ตั้งชื่อรุ่นเทียบชั้น "Xiaomi 17 Pro Max" หวังวัดรอยเท้า iPhone 17
ไม่ต้องมี 16! Xiaomi พลิกตำราการตลาด กระโดดข้ามรุ่นส่งสมาร์ทโฟน "Xiaomi 17 Pro Max" ท้าชน iPhone17 แบบหมัดต่อหมัด หวังวัดรอยเท้าเจ้าตลาด
Xiaomi ประกาศกร้าวว่าจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดภายในเดือนนี้ พร้อมปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ เพื่อส่งสัญญาณท้าชน Apple ในสมรภูมิตลาดพรีเมียมอย่างเต็มตัว ตามรายงานจาก Bloomberg
Xiaomi บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากปักกิ่งได้ตัดสินใจเลื่อนกำหนดการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ให้เร็วขึ้นกว่าเดิม และที่น่าสนใจคือ การกระโดดข้ามจากสมาร์ทโฟนเจเนอเรชัน Xiaomi 15 ไปสู่ซีรีส์ 17 ทันที
พร้อมเปิดตัวรุ่นใหม่ในชื่อ Xiaomi 17 Pro และ 17 Pro Max ซึ่งเป็นการตั้งชื่อรุ่นเพื่อเทียบชั้นกับ iPhone 17 ของ Apple โดยตรง
โดยเมื่อวันจันทร์ เหลย จุน (Lei Jun) ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Xiaomi ประกาศจุดยืนชัดเจนว่า "ต้องการวัดรอยและเทียบชั้นกับ Apple ซึ่งถูกยกให้เป็นมาตรฐานสูงสุดของตลาดสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์มาโดยตลอด"
ความเคลื่อนไหวดังกล่าว เกิดขึ้นในจังหวะที่ iPhone 17 กำลังจะวางจำหน่ายทั่วโลกในวันศุกร์ 19 กันยายน 2568 ที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ดี เส้นทางของ Xiaomi ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ข้อมูลจาก Counterpoint Research เผยว่า
ปัจจุบัน Apple ครองส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มพรีเมียม (สมาร์ทโฟนราคา 600 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป) สูงถึง 62%
ในขณะที่ Xiaomi ยังมีส่วนแบ่งในตลาดสมาร์ทโฟนกลุ่มพรีเมียมเพียงเล็กน้อย แต่ก็มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยยอดขายในกลุ่มนี้พุ่งสูงขึ้นถึง 55% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
และมีโอกาสดีในการแข่งขันในตลาดบ้านเกิดอย่างประเทศจีน ซึ่งเป็นช่วงที่ iPhone Air ของ Apple มีกำหนดการวางจำหน่ายล่าช้าออกไป
"เราเริ่มกลยุทธ์บุกตลาดพรีเมียมเมื่อ 5 ปีที่แล้ว โดยเรียนรู้จากคู่แข่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา และเทียบเคียงตัวเองกับ iPhone" ลู่ เหว่ยปิง (Lu Weibing) ประธานบริษัท Xiaomi กล่าวผ่านโพสต์บน Weibo
"Apple ยังคงเป็นแบรนด์ที่โดดเด่น แต่เรามีความมั่นใจอย่างยิ่งว่าจะสามารถเผชิญหน้ากับความท้าทายนี้ได้ด้วยผลิตภัณฑ์ในเจเนอเรชันเดียวกัน"
อย่างไรก็ตาม บทวิเคราะห์ล่าสุดจาก Jefferies ชี้ว่า iPhone 17 มีแนวโน้มเปิดตัวอย่างสวยงามในจีน
โดยได้แรงหนุนจากยอดสั่งซื้อล่วงหน้าที่แข็งแกร่งและมาตรการอุดหนุนจากรัฐบาล ซึ่งทำให้รุ่นเริ่มต้นน่าสนใจกว่าปีก่อน
ขณะที่ เอดิสัน ลี (Edison Lee) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า "กลยุทธ์ด้านราคาของ Apple สะท้อนความตั้งใจจริงจังที่จะรักษาส่วนแบ่งตลาดในจีนเอาไว้"
ในขณะเดียวกัน คู่แข่งอย่าง Xiaomi ซึ่งสร้างชื่อมาจากการเป็นแบรนด์ที่ "คุ้มค่าคุ้มราคา" ในสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าและกระเป๋าเดินทาง
ก็ได้รุกเข้าสู่ตลาดยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และประสบความสำเร็จอย่างงดงามในปีที่ผ่านมา จนส่งผลให้มูลค่าหุ้นในตลาดฮ่องกงพุ่งขึ้นเกือบสามเท่า
ความสำเร็จในตลาดที่แม้แต่ Apple ยังต้องยอมถอยนี้เอง ดูเหมือนจะเป็นแรงผลักดันให้ Xiaomi กล้าที่จะท้าชนกับเจ้าตลาดสมาร์ทโฟนจากสหรัฐฯ โดยตรง
ไบรอัน มา (Bryan Ma) นักวิเคราะห์จาก IDC ให้ความเห็นว่า "การที่ Xiaomi กระโดดข้ามไปใช้ชื่อซีรีส์ '17'
คือการประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนว่า พวกเขามั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของตัวเองนั้นดีเทียบเท่ากับ Apple ซึ่งยังคงเป็นแบรนด์ที่ทรงอิทธิพลอย่างสูงในจีน"
เขายังเสริมอีกว่า "เฉพาะช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ยอดจัดส่งสมาร์ทโฟนในจีนที่ราคาเกิน 600 ดอลลาร์สหรัฐฯ ของ Xiaomi คิดเป็นสัดส่วนถึง 10% ของยอดขายทั้งหมดแล้ว
ซึ่งถือเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดจากปี 2019 ที่สัดส่วนนี้ยังเป็นศูนย์"


