"คลัง" เคลียร์ชัด การบินไทยไม่หวนคืนรัฐวิสาหกิจ ยันส่งมืออาชีพเสริมบอร์ด

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้เสนอรายชื่อคณะกรรมการบริษัทชุดใหม่ เพื่อทดแทนกรรมการชุดเดิมที่หมดวาระ พร้อมเสนอเพิ่มจำนวนกรรมการจาก 11 คน เป็น 15 คน ซึ่งถือเป็นความจำเป็นเชิงโครงสร้างขององค์กร

การเพิ่มจำนวนกรรมการครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อให้สามารถจัดตั้งคณะกรรมการชุดย่อยที่จำเป็นสำหรับบริษัทขนาดใหญ่ได้อย่างครบถ้วน เช่น คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง ที่ปัจจุบันยังไม่มี

“ปัจจุบันการบินไทยมีคณะกรรมการได้เพียง 2 ชุด คือ คณะกรรมการตรวจสอบ และคณะกรรมการสรรหาและค่าตอบแทน ซึ่งไม่เพียงพอ เพราะเมื่อหักจำนวนกรรมการที่อยู่ในคณะเหล่านี้ รวมถึงประธานกรรมการออกไป จะเหลือจำนวนกรรมการไม่เพียงพอสำหรับการตั้งคณะกรรมการชุดอื่นเลย” นายลวรณกล่าว

นายลวรณเน้นย้ำว่า การบินไทยไม่ได้ถูกบริหารในฐานะรัฐวิสาหกิจ และไม่เคยมองว่าบริษัทเป็นรัฐวิสาหกิจ โดยบริษัทยังคงมีสถานะเป็น "listed company" หรือบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อย่างแท้จริง ทั้งกระบวนการแต่งตั้งกรรมการชุดใหม่ก็เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทจดทะเบียน ไม่ใช่การแต่งตั้งแบบหน่วยงานของรัฐ

“ตราบใดที่ผมยังเป็นประธาน จะไม่มีเรื่องทุจริตเกิดขึ้น ทุกอย่างต้องดำเนินการอย่างโปร่งใสทุกเรื่อง” นายลวรณ กล่าว
 

รายชื่อกรรมการที่เสนอชื่อในเบื้องต้นมีทั้งหมด 17 คน ซึ่งมาจากการเสนอชื่อของกรรมการในการประชุมเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม โดยในจำนวนนี้ กระทรวงการคลังเสนอชื่อประมาณ 10 คน อย่างไรก็ตาม รายชื่อดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่ถือหุ้นเกิน 5% ยังสามารถเสนอชื่อเพิ่มเติมได้ถึงวันที่ 19 ตุลาคม

คณะกรรมการสรรหาจะทำการคัดเลือกให้เหลือ 8 คน ก่อนเสนอให้คณะกรรมการชุดใหญ่พิจารณาในวันที่ 23 ตุลาคม จากนั้นจึงจะเข้าสู่วาระการพิจารณาในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี (AGM) เดือนธันวาคม ซึ่งเป็นการประชุมสามัญครั้งแรกหลังการฟื้นฟูกิจการ

การประชุม AGM ในเดือนธันวาคม จะมีวาระสำคัญ 2 เรื่อง ได้แก่

1. การกำหนดค่าตอบแทนกรรมการ ซึ่งที่ผ่านมายังไม่ได้รับการอนุมัติ เพราะต้องอาศัยเสียงข้างมากจากผู้ถือหุ้น

  2.การเสนอเพิ่มจำนวนกรรมการจาก 11 คน เป็น 15 คน เพื่อให้สามารถจัดตั้งคณะกรรมการ ย่อยต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วน

ปัจจุบัน กระทรวงการคลังถือหุ้นการบินไทยอยู่ประมาณ 38% โดยยังไม่มีแผนที่จะซื้อหุ้นเพิ่มในขณะนี้ นายลวรณระบุว่า รัฐบาลยังคงต้องดูแลและติดตามการดำเนินงานของบริษัท เนื่องจากได้มีการอัดฉีดเงินจากภาครัฐเข้าไปแล้วกว่า 40,000–50,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินของประชาชน