posttoday

นายกฯ ถกสมาคมแบงก์ ดัน "quick big win" แก้หนี้-เพิ่มสภาพคล่องSMEs

22 กันยายน 2568

อนุทิน นายกฯ นำทีมเศรษฐกิจหารือสมาคมธนาคารไทย เน้นเร่งแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน หนี้ SME และอัดฉีดสภาพคล่อง พร้อมสั่งการให้เกิด "quick big win" เพื่อฟื้นเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

KEY

POINTS

  • รัฐบาล นำโดยนายกฯ อนุทิน หารือกับสมาคมธนาคารไทยเพื่อวางแนวทางความร่วมมือในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
  • มุ่งเน้นนโยบาย "quick big win" เพื่อเร่งแก้ปัญหาหนี้สิน โดยเฉพาะหนี้ของผู้ประกอบการ SME และหนี้ครัวเรือน
  • ขอความร่วมมือสถาบันการเงินในการอัดฉีดและเพิ่มสภาพคล่องให้เข้าถึงผู้ประกอบการรายย่อยที่มีศักยภาพ

ในช่วงเช้าวันนี้ (22 กันยายน 2568) รัฐบาลได้จัดให้มีการประชุมหารือร่วมกับภาคเอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและแนวทางความร่วมมือในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในภาคการเงินและธนาคาร ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และการฟื้นฟูเศรษฐกิจในระยะต่อไป

 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล เปิดเผยภายหลัง การเข้าหารือกับ สมาคมธนาคารไทย โดยมี นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย และคณะกรรมการบริหารสมาคมฯเข้าร่วมในครั้งนี้ ว่า การหารือในครั้งนี้มุ่งเน้นในหลายประเด็นสำคัญ โดยรัฐบาลได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และขอรับความร่วมมือจากสมาคมธนาคารไทยในการสนับสนุนการดำเนินนโยบายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

ประเด็นหลักที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก คือ ปัญหาหนี้สินของประชาชน โดยเฉพาะหนี้สินของผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs) และปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สะสมมาอย่างยาวนาน รัฐบาลได้ขอความร่วมมือให้สถาบันการเงินพิจารณาแนวทางในการผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ และสนับสนุนการ “อัดฉีดสภาพคล่อง” (liquidity) เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้สามารถเดินหน้าผลิตและสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง

โดย รัฐบาลจะเร่งดำเนินการในสิ่งที่สามารถทำได้ พร้อมเน้นย้ำถึงการเพิ่มศักยภาพของประเทศ และการเพิ่มมูลค่าในภาคส่วนสำคัญที่สร้างรายได้สูงสุด ได้แก่ การท่องเที่ยว บริการ Medical Wellness เกษตรกรรม ทั้งผู้ผลิต ผู้แปรรูป และราคาพืชผล รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมไฮเทค ที่ประเทศไทยยังมีพื้นที่เพียงพอรองรับการขยายตัว

 

ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ กล่าวว่า วันนี้ได้หารือถึงความร่วมมือการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไทย เนื่องจากปัจจุบันเศรษฐกิจไทยมีปัญหาจำนวนมาก จึงได้มีการตกลงร่วมกันที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยให้เร็วที่สุด แต่ต้องเป็นการฟื้นฟูอย่างยั่งยืน ด้วยโดยเน้นการฟื้นฟูในระยะสั้นแต่ให้เกิดผลในระยะยาว เพื่อปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และแก้ปัญหาเก่า ๆ โดยเฉพาะเรื่องหนี้ครัวเรือนที่เป็นปัญหาสะสมมานาน โดย มองว่า สมาคมธนาคารไทยเปรียบเสมือน "น้ำมันหล่อลื่น" ที่จะช่วยให้เครื่องจักรทางเศรษฐกิจเดินหน้าได้ดี และส่งเสริมเข้าสู่ธุรกิจใหม่ในเวลาสั้นๆ 

 

"เราได้รับโจทย์จากท่านนายกฯ ว่า เราต้องฟื้นเศรษฐกิจไทยได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้ คำว่า quick big win คือ ทำยังไร ก็ได้ให้ big ให้ quick แล้วให้ win และสร้างความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจไทย และเตรียมความพร้อมไทยไปด้วย ซึ่งเราได้รับคำแนะนำที่ดีมากจากสมาคมธนาคาร และจะจับมือทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะเรื่องสภาพคล่องสำหรับ SMEs เราพยายามผลักดันให้เข้าถึงผู้ประกอบการ พร้อมเตรียมความพร้อมให้เข้าสู่โลกยุคใหม่ แข่งขันได้ และพัฒนาทักษะเพิ่มขึ้น " นายเอกนิติ กล่าว

 

นายผยง ศรีวานิช ประธานสมาคมธนาคารไทย และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย(KTB) ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า รัฐบาลฝากโจทย์ใหญ่เรื่องหนี้ครัวเรือน ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหาทั้งระบบที่ต้องขับเคลื่อนไปพร้อมกัน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่รัฐบาลมีเวลาจำกัดในการขับเคลื่อนนโยบาย โดยการดำเนินการเร็วที่สุดได้ คือ ขณะที่รัฐบาลมีเวลาเพียง 4 เดือนจะต้องดูลำดับความสำคัญ เพราะนายกฯ ต้องการ "quick big win" ซึ่งทุกคนเข้าใจตรงกัน และวันนี้ภาคธนาคารก็ได้รับทราบนโยบายจากนายกฯ โดยได้มีการปรับรายละเอียดเพื่อให้สามารถร่วมมือกันได้ทุกภาคส่วน

 

สำหรับประเด็นสภาพคล่อง ข้อมูลถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ระบบขาดอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะในภาค SMEs ซึ่งจากโครงสร้างพบว่า มีผู้ประกอบการอยู่นอกระบบมากถึง 48% ทำให้ภาครัฐไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นในการประเมินสถานะและคุณภาพของหนี้ได้อย่างแม่นยำ ส่งผลให้เกิดความสับสนในการกำหนดมาตรการสนับสนุนอย่างตรงจุด อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีในฐานะที่เคยเป็นนักธุรกิจ ย่อมเข้าใจกลไกของห่วงโซ่อุปทานและปัจจัยสำคัญต่าง ๆ ที่หล่อหลอมให้เกิดระบบเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ จึงเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการจัดทำฐานข้อมูลที่ครอบคลุม เพื่อใช้สนับสนุนมาตรการเพิ่มสภาพคล่องได้อย่างมีประสิทธิผล

 

“ในประเด็น สภาพคล่อง ไม่ได้เป็นปัญหาในตัวเอง แต่ประเด็นสำคัญคือ สภาพคล่องไม่สามารถไหลไปถึงจุดที่ต้องการได้ จึงต้องมาดูว่า ขาดอะไร และเร่งดำเนินการอย่างเหมาะสม โดยขอให้ติดตามรายละเอียดอีกครั้งในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งนายกรัฐมนตรีมุ่งเน้นให้ ผลลัพธ์เป็นตัวตั้ง แล้วทำงานเพื่อไปให้ถึงผลลัพธ์นั้น ” นายพยง กล่าว

 

ส่วนข้อเรียกร้องต่างๆ สมาคมธนาคารไทยไม่ได้เรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการอะไรเพิ่มเติม เนื่องจากนายกฯ และทีมเศรษฐกิจมีความเข้าใจในเรื่องการเงินการธนาคารครอบคลุมทุกด้านอยู่แล้ว รวมถึงเรื่องการลงทุน พลังงาน 

 

นายผยง ยังกล่าวด้วยว่า การเข้าหารือครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 58 ปีของสมาคมธนาคารไทย ที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาพบด้วยตนเอง พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายที่ดีในการเปิดเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา โดยนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับ ทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ รวมถึงประเด็นการจ้างงาน 

 


 

ข่าวล่าสุด

อันวาร์ เข้าแทรกแซง ให้ไทย-กัมพูชา หยุดยิง 05.00 น. วันที่ 14 ธ.ค.