posttoday

ส่งออก มิ.ย.โต 15.5% ดันครึ่งปีแรกโตพุ่ง 15% จับภาษีทรัมป์กระทบครึ่งปีหลัง

24 กรกฎาคม 2568

พาณิชย์ เผยส่งออกไทยมิ.ย.68 ขยายตัว 15.5% ดันครึ่งปีแรกโต 15% จากแรงเร่งนำเข้าสินค้าเพื่อสต๊อกก่อนที่มาตรการภาษีสหรัฐฯมีผลบังคับใช้ส.ค.นี้ ลุ้นทั้งปีเข้าเป้า 2-3% จับตาภาษีทรัมป์กระทบเป้าครึ่งปีหลัง

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนมิถุนายน 2568 มีมูลค่า 28,649.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 15.5% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 หากหักสินค้าที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย การส่งออกจะขยายตัว 15.6% ขณะที่การนำเข้าอยู่ที่ 27,588.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.1% ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้า 1,061.7 ล้านดอลลาร์

การส่งออกที่เติบโตมาจากหลายสาเหตุ โดยเฉพาะการชะลอการบังคับใช้ภาษีนำเข้าสหรัฐ ทำให้ผู้ซื้อเร่งนำเข้าสินค้าจากไทย รวมถึงความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน ซึ่งเติบโตตามภาคอุตสาหกรรมดิจิทัล และการฟื้นตัวของสินค้าเกษตร เช่น ผลไม้สด แช่แข็ง มันสำปะหลัง น้ำมันปาล์ม น้ำตาล ไก่แปรรูป และอาหารสัตว์เลี้ยง


กลุ่มสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัว 13.5% ต่อเนื่อง 2 เดือน โดยเฉพาะผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง ขยายตัวถึง 57% ขยายตัวในหลายตลาดสำคัญ เช่น จีน มาเลเซีย เวียดนาม เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น
 

สินค้าที่หดตัว ได้แก่ ข้าว (-41.1%) หดตัวต่อเนื่อง 8 เดือน และอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป (-1.5%) โดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯ และออสเตรเลีย

สินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัว 17.6% ต่อเนื่อง 15 เดือน โดยคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ ขยายตัวถึง 57.7% ส่วนผลิตภัณฑ์ยาง ขยายตัว 23.3% เติบโตดีในตลาดสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย และเกาหลีใต้

อย่างไรก็ตาม ยังมีสินค้าบางกลุ่มที่หดตัว เช่น รถยนต์และส่วนประกอบ (-15.9%) เคมีภัณฑ์ (-4.3%) และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านบางรายการ (-14.7%)


ขณะที่ภาพรวมการส่งออกของไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ขยายตัว 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีมูลค่า166,851 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 15% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 166,914 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 11.6% ดุลการค้า ขาดดุล 62.2 ล้านดอลลาร์

"มีปัจจัยหลักจากการที่ผู้นำเข้าสหรัฐเร่งสต๊อกสินค้าเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากมาตรการภาษีที่จะเริ่มบังคับใช้ในเดือนสิงหาคมนี้ ทำให้คาดว่าส่งออกในเดือนก.ค.นี้มีแนวโน้มชะลอตัวได้จากหลายปัจจัย อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเป้าหมายการส่งออกตลอดปีนี้ที่ 2-3% ยังมีแนวโน้มเป็นไปได้ โดยในครึ่งปีหลังต้องส่งออกเฉลี่ยเดือนละ 23,300-23,800 ล้านดอลลาร์"
 

สำหรับแนวโน้มครึ่งปีหลัง นายพูนพงษ์ ระบุว่า ยังต้องติดตามผลการเจรจาระหว่างไทยกับสหรัฐก่อนวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นบังคับใช้มาตรการภาษี หากผลการเจรจาเป็นไปในทิศทางบวก ไทยมีโอกาสได้รับอัตราภาษีที่เหมาะสม และสามารถแข่งขันได้ในระดับภูมิภาค

"ไทยได้ยื่นข้อเสนอใหม่ที่เปิดตลาดมากขึ้นให้กับ USTR ซึ่งได้รับสัญญาณตอบรับที่ดี โดยมองว่าเป็นโอกาสในการพัฒนาโครงสร้างการส่งออกไปสู่กลุ่มอุตสาหกรรมอนาคต และสร้างห่วงโซ่อุปทานในประเทศที่มีความยืดหยุ่นและแข่งขันได้มากขึ้น"

กระทรวงพาณิชย์ยังเตรียมมาตรการรองรับ ทั้งด้านธุรกิจและเกษตรกรรม หากผลกระทบจากภาษีมีความรุนแรง พร้อมประเมินว่า หากไทยถูกจัดเก็บภาษีในกรอบ 18-20% จากเดิม 36% จะยังสามารถแข่งขันได้โดยไม่กระทบภาพรวมมากนัก

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่ต้องจับตาในครึ่งปีหลัง เช่น ความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ผลไม้ฤดูกาล ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง การชะลอการลงทุน และการเปลี่ยนแปลงของแหล่งนำเข้าวัตถุดิบของผู้ส่งออก เพื่อให้สอดคล้องกับเงื่อนไขลดภาษี
 

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา