Citi Research เผยพลังของ Entertainment Complex โอกาสทองของไทย

ในยุคที่ประเทศไทยกำลังมองหากลไกใหม่ ๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเสริมความแข็งแกร่งด้านการท่องเที่ยว “Entertainment Complex” หรือ “ศูนย์รวมความบันเทิงครบวงจร” กำลังกลายเป็นหนึ่งในแนวคิดที่ได้รับการจับตามองมากที่สุด ทั้งในมุมของนักลงทุน สื่อมวลชน และผู้กำหนดนโยบายของประเทศ

 

จากการประเมินของ Citi Research และประสบการณ์จากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก พบว่าการพัฒนา Entertainment Complex จะสร้างประโยชน์มหาศาลให้กับประเทศไทยในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศ การสร้างรายได้ภาษี การเพิ่มตำแหน่งงาน หรือแม้แต่การเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวคุณภาพจากทั่วโลก

โพสต์ทูเดย์ได้เรียบเรียงงานวิจัยดังกล่าวโดยสรุปดังนี้

 

ทำไมประเทศไทยควรลงทุนใน Entertainment Complex?

Citi Research  ประเมินว่า Entertainment Complex จะมอบประโยชน์หลากหลายด้านให้กับประเทศ ไม่ว่าจะเป็น

• ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI)
• สร้างรายได้ภาษีให้รัฐบาล
• เพิ่มโอกาสการจ้างงานทั้งทางตรงและทางอ้อม
• เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ
• ยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยสู่ความหลากหลายระดับโลก
• ดึงดูดนักท่องเที่ยวระดับพรีเมียมที่มีกำลังซื้อสูง
• แก้ปัญหาบ่อนเถื่อนอย่างเป็นระบบ
• เรียกเงินพนันที่ไหลออกนอกประเทศให้กลับมาสู่เศรษฐกิจไทย

 

มูลค่าการลงทุนมหาศาลจากนักลงทุนระดับโลก

ตามรายงานของ Citi Research พบว่าหากประเทศไทยเปิดให้มี Entertainment Complex 5 แห่งในหัวเมืองหลัก ได้แก่ กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต และเชียงใหม่ คาดว่าจะสามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ (FDI) รวมสูงถึง 18.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 690,000 ล้านบาท

• กรุงเทพฯ: 6 พันล้านดอลลาร์ (ถูกมองว่าเป็น "รางวัลใหญ่" ของนักลงทุน)
• พัทยา: 4 พันล้านดอลลาร์
• ภูเก็ต/เชียงใหม่: เมืองละ 1.4 พันล้านดอลลาร์

 

 

และหากมองเทียบกับต่างประเทศ จะพบว่าอุตสาหกรรมนี้มีศักยภาพอย่างแท้จริง:

• มาเก๊า: ได้รับเงินลงทุน FDI รวมกว่า 54 พันล้านเหรียญจากผู้ประกอบการระดับโลก เช่น Sands China, Wynn, MGM
• สิงคโปร์: Marina Bay Sands และ Resorts World Sentosa ใช้เงินลงทุนรวม 26.2 พันล้านเหรียญ
• ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้: โครงการ Integrated Resort ในโอซาก้าใช้งบประมาณกว่า 8.9 พันล้านเหรียญ
• ฟิลิปปินส์: เมืองมะนิลามีศูนย์บันเทิงขนาดใหญ่หลายแห่ง เช่น Okada Manila, City of Dreams

 

 

ภาษีมหาศาลจากธุรกิจบันเทิงอย่างถูกกฎหมาย

ภายใต้โมเดลของ Entertainment Complex ระบบภาษีสามารถออกแบบให้รัฐได้รับรายได้ที่แน่นอน

หนึ่งในข้อดีที่ชัดเจนที่สุดคือ “รายได้ภาษีจากกิจกรรมการเล่นเกม” โดยการเก็บภาษีอัตรา 17% จากรายได้รวมของกิจกรรมเกม (Gross Gaming Revenue) คาดว่าจะสร้างรายได้ต่อปีราว 1.55 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 57,000 ล้านบาท)

ซึ่งใกล้เคียงกับรายได้จากภาษีสรรพสามิตสุราของรัฐบาลไทยในปี 2566–67 ทั้งนี้โดย ใช้สมมติฐานจากรายได้รวมจากการพนัน 9.1 พันล้านดอลลาร์ต่อปี จากเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ 5 แห่ง

 

สร้างงานคุณภาพสูงนับหมื่นตำแหน่ง

Entertainment Complex จะสร้างงานโดยตรงทั้งในส่วนของโรงแรม คาสิโน ร้านอาหาร การจัดงานอีเวนต์ การตลาด ความปลอดภัย ฯลฯ โดยคาดว่าจะเกิดตำแหน่งงานใหม่โดยตรง 35,000–50,000 ตำแหน่ง และอีกนับหมื่นตำแหน่งทางอ้อม

ตัวอย่างจากต่างประเทศ:
Marina Bay Sands: พนักงาน 11,500 คน
Sands China (Macau): พนักงานกว่า 27,000 คน
Galaxy Entertainment: 21,100 คน

 

เพิ่มนักท่องเที่ยวทั่วโลกแบบก้าวกระโดด

กรณีตัวอย่างของสิงคโปร์ หลังเปิด Marina Bay Sands และ Resorts World Sentosa ในปี 2010 จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทันที +20% ภายในปีเดียว และในปี 2011 เพิ่มอีก 13%

ทำให้ระหว่างปี 2010–2019 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสม (CAGR) ที่ 7% ต่อปี และจำนวนนักท่องเที่ยวแตะ 19.1 ล้านคนในปี 2019

ทั้งนี้ Entertainment Complex ได้กลายเป็น "Must-Visit" สำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

 

ยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยสู่ความหลากหลาย

Entertainment Complex ไม่ใช่แค่คาสิโน แต่คือการรวมโรงแรมหรูระดับโลก ศูนย์ประชุม MICE ขนาดใหญ่ ร้านอาหารระดับมิชลิน แหล่งช้อปปิ้งไฮเอนด์ สนามกีฬาในร่มสำหรับคอนเสิร์ต/อีเวนต์ และพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับ Soft Power ไทย เช่น มวยไทย นวดไทย อาหารไทย วัฒนธรรมท้องถิ่น

 

ผลักดัน High-value Tourism นักท่องเที่ยวคุณภาพ

เอเชียกำลังก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจโลก (จาก 27% ของ GDP โลกในปี 2010 เป็น 40% ในปี 2030) ประเทศอย่างสิงคโปร์และฮ่องกงติด Top 10 ของโลกด้านจำนวนมหาเศรษฐี และ Marina Bay Sands คือตัวอย่างของความสำเร็จ

• ค่าห้องเฉลี่ย: 925 ดอลลาร์/คืน (ราว 33,000 บาท)
• อัตราเข้าพักเฉลี่ย: 95.6%
• รายได้จากร้านค้าในโครงการ: 2,845 ดอลลาร์/ตร.ฟุต
• รายได้สุทธิ (EBITDA) ไตรมาสล่าสุด: 605 ล้านดอลลาร์ – สูงสุดเป็นประวัติการณ์

 

จัดการปัญหาการพนันผิดกฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ

การมี Entertainment Complex อย่างถูกกฎหมายช่วยควบคุมปัญหาการพนันใต้ดิน:
กรณีเกาหลีใต้: รายได้จากคาสิโนถูกกฎหมาย 1.4 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ตลาดเถื่อนเพียง 74 ล้านดอลลาร์ (แค่ 5%) ทั้งนี้เป็นเพราะผู้เล่นชอบเล่นในระบบที่ปลอดภัย ถูกกฎหมาย เชื่อถือได้ และมีความครบวงจร

ดึงรายได้พนันจากต่างประเทศกลับไทย

ปัจจุบันมีชาวไทยจำนวนไม่น้อยเดินทางไปเล่นพนันในประเทศเพื่อนบ้าน ในกัมพูชา, ลาว, สิงคโปร์, มาเก๊า นั่นหมายถึง “รายได้ภาษีจากการพนัน” ที่ควรอยู่ในระบบเศรษฐกิจไทย กลับไหลไปต่างประเทศ การมี Entertainment Complex จะเป็น “เครื่องมือเรียกเงินกลับบ้าน” ที่ทรงพลัง

บทสรุป

การเปิดทางให้เกิด Entertainment Complex ในประเทศไทย ไม่ใช่เพียงการเปิดคาสิโน แต่คือโอกาสสร้าง “เศรษฐกิจสร้างสรรค์ระดับโลก” ที่ช่วยยกระดับคุณภาพนักท่องเที่ยว รายได้รัฐ คุณภาพชีวิตคนไทย และภาพลักษณ์ประเทศไทยในเวทีโลก ด้วยการบริหารจัดการที่โปร่งใส มีธรรมาภิบาล และใส่ใจผลกระทบต่อสังคม โครงการนี้อาจเป็นหนึ่งในก้าวสำคัญที่สุดของประเทศในศตวรรษที่ 21