“ติดดอย หรือ ตกรถ” ออมทองอย่างไรได้ผลตอบแทนดี-ปลอดภัยมิจฉาชีพ
ทองคำยุคใหม่ “ธีรรัฐ อินเตอร์โกลด์” ชี้ เทคนิคออมทองอย่างมั่งคั่ง ฝ่ากับดักมิจฉาชีพและความผันผวน แนะทองต่ำกว่า 50,000 บาท เหมาะลงทุนระยะยาว
นายธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด กล่าวในงานสัมมนา Thailand Investment Forum 2025 : Great Depression พลิกเกมฝ่าวิกฤติ จัดโดย กรุงเทพธุรกิจ ฐาน และโพสต์ทูเดย์ ในหัวข้อ “ ทองคำยุคใหม่ : ออมอย่างมั่งคั่ง ทันภัยไซเบอร์” ว่า การลงทุนทองผ่านแอปพลิเคชันซื้อขายทองกำลังเป็นที่นิยม ซึ่งต้องยอมรับว่า เป็นเหมือนดาบสองคม เพราะมีช่องโหว่ให้มิจฉาชีพเป็นช่องทางในการหลอกหลวงได้ ซึ่งการหลอกลวงส่วนใหญ่มี 2 รูปแบบคือ การลงทุนต่ำ ได้ผลตอบแทนสูง และการหลอกขายทองล้างสต็อกในราคาถูก ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ร้านทองมีกำไรจากการขายทองแค่ 0.02%
สิ่งที่นักลงทุนทองต้องรู้คือ การซื้อขายทองผ่านแอปพลิเคชันมี 2 รูปแบบ คือ ร้านทองเปิดเอง กับ ร้านทองจับมือกับเปิดกับธนาคาร ดังนั้นสิ่งที่นักลงทุนต้องรู้คือ กำลังซื้อขายทองกับร้านทองร้านไหน เพราะธนาคารจะไม่รับผิดชอบ ซึ่งนอกจากต้องตรวจสอบประวัติของร้านทองแล้ว นักลงทุนเองก็ต้องเลือกร้านทองที่สามารถเลือกรับทองได้ตลอดเวลี่ต้องการ ซึ่งเรื่องนี้ พบว่า มีนักลงทุนหลายคนไม่รู้ว่าสามารถรับทองมาเก็บได้ เพราะคิดเพียงแค่ว่า ฝากได้ และซื้อขายตามราคา ขึ้น ลง จึงเกิดปัญหาการถูกหลอก เพราะไม่มีทองจริง ดังนั้นการเก็บทองไว้กับตัวเองเป็นสิ่งที่ปลอดภัยที่สุด
นายธีรรัฐ กล่าวว่า สิ่งที่นักลงทุนต้องรู้อีกอย่างหนึ่ง คือ น้ำหนักทอง แม้แต่การซื้อทองที่ร้านค้าโดยตรง ผู้ซื้อก็ต้องชั่งน้ำหนักทองทุกครั้ง โดยทองคำแท่ง น้ำหนักจะอยู่ที่ 15.244 กรัม ขณะที่ทองคำรูปพรรณ น้ำหนักจะอยู่ที่ 15.16 กรัม
เมื่อถามว่า นักลงทุนต้องดูจังหวะในการเข้าซื้อทองช่วงไหนถึงจะดีที่สุด นายธีรรัฐ กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในการลงทุนทอง ต้องมีเงินเย็น และใจเย็น ไม่ควรมีความคิดไปกู้เงินกับการลงทุนทอง เพราะทองในระยะยาวขึ้นแน่นอน ดังนั้นแนวทางการลงทุนทองต้องคุ้นเคยกับคำว่า ติดดอย คือ ซื้อทองในราคาสูงเกินไป และ ตกรถ คือ ซื้อทองในช่วงเวลาราคาลงไม่ทันในการทำกำไร
วิธีการลงทุนเพื่อไม่ให้เกิดสิ่งนั้นเกิดขึ้น คือ การออมทอง แบบ DCA (Dollar-Cost Averaging) เป็นวิธีการสะสมทองคำในระยะยาว ด้วยวิธีการนี้ นักลงทุนจะทยอยซื้อทองคำในจำนวนเงินที่เท่ากันในแต่ละช่วงเวลา การซื้ออย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าราคาทองคำจะขึ้นหรือลง ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาและทำให้ได้ราคาทองคำเฉลี่ยในระยะยาว แม้จะไม่มีกำไรหวือหวา แต่ในระยะเวลา 5 ปี 10 ปี ได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นแน่นอน
เมื่อดูสถิติในช่วง 15 เดือนที่ผ่านมา พบว่า ราคาทองขึ้นมา 70% สำหรับนักลงทุน แน่นอนคือ ขาขึ้น แต่เมื่อขึ้นเยอะ ก็เหนื่อย เชื่อว่าน่าจะใกล้ถึงจุดพักฐาน ยกตัวอย่างการซื้อทองของธนาคารจีน ที่ซื้อทองทุกราคา ไม่สนใจเรื่องราคาขึ้นลงมาโดยตลอด เมื่อฟังข่าว อาจคิดว่า ราคาทองไม่น่าพักฐาน แต่เมื่อดูไส้ในแล้ว พบว่าปริมาณการซื้อของเขาน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ
ตราบใดที่ระบบเศรษฐกิจของโลกขึ้นอยู่กับภาวะเงินเฟ้อ เชื่อว่า การลงทุนทองในระยะยาวดีมาก เมื่อถึงเวลาพักฐานอาจลงมาจาก 52,000 บาท ถึง 15-20% ได้ ดังนั้นแนะนำว่าหากราคาทองลงมาต่ำกว่า 50,000 บาท ควรซื้อเก็บไว้


