คลัง จับตาผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา มั่นใจศก.ไทยแกร่งรับมือไหว
สศค.เร่งประเมินผลกระทบ เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา จับตาใช้ประกอบปรับคาดการณ์จีดีพี 30 ก.ค.นี้ มั่นใจศก.ไทยพื้นฐานแกร่ง รับมือผลกระทบได้ ลั่นจะไม่ปล่อยให้ผลกระทบลุกลามเป็นวงกว้าง
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ สศค.อยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์ผลกระทบต่อภาคการค้าและเศรษฐกิจภาพรวม จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยอยู่ในขั้นตอนรวบรวมข้อมูลเพื่อเตรียมประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจไทยในระยะถัดไป
สถานการณ์มีความเคลื่อนไหวตลอดเวลา ต้องรอดูความชัดเจน ผลกระทบ ความเสียหายทางการค้าต่าง ๆ ซึ่งการประเมินก็ไม่ได้มีความยุ่งยาก คาดว่าเมื่อได้ความชัดเจนจะสามารถประเมินผลต่อเศรษฐกิจได้ชัดมากขึ้น
ในส่วนของมาตรการเยียวยา ล่าสุด กระทรวงการคลัง โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ร่วมมือกับธนาคารของรัฐ ออกมาตรการช่วยบรรเทาภาระผลกระทบแก่ประชาชนในพื้นที่แล้วเมื่อวานที่ผ่านมา
สำหรับผลกระทบต่อสัดส่วนการค้าชายแดนต่อจีดีพี นายพรชัยชี้แจงว่า เบื้องต้นสัดส่วนการค้าระหว่างไทยและกัมพูชา มีไม่มาก แต่อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลให้ชัดเจนก่อนการประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย
ในส่วนของความกังวลเกี่ยวกับความเชื่อมั่นของนักธุรกิจหรือนักลงทุนต่างชาติ นายพรชัยยอมรับว่า ขณะนี้ยังประเมินไม่ได้ แต่ที่แน่ ๆ คือ คนไทยที่ไปลงทุนในกัมพูชาก็มี เช่น การสื่อสาร และค้าปลีก ในส่วนนี้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องคงอยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์อยู่เช่นกัน
เมื่อถามว่า หากสถานการณ์ยืดเยื้ออาจกระทบต่อเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังหรือไม่ นายพรชัยกล่าวว่า “ขอให้ขึ้นอยู่กับนโยบายความมั่นคง ให้ความชัดเจนดีกว่า”
ทั้งนี้ สำหรับการประเมินจีดีพีรอบถัดไปที่จะจัดทำในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ จะนำปัจจัยความเสียหายและสถารณ์กะปะพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาเข้ารวมประเมินจีดีพีหรือไม่ นายพรชัยกล่าวว่า “ก็อยู่ที่ทางการประเมินสถานการณ์ปัจจุบันก่อน”
นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการเจรจาภาษีนำเข้ากับสหรัฐฯ ว่า สศค.อยู่ระหว่างประเมินความเป็นไปได้ในแต่ละกรณี โดยใช้วิธีจำลองสถานการณ์ (scenario analysis) ไว้ล่วงหน้า ไว้ในหลายกรณีไว้แล้ว
การประเมินกรณีเลวร้ายสุดก็ไม่ถึงกรณีเลวร้ายสุด ไม่ได้ตั้งไว้ที่อัตรา 36% เพราะเราได้มีการเจรจา และข้อเสนอทั้งฝ่าย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้ยังชี้ชัดไม่ได้ เพราะอยู่ที่การเจรจากันระหว่างทีมไทยแลนด์กับสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามคาดว่า ไทยจะได้ผลตอบรับภาษีที่ดี
ทั้งนี้ หลังจากไทยส่งข้อเสนอเพิ่มเติมไปยังสหรัฐฯ ตามที่ร้องขอมา ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการตอบกลับ คาดว่าจะทันเส้นตายวันที่ 1 สิงหาคม 2568
นายพรชัยยังย้ำว่า เศรษฐกิจไทยยังมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และมีความพร้อมในการรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมการรองรับไว้แล้ว เพื่อไม่ให้ประชาชนและภาคธุรกิจได้รับผลกระทบในวงกว้าง
เราไม่อยากให้พี่น้องประชาชนและภาคธุรกิจได้รับผลกระทบ ซึ่งเราพยายามไม่ปล่อยให้ผลกระทบลุกลามเป็นวงกว้าง


