พิชัย มั่นใจสหรัฐพอใจข้อเสนอไทย หลังเพิ่มภาษีนำเข้า 0% อีกหลายรายการ

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯว่า ขณะนี้กระบวนการเจรจายังอยู่ระหว่างดำเนินการและต้องใช้เวลา เนื่องจากแต่ละประเทศมีขั้นตอนภายในที่ซับซ้อน โดยยืนยันว่า ไทยไม่ได้มีการยื่นข้อเสนอใหม่ เป็นเพียงการปรับปรุงข้อเสนอจากเดิมที่ส่งไปเพียงเล็กน้อย หลังจากที่ได้เจรจา และพูดคุยกับสหรัฐฯ 

ซึ่ง ข้อเสนอที่ส่งไปให้สหรัฐฯ ล่าสุดนั้น มีแนวทาง ไทยพยายามผลักดันให้เกิด “ความสมดุลทางการค้า” ให้เร็วขึ้นจากเดิม โดยจะเปิดทางให้มีเพิ่มการค้าขายระหว่างไทย และสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ ให้มากขึ้น 

การเจรจาไม่ได้เกิดขึ้นครั้งเดียวแล้วจบ มันไม่ใช่เรื่องที่คนเดียวตัดสินได้ ทุกประเทศต้องหารือภายใน ค่อยๆ ขยับไปทีละขั้น และยังมีอีกหลายประเทศยังไม่ได้รับคำตอบเยอะ ตอนผมเดินทางไปพบภาคเอกชนต่างประเทศ ก็เห็นชัดว่านักลงทุนรายใหญ่ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มเกษตรกรรมช่วยเราเต็มที่ เพราะเขาชอบเมืองไทย และความสนใจลงทุนในไทยอยู่มาก ขณะที่สหรัฐฯ ได้ชื่นชมเรา และก็มีข้อเสนอให้เราปรับปรุงอีกเล็กน้อย  จึงเป็นที่มาให้เราตองกรับมาปรับปรุงเรื่องการค้าที่สมดุล คือ เปิดทางให้มีการเพิ่มการค้าขายระหว่างกันมีมากขึ้น 

สำหรับ ข้อเสนอที่ไทยยื่นให้สหรัฐฯ ล่าสุด มีการลดอัตราภาษีสินค้าเป็น 0% เพิ่มขึ้นในหลายรายการ แต่ไม่ใช่ทุกรายการ โดยย้ำว่าไทยไม่ได้ให้สิทธิประโยชน์มากเกินจนได้เปรียบประเทศคู่ค้าอื่น และในกลุ่มสินค้าเกษตรก็มีการประเมินอย่างรอบคอบว่า รายการใดไทยสามารถยอมรับได้ หรือรายการใดที่ยอมรับไม่ได้ 

ส่วนจะมีการนำเรื่องการเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐมาพิจารณาด้วยหรือไม่นั้น นายพิชัย ตอบว่า "อย่าให้ผมลงรายละเอียด ซึ่งประเทศไทยอยู่ในโหมดที่เราเดินถูกทาง เมื่อเศรษฐกิจโลกเข้าที่ เศรษฐกิจไทยก็จะฟื้นได้ การนำเข้าก็จะเยอะ" 

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ข้อเสนอล่าสุดที่ยื่นไป มีความมั่นใจเพียงใดว่าจะช่วยให้สหรัฐฯ พิจารณาลดภาษีนำเข้าสินค้าจากไทย นายพิชัยตอบว่า “ผมคิดว่า ข้อเสนอที่ส่งไป ในมุมผม คิดว่าผลตอบรับน่าจะดี แต่จะได้อัตราภาษีต่ำกว่าเวียดนามหรือไม่ อย่าให้ผมตอบเลย”

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังถามว่า คาดว่าไทยจะได้รับจดหมายกลับจากฝั่งสหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลให้ถูกจัดเก็บภาษีนำเข้าเต็มอัตรา 36% ภายในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้หรือไม่ นายพิชัยกล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า“ขอให้รอดู”

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การเจรจาเรื่องภาษีกับสหรัฐฯ ไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะเรื่องการลดอัตราภาษีระหว่างกันเท่านั้น แต่ยังมีวิธีการอื่นที่เพิ่มเติมเข้ามา เช่น แนวทางที่จะทำให้ดุลการค้าระหว่างสองประเทศมีความสมดุลมากขึ้น ส่วนจะสามารถสมดุลได้เร็วขึ้นเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับวิธีการที่นำมาใช้ แต่เชื่อว่าข้อเสนอของไทยในเรื่องนี้ เป็นข้อเสนอที่ดีและน่าจะได้รับความสนใจจากสหรัฐฯ

ภาษีเป็นเรื่องที่ต้องทำอยู่แล้ว แต่อย่างที่บอกว่าภาษีก็ไม่ใช่ตัวยืนยันว่าการขาดดุลการค้าจะดีขึ้น ถ้าตราบใดที่เขายังนำเข้าจากเราเยอะ เขาก็ยังขาดดุลอยู่ดี แต่เรามีวิธีอื่นนอกเหนือจากการลดภาษี นั่นคือการทำให้การค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ สมดุลมากขึ้น เช่น เราอาจจะซื้อสินค้าหรือลงทุนกับสหรัฐฯ มากขึ้น ส่วนเรื่องภาษีถ้าลดไป ลดมา แต่เราไม่ได้ซื้อสินค้าจากเขามากขึ้นเลย ดุลการค้าก็เหมือนเดิม ดังนั้นจึงต้องมีหลายวิธีรวมกัน ทั้งการลดอุปสรรคทางการค้าในหลายมิติ ไม่ใช่การลดภาษีเพียงอย่างเดียว แต่เรื่องภาษียังคงเป็นเรื่องสำคัญและเป็นหัวข้อใหญ่ของการเจรจาในครั้งนี้

สำหรับกรณีที่สหรัฐฯ เตรียมเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 10% กับประเทศที่สนับสนุนนโยบายต่อต้านสหรัฐฯ ของกลุ่ม BRICS เบื้องต้นมองว่าอาจไม่ส่งผลกระทบโดยตรงกับไทย เนื่องจากไทยไม่ได้เป็นสมาชิกของกลุ่มดังกล่าว แต่เป็น “พาร์ทเนอร์” ซึ่งหากพิจารณาตามขอบเขตที่สหรัฐฯ ประกาศ คือจะจัดเก็บภาษีกับสมาชิกผู้ก่อตั้งในลักษณะหนึ่ง และกับสมาชิกสมทบอีกลักษณะหนึ่ง ส่วนข้อสรุปจะเป็นอย่างไร ยังไม่สามารถตอบได้ ต้องรอติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม