ราคาทองปิดพุ่ง 1,050 บาท ชัตดาวน์ สหรัฐฯ ยืดเยื้อ-หวังเฟดลดดอกเบี้ย
ชัตดาวน์รัฐบาลสหรัฐฯ ยืดเยื้อ ตลาดคาดเฟดลดดอกเบี้ย 0.25% ภายในสิ้นเดือนนี้ หนุนทองคำปรับขึ้นสูงสุดใหม่ใกล้ระดับ 4,000 ดอลลาร์ ทองไทยปิดพุ่งแรงรวม 1,050 บาท ทองรูปพรรณแตะ 60,500 บาท
KEY
POINTS
- ราคาทองคำในประเทศปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้น 1,050 บาท
- ปัจจัยหนุนมาจากภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อ ซึ่งสร้างความไม่แน่นอนต่อทิศทางเศรษฐกิจ
- ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีแนวโน้มจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นผลดีต่อราคาทองคำ
สรุปราคาทองคำวันนี้ (6 ต.ค.2568) อัปเดต ราคาทองคำ ล่าสุด โดยสมาคมค้าทองคำ ประกาศ ราคาทองคำ 24 ครั้ง ปิดตลาด เมื่อเวลา 17.08 น. ส่งผลให้ความเคลื่อนไหวราคาทองคำตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ โดยรวมปรับเพิ่มขึ้นรวม 1,050 บาท เมื่อเทียบกับราคาซื้อขายเมื่อวานนี้ (4 ต.ค.2568)
ราคาทองคำแท่ง 96.5%
- รับซื้อบาทละ 60,400.00 บาท
- ขายออกบาทละ 60,500.00 บาท
ราคาทองคำรูปพรรณ
- รับซื้อบาทละ 59,184.64 บาท
- ขายออกบาทละ 61,300.00 บาท
ราคาทองคำโลก (Gold Spot)
- 3,938.00 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
บทวิเคราะห์ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ระบุว่า ราคาทองวันนี้ (6 ต.ค.) ปรับตัวขึ้นสูงสุดใหม่ใกล้ระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้แรงหนุนจากภาวะชัตดาวน์รัฐบาลสหรัฐฯ ที่มียืดเยื้อ ส่งผลให้การเผยแพร่รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่กำหนดในวันศุกร์ต้องเลื่อนออกไป เพิ่มความไม่แน่นอนต่อทิศทางเศรษฐกิจและนโยบายการเงินของเฟด Bloomberg รายงานว่าในภาวะที่ขาดข้อมูลทางการ ข้องอาศัยรายงานภาคเอกชนเพื่อประเมินภาพเศรษฐกิจ ขณะที่เฟดยังคงเผชิญแรงกดดันในการตัดสินใจทางนโยบาย โดยตลาดคาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ภายในสิ้นเดือน ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำที่ไม่มีผลตอบแทนดอกเบี้ย
นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ในยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึงแรงซื้อจากธนาคารกลางทั่วโลกและนักลงทุนรายย่อยผ่านกองทุน ETF ซึ่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 3 ปี และยังคงขยายตัวต่อเนื่องในเดือนตุลาคม
ขณะเดียวกัน Reuters รายงานว่าฝรั่งเศสเผชิญวิกฤตการเมือง หลังนายเธบาลเชียง เลอคอร์นู นายกรัฐมนตรีคนใหม่ลาออกภายในเวลาเพียง 14 ชั่วโมง หลังจัดตั้งคณะรัฐมนตรี ส่งผลให้ตลาดหุ้นฝรั่งเศสและค่าเงินยูโรร่วงลงแรง เหตุการณ์กล่าวตอกย้ำบรรยากาศความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรป ซึ่งยิ่งหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย นักลงทุนควรติดตามถ้อยแถลงของกรรมการเฟด Schmid และประธาน ECB คริสติน ลาการ์ดใบนี้อย่างใกล้ชิด
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน
- ขายทำกำไรสถานะซื้อหากไม่ผ่าน 3,957 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- ผ่านได้ชะลอขาย และขยับ Trailing Stop มาที่ 3,895 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อ Lock กำไร
- เสี่ยงซื้ออีกครั้งหากราคาไม่หลุด 3,895 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากหลุดให้ชะลอไปเข้าซื้อที่ 3,863-3,820 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- ตัดขาดทุนหากหลุด 3,820 ดอลลาร์ต่อออนซ์


