไปค้นหาข้อมูลจากโซเชียลมีเดียว่าคือใคร และติดตามมาเรื่อย ๆ จนพบว่า MAENG ใช้สินค้าของ CATHY DOLL หลายครั้ง และมีการให้เครดิตสินค้า จึงเกิดการติดต่อร่วมมือ

"โดยร่วมพัฒนากับคุณ MAENG กว่า 2 ปี โดยตั้งต้นจากงานผิวจริงของคนเอเชีย และ soft-glam ที่ดูมืออาชีพแม้ใช้ในชีวิตประจำวัน ทุกเฉด สี เนื้อสัมผัส ไปจนถึงแพ็กเกจจิ้ง ถูกพัฒนาภายใต้หลัก less but pro น้อยชิ้นแต่ได้ฟินิชระดับโปร เพื่อให้ผู้ใช้รู้สึกมั่นใจและใช้งานได้จริงในทุกวัน”

อย่างไรก็ตามคาร์มาร์ท วาง CATHY DOLL สู่โกลบอล ด้วยการวาง 4 กลยุทธ์ธุรกิจ Collaboration-Led Elevation ที่จะพาแบรนด์บิวตี้ไทย ไปสู่อิทธิพลระดับโลก

 

1. ยกระดับภาพจำแบรนด์ไทยสู่สากล การร่วมงานกับเมกอัพอาร์ติสระดับโลกอย่าง MAENG ช่วยสร้าง halo effect ต่อคุณค่าแบรนด์ (Brand Equity) ในตลาดนอกประเทศ และเป็น content engineเชื่อมฐาน K-Pop & K-Beauty Fans ที่มีกำลังซื้อและอิทธิพลทางวัฒนธรรมสูงในโซเชียล

 

2. ขยายฐานลูกค้าใหม่ ที่ชอบลุคใส สุขภาพดี และแพ็กเกจจิ้งพกพาง่าย ตอบโจทย์การแต่งหน้า “น้อยชิ้นแต่ดูจบ” (Less but Pro) เจาะแฟนคลับ MAENG และผู้ตามเทรนด์ K-Beauty ในตลาดอาเซียนและเอเชียตะวันออก

 

3. ความต่างในตลาดแข่งขันสูง สร้างจุดขาย “Professional Asian Finish” ที่ตอบอินไซต์ผิวเอเชียจริง ทั้งเฉดสีเนื้อ ฟินิชลุค ใช้ง่ายในชีวิตประจำวันและร้อนชื้น (SEA Climate) ร่วมกับ Storytelling จาก MAENG ที่ต่อยอดคอนเทนต์ได้

 

4. ถ่ายทอดองค์ความรู้ระยะยาว ทำงานร่วมกับ MAENG เพื่อนำ technique playbook (เช่น shade curation, base routine, layering & finishing) เข้าสู่R&D Roadmap และ Training Playbook สำหรับบิวตี้แอดไวเซอร์ และบิวตี้คอมมูนิตี้ สร้างมาตรฐาน “Asian-pro finish” ให้พอร์ตถัดไป

“ความร่วมมือครั้งนี้ไม่ได้จบที่คอลเลกชัน แต่นำไปสู่ MAENG Method for Asian Skin ซึ่งเราจะทำให้เป็นมาตรฐานในการพัฒนาผลิตภัณฑ์รุ่นต่อ ๆ ไปของ CATHY DOLL” 

ตั้งเป้าคอลเลกชั่นนี้ยอดขาย 100 ล้าน 

ด้าน ชลธิดา สถาวรวิจิตร รองกรรมการผู้จัดการสายงานการตลาด บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับคอลเลกชันนี้เดินเกมออมนิชาแนลเต็มรูปแบบ ทั้ง online engine คอนเทนต์รีวิว ไลฟ์คอมเมิร์ซแบบต่อเนื่อง เจาะแฟน K-Beauty ทั่วภูมิภาค พร้อม Retail Re-imagination คอนเซ็ปต์สโตร์และป็อปอัพ Cathy Doll Popup Store ที่ BTS สยาม เพื่อสร้างประสบการณ์ลอง-ซื้อ-แชร์ครบวงจร พร้อมระบบสมาชิก ข้อมูลเชิงลึกเพื่อพัฒนาคอนเทนต์และสินค้ารุ่นต่อไป โดยกลยุทธ์ Collaboration ครั้งนี้ไม่เพียงย้ำภาพลักษณ์ “แบรนด์ไทยมาตรฐานสากล” แต่ยังเป็นสปริงบอร์ดสู่ตลาด Global ด้วยเครือข่ายครีเอเตอร์และบิวตี้คอมมูนิตี้ที่เชื่อมไทย-เกาหลี-เอเชียเข้าไว้ด้วยกันอย่างเป็นรูปธรรม

 

“สำหรับคอลเลกชัน CATHY DOLL x MAENG ตั้งเป้ายอดขาย 100 ล้านบาท โดยหลังเปิดจำหน่ายเพียงไม่กี่วันแรก กระแสตอบรับอยู่ในระดับน่าพอใจและมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องตลอดถึงสิ้นปีหน้า สำหรับการพัฒนาโปรดักส์ในอนาคตจะขับเคลื่อนด้วย Data-driven Creativity ใช้ข้อมูลความนิยมของเฉดสี และความชอบเรื่องฟินิชของผิว จากสมาชิกและผู้ทดลอง มาต่อยอดการพัฒนารุ่นถัดไปให้ตรงใจมากยิ่งขึ้น นี่คือการลงทุนระยะยาว ไม่ใช่เพียงแคมเปญครั้งเดียว”

คาร์มาร์ท ปักธง SEA เป็นฐานตลาด ก่อนสเต็ปอัปสู่ Global

วงศ์วิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทคาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) เผยถึงเป้าหมายการพาแบรนด์สู่ตลาดโลกว่า วาง CATHY DOLL เป็นผู้นำ T-Beauty ที่ได้รับการยอมรับระดับโลก การเปิดตัวคอลเลกชัน CATHY DOLL x MAENG คือหมุดหมายสำคัญ ในเดือนพฤศจิกายนนี้จะเปิดขายทางออนไลน์ที่เกาหลีและสหรัฐอเมริกา และกำลังเจรจาเพิ่มอีกหลายประเทศ 

 

อย่างไรก็ตาม คาร์มาร์ท พร้อมต่อยอดความสำเร็จของแบรนด์ไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดต่างประเทศ และในฐานะ Trend-Driven Company เราลงทุน R&D ควบคู่มาร์เก็ตติ้งเชิงลึก ติดตามเทรนด์โลกใกล้ชิด แปลงอินไซต์เป็นนวัตกรรมได้เร็วและแม่นยำ ปัจจุบันเรามีแบรนด์ในเครือกว่า 21 แบรนด์อาทิ Cathy Doll, Baby Bright, Browit และอื่นๆ ซึ่งล้วนเป็นแบรนด์ที่เข้าใจเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่อย่างแท้จริง

 

วงศ์วิวัฒน์ กล่าวต่อว่า นอกจากความสำเร็จในประเทศ คาร์มาร์ทยังขยายตลาดสู่ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ และตะวันออกกลางซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภคที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง รูปลักษณ์ที่โดดเด่น และราคาที่เข้าถึงได้ 

 

แบรนด์ในเครือจำหน่ายแล้วใน 33 ประเทศ 

ปัจจุบันแบรนด์ในเครือของคาร์มาร์ทมีจำหน่ายแล้วในกว่า 33 ประเทศทั่วโลก และตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการส่งออกให้เติบโตขึ้น 20% ภายใน 5 ปี ที่สำคัญ การจะทำให้กระแส T-Beauty เกิดขึ้นจริงและยั่งยืน เราเชื่อในการ ‘เติบโตไปด้วยกัน’ เปิดพื้นที่ให้แบรนด์ไทยอื่น ๆ ได้เติบโตไปด้วยกันบนแพลตฟอร์มเดียวกัน และจะยิ่งแข็งแรงหากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ นี่คือเส้นทางที่เราตั้งใจเดิน เพื่อส่งออกความงามไทยสู่โลกอย่างภาคภูมิใจ

 

“การเป็นผู้นำเทรนด์ T-Beauty สำหรับคาร์มาร์ท ไม่ได้หมายถึงเพียงการตามกระแส แต่คือการสร้างเทรนด์ใหม่ ๆ ให้กับตลาด ขับเคลื่อนนวัตกรรมที่เชื่อมโยงผู้บริโภคกับแบรนด์อย่างใกล้ชิด และสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมความงามของไทยในระยะยาว”