posttoday

สหภาพฯ NT ค้านประมูลคลื่นมือถือ วอนกสทช.ขอคลื่นฟรี หวั่นผูกขาด

23 มิถุนายน 2568

สหภาพฯ NT ยื่นหนังสือถึงสำนักงานกสทช. ยืนยันค้านประมูลคลื่นมือถือ 4 ย่านที่จะจัดขึ้น 29 มิ.ย. 68 นี้ หวั่นเอกชน 2 เจ้าผูกขาดตลาดมือถือ วอนกสทช.ขอคลื่นฟรี

สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ได้มายื่นหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ขอคัดค้านการจัดสรรคลื่นความถี่ ย่าน 850 MHz 1500  MHZ 2100  MHz และ 2300 MHz ด้วย วิธีการประมูลคลื่นความถี่ ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 29 มิถุนายน 2568

ตามที่สำนักงานกสทช. ขอคัดค้านการจัดสรรคลื่นความถี่ ย่าน 850 MHz ,1500 MHZ ,2100 MHz และ 2300 MHz ด้วย ในวันที่ 29 มิถุนายน 2568 โดยการออกประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่น ความถี่ ย่าน 850 MHz 1500  MHZ 2100  MHz และ 2300  MHz  และมีการลดราคาขั้นต้นของการประมูลคลื่นความถี่นั้น

สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ (สร.ทช.) ในฐานะองค์กรนิติบุคคลของ พนักงานรัฐวิสาหกิจ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ มีสิทธิหน้าที่ที่กำหนดในบทบัญญัติมาตรา 546 ) และ40 (4 ) แห่งพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ.2543 ให้สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจดำเนินการและให้ความร่วมมือเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และรักษาผลประโยชน์ของรัฐวิสาหกิจ และในฐานะหน่วยงานภาคประชาสังคมขอใช้สิทธิตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ให้บุคคลและชุมชนย่อมมีสิทธิใน มาตรา41 (2) เสนอเรื่องราวร้องทุกข์ต่อหน่วยงานของรัฐและได้รับแจ้งผลการ พิจารณาโดยรวดเร็ว และ ในมาตรา 41(3) ฟ้องหน่วยงานของรัฐให้รับผิด เนื่องจากการกระทำหรือการละเว้นการกระทำของข้าราชการ 

การขอคัดค้านการจัดการประมูลคลื่นความถี่ๆ ของ กสทช. ในครั้งนี้ ด้วยเหตุผล สำคัญคือ คลื่นความถี่เป็นทรัพยากรของชาติ ดังนั้น กสทช. จึงต้องกำกับดูแลการใช้ประโยชน์จากคลื่นความถี่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของนายทุนในธุรกิจ การจัดการประมูลคลืนในช่วงเวลาที่ผู้ประกอบการ ไม่ได้ขาดแคลนคลื่นความถีในการสร้างและให้บริการ สื่อสารไร้สายเคลื่อนที่ อาทิ บริการ 5G เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีการกำหนดราคาประมูลขั้นต่ำที่ค่อนข้างถูกกว่าการประมูลคลื่นในอดีต โดยไม่มีเงื่อนไขของการลดราคาค่าบริการสื่อสารไร้สายที่ชัดเจนให้กับประชาชนผู้ใช้บริการจะส่งเสริมการเอื้อประโยชน์ให้แก่นายทุนในธุรกิจมากกว่าการที่ประเทศชาติและประชาชนในชาติจะได้รับประโยชน์จากการประมูลในครั้งนี้

ในขณะนี้ธุรกิจสื่อสารไร้สายเคลื่อนที่จะเหลือผู้ให้บริการรายใหญ่เพียง 2 รายเท่านั้น เกรงว่าการประมูลครั้งนี้ไม่ได้ส่งเสริมตลาดที่มีการแข่งขันอย่างเสรีด้วยหลักการ Equality, Equity, และ Fairness (การแข่งขันที่เท่าเทียม เสมอภาค และเป็นธรรม) เพื่อที่ประเทศชาติและประชาชนจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากกลไกการแข่งขันเสรีที่จะทำให้เกิดคุณภาพของการให้บริการที่ดีและราคาที่เป็นธรรมต่อประชาชนผู้ใช้บริการในทางตรงกันข้าม

การประมูลครั้งนี้จะส่งเสริมตลาดผูกขาดกึ่งผูกขาดในธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม เพราะมีผู้ให้บริการน้อยรายในธุรกิจ สภาพตลาดผูกขาด/ตลาดกึ่งผูกขาดเช่นนี้ จะกินระยะเวลายาวนานถึง 15 ปี กว่าจะแก้ไขสภาพตลาดผูกขาด/กึ่งผูกขาดได้ ตามระยะเวลาการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 15 ปี

ลักษณะเช่นนี้จะเอื้อประโยชน์ให้นายทุนในธุรกิจประมูลคลื่นเพื่อกักตุนคลื่นความถี่ ปิดโอกาสให้ผู้ให้บริการรายใหม่รวมทั้งรัฐวิสาหกิจได้รับสิทธิในการใช้คลื่นความถีให้บริการแก่ประชาชน หากเงื่อนไขการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรมไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริง จะมีใครรับประกันได้ว่ากลไกลของตลาดแข่งขันเสรี จะทำให้เกิดการให้บริการที่มีคุณภาพและราคาค่าบริการที่เป็นธรรมแก่ประชาชนได้

แม้ว่าบริการสื่อสารโทรคมนาคมไม่ใช่บริการสาธารณูปโภค เฉกเช่น บริการน้ำ ไฟฟ้า ประปาเป็นต้น แต่โครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคมจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของบริการบรอดแบนด์ (Broadband) ที่รัฐส่งเสริมให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ ตามนโยบาย Thailand เพื่อส่งเสริมการพัฒนาประเทศ เพื่อก้าวเข้าสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 หรือการก้าวเข้าสู่สภาพเศรษฐกิจและสังคมแบบดิจิทัล (Digital Economy) เพื่อให้ประเทศไทยประสบความสำเร็จและก้าวขึ้นเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วตามนานาอารยะประเทศได้

ดังนั้น อย่ามองการให้บริการสื่อสารไร้สายเคลื่อนที่ เป็นเพียงธุรกิจการแข่งข้น แต่อยากให้มองการใช้โครงข่ายไร้สายเคลื่อนที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในการพัฒนาเชิงสังคมของประเทศ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงและใช้บริการสื่อสารไร้สายเคลื่อนที่ได้อย่างเท่าเทียมและเสมอภาค ลดช่องว่างดิจิทัล (Digital Divide) ซึ่งมิตินี้ เป็นการสร้างเครื่องมือให้กับรัฐบาลและประเทศชาติในการพัฒนาประเทศ ทั้งนี้จำเป็นต้องใช้รัฐวิสาหกิจ หรือ NT ในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลให้ประสบผลสำเร็จ นำพาประเทศชาติให้ก้าวผ่านเข้าสู่สังคมที่มีสภาพเศรษฐกิจและสังคมแบบดิจิทัล ได้อย่างสมบูรณ์

ด้วยเหตุผลดังที่กล่าวข้างต้นสหภาพฯจึงขอคัดค้านการจัดการประมูลคลื่นความถี่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่จะขอให้ กสทช. พิจารณาทางเลือก ด้วยการดำเนินการให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2563 ให้รัฐสนับสนุนคลื่นความถี่ที่เหมาะสมในการทำภารกิจให้ได้แนวทางดำเนินการที่ชัดเจนเหมาะสมและเป็นไปตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ให้แก่ NT ที่เกิดจากการนโยบายการควบรวมกิจการของรัฐวิสาหกิจ 2 แห่งคือ บมจ.ทีโอที และ บมจ.กสท โทรคมนาคม เข้าด้วยกันเพื่อเป็นรัฐวิสาหกิจหนึ่งเดียวในการขับเคลื่อนนโยบายด้านการสื่อสารและการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมดิจิทัลของประเทศ

โดยการสั่งให้ กสทช. ขยายระยะเวลาให้ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ ใช้คลื่นความถี่ ที่เคยจัดสรรให้กับ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ ใช้ในการประกอบกิจการสื่อสารโทรศัพท์มือถือ (ย่าน 850 MHz 2100  MHZ และ2300 MHz) ที่กำลังจะสิ้นสุดระยะเวลาการได้รับอนุญาต ให้ใช้งานต่อไปอีกโดยไม่ต้องนำคลื่นความถี่ไปประมูลคลื่นความถี่ใหม่

เพื่อที่ NT จะได้ใช้อุปกรณ์โครงข่ายได้อย่างต่อเนื่อง ต่อไป ไม่ต้องกลายเป็นชากอุปกรณ์ที่หมดมูลค่าการใช้งาน และในระยะยาวคือการพิจารณาแก้ไขกฎหมายเพื่อให้มีเกณฑ์ในการจัดสรรคลื่นความถี่ด้วยวิธีการอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อชาติและประชาชน เช่น การแข่งขันโดยวิธีการเสนอรูปแบบการทำธุรกิจ (Business Model) และการเสนอให้รัฐวิสาหกิจ นั่นคือ NT ได้รับคลื่นความถี่ไปใช้งานในการประกอบกิจการ เช่นเดียวกับที่หน่วยงานทหาร และหน่วยงานรัฐอื่นๆ ได้รับการจัดสรรคลื่นความถีไปใช้งานโดยไม่ต้องมีการผ่านการประมูลคลื่นความถี่ เพื่อส่งเสริมการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางด้านดิจิทัลให้กับหน่วยงานรัฐต่าง ๆ ใช้งาน การใช้งานในมิติของความ มั่นคงของประเทศ และการส่งเสริมธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมให้เป็นตลาดแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรมอย่างแท้จริง ที่ไม่ใช่การผูกขาดธุรกิจโดยผู้ประกอบการเพียง1-2 รายเท่านั้น

ข่าวล่าสุด

งานเข้า! EU สอบสวน Google ข้อหาผูกขาดเนื้อหาให้กับ AI ของบริษัท