ซีพีเอฟ เปิดเบื้องหลังแนวคิด ‘ไก่ไทยไปอวกาศ’ พิสูจน์คนไทยทำได้

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวในงานสัมมนา MISSION TO SPACE MISSION FOR HEALTH ภายในงาน CP Innovation Exposition & CP Symposium 2025 หรือ มหกรรมนวัตกรรมบัวบาน 2025 ที่เครือซีพี จัดขึ้นว่า โครงการไก่ไทยจะไปอวกาศ ได้พัฒนาในช่วง  3 ปีที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรหลายส่วน อาทิ AXIOM Space,  VOYAGER  Space, My Space Corp. ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ ทั้งกรมปศุสัตว์ที่เข้ามาช่วยดูเรื่องมาตรฐาน สถาบันอาหาร และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA จนทำให้ไทยสามารถบรรลุภารกิจยกระดับมาตรฐานไก่ไทยไปสู่มาตรฐานที่เข้มข้นระดับอวกาศของ NASA ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าเป็นยิ่งมากกว่ามาตรฐาน Beyond Standard

 

 

จุดเริ่มต้น “ไก่อวกาศ” 

 

ย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้น เหตุผลที่ซีพีเอฟเลือกทำภารกิจไก่ไทยไปอวกาศ เพราะไก่เป็นสินค้าส่งออกสำคัญของประเทศไทย โดยซีพีเอฟ ผลิตไก่เนื้อประมาณ 500 ล้านตัวต่อปี ในจำนวนนี้เป็นไก่ที่บริโภคในประเทศและมีการส่งออกไปยัง 50 ประเทศทั่วโลก และที่เลือกใช้เมนู “อกไก่กะเพรา” เพราะเป็นอาหารสะท้อนถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี

 

 

"เป้าหมายไก่ไทยไปอวกาศคือ เราต้องการพิสูจน์ว่า คนไทยทำได้ เราสามารถผลิต สินค้าอาหารที่ได้มาตรฐานระดับโลก ที่ยากๆ ได้แล้ว ต้องการสร้าง inspiration ให้คนไทย สร้าง Footprint ในวงการอวกาศให้ไทยเป็นที่รู้จัก"

 

นายประสิทธิ์ เน้นย้ำกว่า ปัจจุบันไก่ที่ซีพีเอฟเลี้ยงมีการดูแลอย่างดีตลอด 24 ชั่วโมง ใช้เทคโนโลยีในการดูแลสวัสดิภาพสัตว์ อย่างไก่เบญจา กินข้าวกล้อง และเติมวิตามินลงไปในอาหารไก่อีกกว่า 17 ชนิด และยังมีโปรไบโอติก ตลอดระยะเวลาการเลี้ยงมีการพัฒนาสูตรอาหาร 4 สูตร เพื่อให้เหมาะกับการเจริญเติบโตแต่ละช่วงวัย ขอให้มั่นใจว่าไก่ไทยมีมาตรฐานความปลอดภัยยิ่งกว่าระดับโลก ไปสู่ระดับอวกาศแล้ว 

 

“เรามั่นใจว่าการดูแลสุขภาพไก่ให้ดี ก็ปลอดภัยจากโรคไม่ต้องใช้ยา และเมื่อคนกินไก่ก็จะได้รับสารอาหารครบถ้วนและปลอดภัยตามไปด้วย สอดรับกับ แนวคิด MISSION TO SPACE MISSION FOR HEALTH”

 

DNA แห่งการพัฒนาของชาวซีพี  

 

ดร.ไพรัตน์ ศรีชนะ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สำนักวิชาการ กล่าวว่า ไก่อวกาศเป็นการบูรณาการองค์ความรู้ทุกอย่างที่ใช้ในการเลี้ยงไก่ เข้ามาไว้ในนวัตกรรมนี้ การผสมผสานทุกอย่างทำให้ได้ “เหนือยิ่งกว่ามาตรฐานที่มีอยู่บนโลก” หรือ Beyond Standard  เรามีความภูมิใจในโครงการไก่ไทยไปอวกาศอย่างมาก 

 

“DNA ของเครือ CP คือ “การปลูกฝังให้คิดก่อน และทำก่อน” อย่างเมื่อ 100 ปีที่แล้ว คุณพ่อของท่านประธานอาวุโส ธนินท์ เจียรวนนท์ ริเริ่มติด expire Date ที่เมล็ดพันธุ์เป็นคนแรก และเราพัฒนาหลายๆอย่าง ทั้งการสร้างห้องปฏิบัติการณ์ด้านอาหารสัตว์ เมื่อ 50 ปีที่แล้ว ในปี 1973  ต่อมาใน ปี 1975 เราเริ่มซื้อคอมพิวเตอร์เข้ามาจัดเก็บข้อมูลปี 1976 เราเริ่มมีการจัดทำศูนย์วิจัยการพัฒนาสูตรอาหารสัตว์ซึ่งเป็นส่วนสำคัญมาก”

 

 

5 นวัตกรรมตลอดห่วงโซ่การผลิต 

 

ดร.ไพรัตน์ กล่าวว่า ซีพีเอฟ พัฒนา 5 นวัตกรรมตลอดห่วงโซ่ ตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ ทั้งด้านการวิจัยและพัฒนา ด้านยกระดับคุณภาพและความปลอดภัย ด้านการตรวจสอบและป้องกัน สร้างความมั่นใจในการเลี้ยงด้วย Farm Lab และด้านความปลอดภัยของระบบฟาร์ม

 

โดยด้านที่ 1.การวิจัยและพัฒนา  CP คือ ที่เดียวในไทยที่ใช้นวัตกรรมทางการเพทย์ที่ใช้ในมนุษย์มาใช้ในการวิเคราะห์ ดูแลสุขภาพหมู-ไก่ โดย เครื่อง Next Generation Sequencing หรือ เครื่องถอดรหัส DNA

 

2. ด้านยกระดับคุณภาพและความปลอดภัย ด้วยการใช้นวัตกรรมอาหารเสริม โปรไบโอติกสายพันธุ์ที่ดีที่สุดในอาหารสัตว์ 

 

3.ด้านการตรวจสอบและป้องกัน โดยใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีแบบ Real Time PCR เพื่อป้องกันโรคระบาด ตรวจเชื้อต่างๆ ด้วยเครื่อง LC-MS / MS ที่สามารถตรวจสารตกค้างต่างๆ ได้ละเอียดลึกถึงระดับ ppb (1 ในพันล้านส่วน)

 

4.สร้างความมั่นใจในการเลี้ยงด้วย Farm Lab CP มี Farm Lab ที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด เป็นเอกชนรายเดียวในโลก ที่ใช้ Metabolizable Energy Chamber และ AI Tech. ในการดูแลสุขภาพและพฤติกรรมของสัตว์ได้ตลอดเวลา 

 

5.ด้านความปลอดภัยของระบบฟาร์ม CP มีฟาร์มเลี้ยงระบบปิด ป้องกันโรค 100% (รักษ์โลก-กันไรค) ควบคุมระบบทั้งฟาร์มด้วยคอมพิวเตอร์ และมีระบบฆ่าเชื้อตั้งแต่ทางเข้าฟาร์ม