posttoday

ธ.ก.ส. เตรียมโอนเงินไร่ละ 1,000 ช่วยชาวนา ล็อตแรก 1 ก.ย.นี้

21 สิงหาคม 2568

ธ.ก.ส. เผย เตรียมเสนอบอร์ด โอนเงินไร่ละพัน ให้เกษตรกรนาปี นาปรัง ล็อตแรก ภายใน 1 ก.ย.นี้ แบ่งการโอนเป็น 5 รอบ พร้อมเดินหน้าปล่อยสินเชื่อเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มอสม.-ข้าราชการท้องถิ่น-ครู กว่า 65,000 ล้านบาท

KEY

POINTS

  • ธ.ก.ส. เตรียมโอนเงินช่วยเหลือชาวนาในโครงการสนับสนุนเงินไร่ละ 1,000 บาท โดยคาดว่าจะเริ่มโอนล็อตแรกได้ในวันที่ 1 กันยายนนี้
  • โครงการปีนี้มีความพิเศษคือครอบคลุมทั้งข้าวนาปีและข้าวนาปรัง โดยมีวงเงินรวมทั้งสิ้นประมาณ 46,000 ล้านบาท สำหรับเกษตรกรราว 4 ล้านคน
  • การโอนเงินจะแบ่งออกเป็น 5 รอบ ซึ่ง ธ.ก.ส. พร้อมดำเนินการภายใน 3 วัน หลังจากได้รับข้อมูลเกษตรกรจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยภายหลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการสนับสนุนเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรังปี 2568 และโครงการสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีและส่งเสริมการเพาะปลูกให้เหมาะสมกับศักยภาพพื้นที่ ปีการผลิต 2568/69 หรือ เงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ว่าโดยปีนี้มีความพิเศษจากทุกปี เพราะนอกจากข้าวนาปีแล้ว ยังครอบคลุมถึงข้าวนาปรังด้วย แบ่งเป็น

  • ข้าวนาปี วงเงินประมาณ 38,000 ล้านบาท
  • ข้าวนาปรัง วงเงินประมาณ 8,000 ล้านบาทรวม
  • ทั้งสิ้น ประมาณ 46,000 ล้านบาท

ขณะนี้ ธ.ก.ส. อยู่ระหว่างเตรียมนำเรื่องเสนอเข้าที่ประชุม คณะกรรมการธนาคาร (บอร์ด ธ.ก.ส.) ในวันที่ 28 สิงหาคม 2568 นี้ และหากกระทรวงเกษตรฯ ส่งข้อมูลเกษตรกรมาครบหรือทยอยส่ง ธ.ก.ส. พร้อมดำเนินการโอนเงินให้เกษตรกรได้ภายใน 3 วัน หลังรับข้อมูล

 

"คาดว่า การโอนเงินไร่ละพัน พร้อมโอนได้ในวันที่ 1 ก.ย.นี้ แบ่งเป็น 5 รอบ เพราะเราไม่ได้โอนล็อตเดียวทั้งหมด เนื่องจากเกษตรกรที่อยู่ในข่ายราว 4 ล้านคน เพียงรอข้อมูลจาก หากกระทรวงเกษตรส่งข้อมูลให้เราครบ หรือทยอยส่งมา ธ.ก.ส.ก็พร้อมดำเนินการโอนเงินภายใน 3 วัน ขณะนี้ธ.ก.ส.กำลังหารือว่าจะใช้ช่องทางใดในการโอนเงิน อาจจะผ่านแอปทางรัฐได้หรือไม่ หรือโอนผ่านแพล็ตฟอร์มดเดิมของธ.ก.ส.โดยอยู่ระหว่างการศึกษาคู่ขนาดกับ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล หรือ DGA" นายฉัตรชัย กล่าว

สำหรับโครงการนี้ ย้ำว่า ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการโอนเงินในโครงการนี้ เนื่องจากยังอยู่ภายใต้ กรอบบริหารความเสี่ยงไม่เกิน 30% ของธนาคาร นอกจากนี้  ได้เร่งเดินหน้า ปล่อยสินเชื่อเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต ในหลายกลุ่มอาชีพ เพื่อช่วยลดภาระหนี้สินและเสริมสภาพคล่องให้ประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีรายได้ประจำในพื้นที่ชนบท ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

  • กลุ่มอสม.ทั่วประเทศ ปล่อยสินเชื่อแล้วกว่า 40,000 ล้านบาท
  • กํานัน-ผู้ใหญ่บ้าน เตรียมวงเงินอีก 5,000 ล้านบาท
  • ครู-บุคลากรด้านการศึกษาและสาธารณสุข จัดสรรเพิ่มอีก 10,000 ล้านบาท

ธ.ก.ส. ยังมี room สำหรับปล่อยสินเชื่อในภารกิจพัฒนาชนบทได้อีก 20% ของพอร์ต หรือประมาณ 200,000 ล้านบาท
 

นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนภาพรวมการปล่อยสินเชื่อในปี 2568 ล่าสุดของธนาคาร เติบโตอยู่ที่ราว 2% จากเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ 5% โดยยังถือว่าอยู่ในระดับที่สามารถประคับประคองได้ แม้จะเริ่มมีสัญญาณการปล่อยสินเชื่อที่ชะลอลงจากกลุ่มเกษตรกรสูงวัย ซึ่งปัจจุบันคิดเป็น 1 ใน 3 ของพอร์ตลูกค้าของ ธ.ก.ส. โดยธนาคารอยู่ระหว่างการพิจารณาแผนเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มดังกล่าว ซึ่งไม่สามารถชำระหนี้ได้ 

 

"สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปัจจุบัน ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 5% กว่า ซึ่งธ.ก.ส.สามารถคุมได้ ไม่กระทบในเชิงเหวี่ยง ในเรื่องของ NPL และการกันสำรองความเสี่ยง" นายฉัตรชัย กล่าว  

 

ในส่วนของผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐฯ (Tariff Tax) นายฉัตรชัยระบุว่า ธ.ก.ส. ได้ประชุมคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น โดยเน้นย้ำให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิต จากพืชเชิงเดี่ยวเป็นการปลูกพืชผสมผสาน และใช้เทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุน พร้อมเตรียมมาตรการเสริมจากทั้ง ธ.ก.ส. และกระทรวงการคลัง เพื่อรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในกลุ่มเปราะบาง

ข่าวล่าสุด

บอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด โปรแกรมฟุตบอล วันอังคารที่ 16 ธ.ค. 68