"ศุภจี" เร่งลดค่าครองชีพ ดันธงฟ้า–เสรีราคายา–หนุนคนละครึ่ง
ศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดแผนเร่งด่วนลดค่าครองชีพ เดินหน้าโครงการธงฟ้า เปิดเสรีราคายา ลดค่ารักษา และต่อยอดคนละครึ่ง กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก
ศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เผยเร่งเดินหน้ามาตรการเชิงรุกเพื่อรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจ โดยใช้กลไกทั้งด้าน เกษตร การส่งออก และค่าครองชีพ เป็นสามเสาหลักในการประคับประคองเศรษฐกิจฐานรากและสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจ
บริหารสมดุลสินค้าเกษตร – ดูดซับส่วนเกิน ลดแรงกดดันราคาตกต่ำ
ศุภจีระบุว่า ปัญหาหลักของสินค้าเกษตรในขณะนี้คือ “ความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน” ซึ่งทำให้ราคามีความผันผวน โดยเฉพาะในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวที่มีผลผลิตจำนวนมาก
กระทรวงพาณิชย์จึงเดินหน้าแนวทาง “ดูดซับอุปทานส่วนเกิน” ออกจากระบบ เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาและรายได้ของเกษตรกร พร้อมขับเคลื่อนโครงการ “ธงเขียว” ที่ช่วยลดต้นทุนปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย และเวชภัณฑ์ทางการเกษตร
นโยบายนี้ไม่เพียงช่วยประคองราคาสินค้า แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณให้เกษตรกรปรับการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการตลาดมากขึ้นในระยะยาว
มาตรการลดภาระค่าครองชีพ – เดินหน้า “ธงฟ้า” ควบ “เปิดเสรีราคายา”
ภายใต้นโยบายของรัฐบาล กระทรวงพาณิชย์ยังเน้นการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนในเชิงรูปธรรม ทั้งมาตรการระยะสั้นที่ให้ผลระยะยาว เช่น
“คนละครึ่ง” และ “คนละครึ่งพลัส” ที่ช่วยกระจายรายได้สู่ฐานราก
ขณะเดียวกัน กระทรวงยังขยายโครงการ “ธงฟ้า” ลงพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะ 7 จังหวัดชายแดนไทย–กัมพูชา เพื่อให้สินค้าราคาย่อมเยาเข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม ผ่านความร่วมมือกับภาคเอกชนและหน่วยงานท้องถิ่น
มีการจับมือกับ ไปรษณีย์ไทย เพื่อสนับสนุนค่าขนส่งสินค้าข้ามเขต ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถกระจายสินค้าได้ทั่วถึงมากขึ้น
อีกหนึ่งมาตรการที่สร้างผลกระทบเชิงบวกคือ การลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ
โดยกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับ สมาคมโรงพยาบาลเอกชน ผลักดันให้มีการเปิดเผย “ราคายาอย่างโปร่งใส” และเปิดโอกาสให้ประชาชนเลือกซื้อยาภายนอกโรงพยาบาลได้โดยสมัครใจ
ขณะนี้มี 5 เครือโรงพยาบาลเอกชนกว่า 100 แห่ง เข้าร่วมโครงการแล้ว
มาตรการนี้คาดว่าจะช่วยลดภาระค่ารักษาพยาบาล เพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค และลดความแออัดของโรงพยาบาลรัฐในเวลาเดียวกัน
ส่งออกเชิงรุก – ดัน G2G ข้าว–ผลไม้–สินค้าอุปโภค บุกตลาดใหม่ทั่วโลก
ในด้านการค้าระหว่างประเทศ ศุภจีระบุว่าแนวโน้มการส่งออกเริ่มชะลอตัว แต่กระทรวงพาณิชย์เตรียมรับมือด้วย ยุทธศาสตร์การเจรจารัฐต่อรัฐ (G2G) กับประเทศคู่ค้า เพื่อระบายสินค้าส่งออกและขยายตลาดใหม่อย่างต่อเนื่อง
จีน: ใช้โอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูต ผลักดันข้อตกลงซื้อข้าว G2G ปัจจุบันมีคำสั่งซื้อแล้วกว่า 280,000 ตัน และอยู่ระหว่างการเพิ่มปริมาณ
ญี่ปุ่น–สิงคโปร์: เดินหน้าเจรจาเพิ่มเติม
ตลาดใหม่: มุ่งขยายสู่ ตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชียใต้ ครอบคลุมทั้งสินค้าเกษตร อาหารแปรรูป และสินค้าอุปโภคบริโภค
การผลักดันการค้าในมิตินี้มีเป้าหมายทั้งเพื่อรักษาระดับรายได้ของผู้ส่งออกไทย และสร้างสมดุลระหว่างรายได้ประเทศกับกำลังซื้อในประเทศ
มาตรการทั้งหมดของกระทรวงพาณิชย์สะท้อนแนวคิด “พาณิชย์เชิงรุกเพื่อประชาชน” ที่ไม่ได้มองเพียงตัวเลขการค้า แต่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เชื่อมโยงกับคุณภาพชีวิตของประชาชน
ทั้งการลดต้นทุนเกษตรกร การขยายตลาดผู้ประกอบการรายย่อย และการลดค่าใช้จ่ายครัวเรือน ถือเป็น “สามแรงขับ” ที่มุ่งลดแรงกดดันค่าครองชีพ และสร้างสมดุลให้เศรษฐกิจไทยในช่วงที่โลกยังเผชิญความผันผวน


