ธ.ก.ส. เผยผลงานครึ่งปีบัญชี 68 ปล่อยกู้ทะลุ 5.5 แสนลบ. คุมหนี้เสียต่ำกว่าเป้า 6.20%
ธ.ก.ส. เผยผลดำเนินงานครึ่งปีบัญชี 2568 ปล่อยสินเชื่อรวมกว่า 5.5 แสนล้านบาท คุม NPL อยู่ที่ 6.20% ต่ำกว่าเป้า พร้อมเดินหน้าสร้างความยั่งยืน ESG
KEY
POINTS
- ธ.ก.ส. เผยผลการดำเนินงานครึ่งปีบัญชี 2568 สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่เพื่อเสริมสภาพคล่องและการลงทุนได้รวม 551,502 ล้านบาท
- สามารถควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้อยู่ในระดับ 6.20% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 6.77%
- ภาพรวมผลประกอบการมีสินทรัพย์รวม 2.43 ล้านล้านบาท และมียอดเงินฝากสะสม 2.03 ล้านล้านบาท
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยในโอกาสครบรอบวันสถาปนาธนาคารวันที่ 1 พ.ย.นี้ ว่า การดำเนินงานครึ่งปีบัญชี 2568 (1 เม.ย.-30 ก.ย.2568) ธนาคารสนับสนุนสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องและการลงทุนทั้งในและนอกภาคเกษตรระหว่างปี รวม 551,502 ล้านบาท ทำให้มีสินเชื่อรวม 1.68 ล้านล้านบาท ยอดเงินฝากสะสม 2.03 ล้านล้านบาท สินทรัพย์รวม 2.43 ล้านล้านบาท มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ 6.20% ของสินเชื่อรวม ต่ำกว่าเป้าหมาย 6.77%
“ณ ครึ่งปีบัญชี 2568 ธ.ก.ส. สามารถควบคุม NPL อยู่ที่ 6.20% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 6.77% และมีแผนปลายปีจะควบคุม NPL ให้ต่ำที่ระดับที่ 5% ขณะที่ก็ได้กันสำรองหนี้สูญอย่างรอบคอบและเพียงพอตามหลักเกณฑ์ของธปท. เพื่อรองรับความเสี่ยงแล้ว” นายฉัตรชัย กล่าว
สำหรับปีนี้ ธ.ก.ส. ออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อเสริมสภาพคล่องและลงทุน อาทิ สินเชื่อเคหะเพื่อที่อยู่อาศัย, สินเชื่อเงินด่วนคนดี และสินเชื่อเงินด่วนกึ่งแสนสำหรับสมาชิก อสม. และ อสส. มีผู้ใช้บริการกว่า 636,945 ราย รวมทั้งสินเชื่อเงินด่วนสิบหมื่นสำหรับสมาชิก อสม.-อสส. จำนวน 277,526 ราย
ด้านเงินฝาก ธ.ก.ส. เปิดตัว สลากออมทรัพย์ชุดขุนแผนมรกต เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2568 หน่วยละ 2,000 บาท ลุ้นรางวัลใหญ่ 40 ล้านบาท พร้อมรางวัลอื่น ๆ กว่า 1 แสนรางวัลต่อเดือน อายุสลาก 2 ปี จ่ายดอกเบี้ยทันที 0.475% ต่อหน่วย มียอดฝากแล้ว 3,580 ล้านบาท หรือ 1,790,000 หน่วย
นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์เงินฝากใหม่สองประเภท ได้แก่ เงินฝากทองชมพูนุช ดอกเบี้ยล่วงหน้า 1.40% ต่อปี ระยะเวลา 7 เดือน และ เงินฝากทองนพคุณ ฝากขั้นต่ำ 10,000 บาท รับดอกเบี้ยทุกเดือนแบบขั้นบันไดสูงสุด 2.15% ระยะเวลา 10 เดือน
ขณะที่การแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือนซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ ธ.ก.ส. ได้ขับเคลื่อนมาตรการพักชำระหนี้ลูกหนี้รายย่อยตามนโยบายรัฐบาล ตั้งแต่ระยะที่ 1 (ต.ค. 2566) จนถึงระยะที่ 3 (1 ต.ค. 2568 – 30 ก.ย. 2569) ปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 1.35 ล้านราย คิดเป็นยอดต้นเงินกู้กว่า 186,935 ล้านบาท
ธ.ก.ส. ยังดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ พร้อมส่งเสริมศักยภาพอาชีพภายใต้แนวคิด “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มและลดภาระหนี้ระยะยาว ปัจจุบันมีผู้ผ่านการอบรมแล้วกว่า 316,000 ราย
นอกจากนี้ ธนาคารยังสนับสนุนเงินทุนผ่าน โครงการสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูการประกอบอาชีพ สำหรับผู้ผ่านการอบรม วงเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย เพื่อใช้ลงทุนและเสริมสภาพคล่องระหว่างพักชำระหนี้ มีผู้กู้แล้ว 37,548 ราย รวมวงเงินกว่า 3,021 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ ธ.ก.ส. ยังดำเนินโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรังและนาปี ปี 2568 และส่งเสริมการเพาะปลูกให้เหมาะสมกับศักยภาพพื้นที่ ปีการผลิต 2568/69 โดยสนับสนุนเงินช่วยเหลือ ไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ มีเกษตรกรได้รับประโยชน์กว่า 4.5 ล้านครัวเรือน รวมเป็นเงินกว่า 36,716 ล้านบาท