ถอดแนวคิด “ฮิม-วิศัลย์” ซีอีโอ WARRIX ทำธุรกิจแบบไม่หิวเงิน

แฟนบอลไทยคงคุ้นชื่อ วอริกซ์ (WARRIX) กันดี ในฐานะแบรนด์เจ้าของลิขสิทธิ์เสื้อฟุตบอลทีมชาติไทย และผู้สนับสนุนทีมในไทยลีกกว่า 7 สโมสร รวมถึงทีมบีซีซี แต่เบื้องหลังความสำเร็จที่เห็นในวันนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน

 

“วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล” ซีอีโอผู้ก่อตั้งแบรนด์ ภายใต้บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นจากศูนย์ แทบไม่มีอะไรในมือเลย เขาใช้เวลาเกือบสิบปีกว่าจะพาแบรนด์เติบโต สร้างรายได้กว่า 1,500 ล้านบาท คำถามจึงเกิดขึ้นว่า อะไรคือคีย์ซักเซส จุดพลิกผันคืออะไร?

 

อยู่เบื้องหลังเสื้อกีฬาทีมชาติทุกปี 

บนเวที ScaleFast Summit & Expo 2025 ต่อหน้าผู้ฟังกว่าพันคน วิศัลย์เล่าด้วยน้ำเสียงมั่นใจว่า เขาไม่ใช่เพียงเจ้าของแบรนด์ที่ทำเสื้อกีฬาทีมชาติไทย แต่คือคนที่อยู่เบื้องหลังทุกแนวคิดการออกแบบเสื้อทีมชาติในแต่ละปี

 

“เสื้อกีฬา สำหรับผม มันไม่ใช่แค่ผ้าที่ใส่แล้วเปียกเหงื่อแล้วผ่านไป แต่มันคือ งานศิลปะ” เขากล่าวอย่างภูมิใจ พร้อมยกตัวอย่างคอนเซปต์ล่าสุดอย่าง 'อโยธยา' ที่ถูกถ่ายทอดทั้งผ่านเสื้อทีมชาติและหนังสั้นดิจิทัลที่สร้างด้วย AI กลายเป็นการเล่าเรื่องในแบบที่เข้ากับยุคสมัยและจับใจแฟนบอล

 

ธุรกิจที่เริ่มจากศูนย์สู่ 1,500 ล้าน ได้อย่างไร?

วิศัลย์ เล่าว่า ทุกอย่างเริ่มจากทัศนคติที่กล้าคิด กล้าฝัน กล้าตั้งเป้า และกล้ารับความเสี่ยงในระดับหนึ่ง พร้อมใช้ประสบการณ์ และความชำนาญที่สั่งสมมาตลอด การเติบโตของยอดขาย ธุรกิจเริ่มต้นจากศูนย์ โดยมียอดขายในช่วงแรกที่ 60 ล้านบาท, 130 ล้านบาท, และ 180 ล้านบาทตามลำดับ

 

ปีแห่งการก้าวกระโดดคือ ปี 2560 ที่ได้รับสิทธิ์ทำเสื้อทีมชาติไทยกลายป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่เรียกว่า Springboard ทำให้บริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า แม้จะเคยตั้งเป้าไว้ที่ 700 กว่าล้านบาท แต่ทำได้ที่ 574 ล้านบาท

 

พอมาถึงปี 2565 การจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ปีนี้ได้ปลดล็อกข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ทำให้ยอดขายที่เคยติดขัดในช่วงโควิดที่ 600 กว่าล้านบาท สามารถทะลุ พันล้านบาท ได้

 

“คนทำธุรกิจต้องมี Fighting Spirit หรือหัวใจนักสู้ ผมไม่อาจบอกว่าฉลาดที่สุดหรือเก่งที่สุด แต่ผมมั่นใจว่าผมขยันและสู้มากกว่าใคร เพราะเชื่อว่าถ้าอยากทำให้สำเร็จ ต้องกัดไม่ปล่อย สู้แล้วสู้อีก จนสิ่งที่ตั้งใจต้องสำเร็จ”

 

อย่างการแก้ปัญหาด้านการเงินเฉพาะหน้า เมื่อธนาคารไม่ให้กู้เงินในช่วงที่ประมูลทีมชาติไทย สิ่งที่เราทำคือ 

• ขอเครดิตเทอมจากซัพพลายเออร์ ขอให้ซัพพลายเออร์เพิ่มเครดิต ซึ่งเปรียบเสมือนการได้เงินทุนหมุนเวียน
• เก็บเงินสดจากลูกค้าในปีแรกของการทำเสื้อทีมชาติไทย บริษัทใช้วิธี 'เก็บเงินสด' ก่อนส่งของ แทนที่จะปล่อยเครดิต 3-5 เดือน ทำให้กระแสเงินสดหมุนเวียนผ่านไปได้ โดยเฉพาะในช่วง 9 เดือนแรก

 

มีเจ้าของธุรกิจหลายคนเข้าใจธุรกิจแต่ว่าไม่เข้าใจเรื่องการเงิน ทำให้บริษัทไปต่อไม่ได้ ทั้งหมดเริ่มจาก ทัศนคติและความคิดที่จะสู้ชีวิต

 

แล้วความเป็นนักสู้เริ่มต้นตอนไหน?

วิศัลย์ บอกว่า ตั้งแต่อายุ 14 ปี เมื่อธุรกิจที่บ้านล้ม ผมไม่มีเงินแม้แต่ซื้อข้าว แต่ต้องดิ้นรนหาหนทางสร้างรายได้ นั่นคือจุดเริ่มต้นที่สอนให้ผมรู้จัก การแก้ปัญหา ความอดทน และการต่อสู้เพื่อความสำเร็จ ซึ่งทั้งหมดนี้กลายเป็นหัวใจของ WARRIX 

 

"ผมก็ถูกสอนให้ ดิ้นรนและแสวงหาโอกาส ทุกโอกาสที่เข้ามาในชีวิตไม่ได้เกิดซ้ำสองครั้ง แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกโอกาสต้องคว้าไว้ เราต้องเลือกสิ่งที่เหมาะกับตัวเองในแต่ละช่วงเวลา"

 

Work-life balance ไม่มีสำหรับคนที่จะประสบความสำเร็จ 

ช่วงเรียนมหาวิทยาลัย ผมได้ทำงานในหลายบริษัท ตลอด 7-8 ปีก่อนเริ่มธุรกิจตัวเอง สิ่งที่ผมทำคือ ทำงานเหมือนเราเป็นเจ้าของบริษัทนั้นจริง ๆ ไม่ว่าเวลาจะเลิกงาน 17:00 น. หรือหามรุ่งหามค่ำ ผมก็ทำเต็มที่ เพราะประสบการณ์เหล่านี้สร้าง 'เขี้ยวเล็บ' และความเข้าใจชีวิตจริงที่ไม่สามารถเรียนรู้ได้จากตำรา

 

สำหรับผมแล้ว Work-life balance สำหรับคนที่จะประสบความสำเร็จไม่มี ในวัยเรียนหรือวัยเริ่มทำงานยังไม่สำคัญ เพราะถ้าอายุน้อยแต่คิดเรื่องบาลานซ์มากเกินไป คุณจะไม่มีเงินพอสำหรับดูแลตัวเองในวัยเกษียณ ผมเชื่อว่าช่วงวัยทำงานควร ทุ่มเทและทำงานหนัก เพื่อสร้างโอกาสและความสำเร็จในอนาคต ทุกอย่างไม่ได้มาจากโชคลาภ แต่มันมาจากตัวเอง

 

คนที่หิวเงินจะไม่มีวันอิ่ม ปรัชญาธุรกิจ

วิศัลย์ กล่าวต่อว่า เขามีปรัชญาในการใช้ชีวิต ซึ่งอาจขัดแย้งกับแนวคิดที่โรงเรียนสอนธุรกิจทั่วโลกสอนกันที่เน้นเรื่อง 'กำไรสูงสุด' (Maxim Profit) เพราะเชื่อว่า 'คนที่ หิวเงิน จะไม่มีวันอิ่มเงิน' แนวคิดนี้นำไปสู่การตัดสินใจในการทำธุรกิจอีกมากมาย

 

นอกจากนี้การตัดสินใจของคนทำธุรกิจส่วนมากมักจะมาจากความโลภและความกลัว แต่ถ้าหากตัดสินใจจากความพอเพียงพอและตั้งมั่นในความสุจริตชอบธรรม เรื่องนี้จะยั่งยืนกว่า

 

"ผมยึดมั่นว่าการเดินในทางที่ชอบธรรมจะยั่งยืนกว่าคนที่เดินในทางที่ไม่สุจริต ซึ่งสักวันหนึ่งสิ่งเหล่านั้นก็จะกลับมาทำลายตัวเขาเอง ผมเลือกทำสิ่งที่ลูกสาวของผมต้องภูมิใจ และทุกโอกาสดี ๆ ที่เข้ามา มาจาก ความตั้งใจและความถูกต้องในการกระทำของเราเอง ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ที่รู้จักผมหรือไม่ การให้โอกาสย่อมเกิดขึ้นกับคนที่เดินในทางถูกต้อง"

 

ตลอดประสบการณ์กว่า 50 ปี ผมเรียนรู้ว่าโอกาสดี ๆ จะเข้ามาเพียงครั้งเดียว แต่สิ่งสำคัญคือ ความยึดมั่นและการทำอย่างถูกต้อง การสร้างธุรกิจต้องมอง ภาพใหญ่ (Big Picture) วิเคราะห์แบรนด์อื่นๆ ว่าความสำเร็จเกิดจากอะไร ความผิดพลาดเกิดจากอะไร เราต้องปรับกลยุทธ์ทุกปี

 

สำหรับ WARRIX กลยุทธ์สำคัญคือ 

1. สร้างแบรนด์ แม้แบรนด์ประสบความสำเร็จในไทยแล้ว เราต้องต่อยอดไปสู่ภูมิภาคและตลาดต่างประเทศ
2. Direct-to-Consumer การเข้าถึงลูกค้าโดยตรงเป็นกุญแจสำคัญ
3. สร้างพันธมิตร (Partnership & Licensing) มีการใช้กลยุทธ์ License Marketing (การผูกขาดเครื่องหมายการค้า) เช่น การทำเสื้อทีมชาติไทย, สโมสรฟุตบอล, โรงเรียน, มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังใหม่ในประเทศไทย แต่มีมูลค่าสูงในต่างประเทศ
4. การควบคุมต้นทุนและลงทุนในระบบข้อมูล เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าและวางแผนการตลาด บริษัทลงทุนด้านระบบและ Data Management ถึงปีละ 8-9 ล้านบาท

 

เรายังมองโอกาสใหม่ ๆ อย่าง อีเวนต์คอนเสิร์ตและงานวิ่ง ซึ่งในหลายประเทศ เสื้อผ้าจากงานอีเวนต์มีมูลค่าการขายสูงกว่าตัวงานเอง การทำแบบนี้ช่วยให้ลูกค้าซื้อครั้งแรกแล้วกลับมาซื้อซ้ำ วันนี้ WARRIX ขยายธุรกิจจากเสื้อกีฬาไปสู่ Lifestyle Brand ครบวงจร ทั้งการสร้างชุมชนผู้สนับสนุน การจัดกิจกรรม การบริหารร้านค้า และแม้แต่การ Take Over และ M&A เพื่อสร้าง Ecosystem ของแบรนด์

 

หลังจากนำบริษัทเข้าสู่ ตลาดหลักทรัพย์ ภายใน 10 ปี WARRIX ได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และตอนนี้มีจุดขายในจีน 38 แห่ง พร้อมขยายสู่ตลาดอื่น ๆ เช่น รัสเซีย ซึ่งหลายคนอาจมองว่าเป็นความเสี่ยง แต่มองว่าเป็นโอกาส

 

อย่างไรก็ตาม วิศัลย์ ทิ้งท้ายว่า ทั้งหมดนี้สอนให้รู้ว่า ความสำเร็จไม่ได้มาเพียงโชค แต่เกิดจากการวางแผน การกล้าเสี่ยงอย่างชาญฉลาด และความตั้งใจสร้างแบรนด์ที่ยั่งยืน

 

Credit ภาพ : Wisan Wanasaksrisakul