TRUE เปิดโมเดล “Green Financing Program” หนุนคู่ค้าเข้าถึงสินเชื่อยั่งยืน

บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE มุ่งมั่นขับเคลื่อนความยั่งยืนในทุกมิติของ ESG ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล

ล่าสุด บริษัท ร่วมมือกับพันธวณิช และธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB เปิดตัว “Green Financing Program” เป็นครั้งแรกในเอเชีย เพื่อสร้างโอกาสให้พันธมิตรเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อความยั่งยืนได้ง่ายขึ้น สนับสนุนให้คู่ค้า TRUE ได้ดำเนินโครงการด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานทางเลือก รวมถึงเข้าถึงสินเชื่อพิเศษที่เชื่อมโยงกับผลลัพธ์ด้านความยั่งยืนที่ตั้งไว้ร่วมกัน 

นายซิกเว่ เบรกเก้ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ทรู มองว่า ‘การเติบโตอย่างยั่งยืน’ ต้องเกิดขึ้นจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนในห่วงโซ่อุปทาน ไม่ว่าจะเป็นการร่วมลดการปล่อยคาร์บอนผ่านโครงการ ‘Green Financing Program’ ที่ช่วยให้คู่ค้าสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนสีเขียวเพื่อปรับเปลี่ยนธุรกิจสู่ความยั่งยืนได้ง่ายขึ้น หรือการยกระดับมาตรฐานด้านสุขภาพและความปลอดภัยในการทำงาน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ

สิ่งที่ให้ความสำคัญที่สุด คือ ‘ความปลอดภัยของคนทำงาน’ เพราะเบื้องหลังเครือข่ายที่แข็งแกร่งของทรู คือการทำงานอย่างทุ่มเทของผู้คนมากมายในภาคสนาม 

โดยทรูตั้งเป้าหมาย ‘Zero Fatalities’ หรือการไม่มีการสูญเสียชีวิตจากการทำงานแม้แต่รายเดียว พร้อมยกระดับมาตรฐานสุขภาพและความปลอดภัยตลอดห่วงโซ่อุปทานอย่างจริงจัง เพื่อให้ทุกคนปลอดภัยในทุกวัน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตอย่างยั่งยืนที่ทรูตั้งใจเดินไปพร้อมกับพันธมิตรทุกคน

ทั้งนี้ ทรูยังได้ดำเนินมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างเข้มข้นและเป็นระบบในทุกขั้นตอนของการทำงาน ได้แก่

• ปรับปรุงและเข้มงวดสัญญากับซัพพลายเออร์ในพื้นที่เสี่ยงสูง
• ยกระดับการฝึกอบรมด้านความปลอดภัยให้กับซัพพลายเออร์
• ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล

ดร.เนตรชนก วิภาตะศิลปิน หัวหน้าสายงานด้านความยั่งยืนองค์กร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ทรู ร่วมมือกับพันธวณิช และ TTB เปิดตัว “Green Financing Program” เป็นครั้งแรกในเอเชีย เพื่อสร้างโอกาสให้พันธมิตรเข้าถึงแหล่งเงินทุนสีเขียวได้ง่ายขึ้น สนับสนุนให้คู่ค้าทรูได้ดำเนินโครงการด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานทางเลือก รวมถึงเข้าถึงสินเชื่อพิเศษที่เชื่อมโยงกับผลลัพธ์ด้านความยั่งยืนที่ตั้งไว้ร่วมกัน

ทรู มุ่งสร้างระบบนิเวศแห่งความยั่งยืนที่เติบโตไปพร้อมกับพันธมิตรในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง เฉพาะในปี 2568 มีคู่ค้ากว่า 100 ราย ซึ่งทุกบริษัทผ่านการประเมินด้าน ESG ครบ 100% และจากผลสำรวจกลุ่มพันธมิตรหลัก (High Spending) พบว่า กว่า 50% ของคู่ค้าให้ความสนใจในเรื่อง Green Financing Program ผนวกกับความพร้อมของทรูที่มีแพลตฟอร์ม “GHG (Greenhouse Gas) Emissions Data Platform and Consulting Service” ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการสนับสนุนพันธมิตร พิชิตเป้าหมาย Net Zero 

ทั้งนี้ มั่นใจว่าโมเดลนี้จะไม่เพียงเสริมศักยภาพให้คู่ค้าพร้อมรับกับแนวโน้มธุรกิจสีเขียว และความต้องการของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังตอบโจทย์นักลงทุนที่มุ่งเน้นการลงทุนด้าน Decarbonization นำพาห่วงโซ่อุปทานของทรูเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนไปด้วยกัน”

ชู 4 รูปแบบ “Green Financing Program”

คู่ค้าพันธมิตรของทรู สามารถเข้าถึง 4 ทางเลือกหลักที่ออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการในทุกมิติ ดังนี้

1. Green Loan & Blue Loan – สินเชื่อระยะยาวสำหรับโครงการด้านพลังงานทดแทนและพลังงานสะอาด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน สนับสนุนการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน รวมถึงการพัฒนาอาคารรักษ์โลก

2. Short-term Financing Linked-Loan (SLL) – สินเชื่อพิเศษที่เชื่อมโยงกับเป้าหมายด้านความยั่งยืน โดยมีเงื่อนไขดอกเบี้ยอัตราพิเศษซึ่งอ้างอิงจากผลลัพธ์การดำเนินงานด้านความยั่งยืนของบริษัท

3. Solar E-P-C (Engineering-Procurement-Construction) – สินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการโซลาร์เซลล์แบบครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่ค่าดำเนินการสำรวจพื้นที่ ออกแบบ ติดตั้ง ทดสอบ ไปจนถึงใช้งานระบบจริง

4. Hire Purchase/ Financial Lease for EV Car – สินเชื่อสำหรับจัดหารถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทั้งรถประจำตำแหน่ง รถส่วนกลาง รถสวัสดิการ และรถที่ใช้ในธุรกิจขนส่งสินค้า เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนในภาคโลจิสติกส์

สำหรับกลุ่มคู่ค้าของทรูในปัจจุบันมีประมาณ 2,000 ราย แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ 1. โทรศัพท์มือถือ, อุปกรณ์เสริม และ Packaging 2. อุปกรณ์ Internet of Things 3. ผู้ให้บริการด้านไอที การให้คำปรึกษา และโซลูชั่นทางธุรกิจ 4. ผู้ให้บริการด้านพัฒนาแอปพลิเคชัน 5. อุปกรณ์และบริการบรอดแบนด์ และ 6. งานสร้างข่ายสายและซ่อมบำรุงรักษาอุปกรณ์โครงข่าย

นายนิสากร หวั่งหลี รองผู้อำนวยการ บริษัท พันธวณิช จำกัด กล่าวว่า เราเป็นแพลตฟอร์มจัดซื้อจัดจ้างอิเล็กทรอนิกส์ หรือ eProcurement ecosystem ซึ่งจะช่วยลูกค้าบริหารความเสี่ยง (Risk Management) โดยบริษัทจะมีการประเมินความเสี่ยงรอบด้านของ Applier 360 ซึ่งจะทำให้ต้นทุนของผู้ซื้อและผู้ขายลดลง นอกจากนี้ ธนาคารยังสามารถใช้ข้อมูล (Data) การซื้อขายเหล่านี้นำไปประเมินในการปล่อยสินเชื่อได้ 

“บริษัทจะมีการประเมินความเสี่ยงรอบด้านของ Applier 360 ซึ่งจะเป็น Credit Scoring ในการช่วยประเมินการปล่อยสินเชื่อ และจะมีความสำคัญมากขึ้น” นายนิวากร กล่าว