บันเทิงไทยบูม คาดรายได้ปี’68 แตะ 6 แสนล้าน ฟอร์แมตขายแล้ว 20 ประเทศ
เจาะอนาคตอุตสาหกรรมบันเทิงไทยโตแรง คาดปี 2568 รายได้รวม 6 แสนล้านบาท รายการทีวี-หนัง ซีรี่ย์-เพลงลูกทุ่งบุก 4 ทวีป ฟอร์แมตขายแล้วเกือบ 20 ประเทศ
สถานการณ์ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันธุรกิจบันเทิงไทยเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งรายงาน Global Entertainment & Media (E&M) Outlook 2021-2025 ของ PwC ได้คาดการณ์รายได้รวมของกลุ่มอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิงของไทยในปี 2568 ว่าจะอยู่ที่ 601,936 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (2564 - 2568 Compound Annual Growth Rate: CAGR) ที่ 4.45% และยังคงนิยมไปยังประเทศต่าง ๆ
อาทิ ประเทศเวียดนาม ที่หันมาติดตามและชื่นชอบละคร รายการ และภาพยนตร์ไทยเป็นอย่างมาก เช่น ร้องข้ามกำแพง, บุพเพสันนิวาส, ฉลาดเกมส์โกง, สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก เป็นต้น
โดยรายการร้องข้ามกำแพงถูกซื้อลิขสิทธิ์ลงช่องอันดับหนึ่งในเวียดนาม กระแสตอบรับดีถล่มทลาย เป็นที่พูดถึงกันทั้งประเทศ
นอกจากนี้ ข้อมูลจาก กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ยังเปิดเผยว่า มีหลายประเทศทั่วโลกซื้อรายการไปแล้วเกือบ 20 ประเทศ ใน 4 ทวีป รวมเกือบ 50 รายการ ซึ่งเฉพาะการขายลิขสิทธิ์รูปแบบรายการ หรือ Format นั้น ไปได้ไกลทั้ง 4 ทวีป ทั้งยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และเอเชีย นับได้ว่าเป็นการสร้างสรรค์ผลงานที่โดนใจคนดู และสามารถนำรายได้เข้าประเทศไทยอย่างเห็นได้ชัด และอีกหนึ่งกระแสบันเทิง
ลูกทุ่งไทยโกอินเตอร์ ไปถึงบราซิล
ไม่เพียงแค่รายการทีวี เพลงลูกทุ่งไทยก็เริ่มโกอินเตอร์เช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อคลิปวิดีโอการแสดงสดของ "ลำไย ไหทองคำ" หรือ สุพรรณษา เวชกามา ในเพลง “ยายแล่ม” และ “เอิ้นอ้ายแน่เด้อยามเธอมีแฮง” กลายเป็นไวรัลในโลกโซเชียล ส่งแรงกระเพื่อมจากไทยข้ามทวีปไปถึงบราซิล
กระแสความนิยมถึงขั้นที่อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังในบราซิลออกมาทำคลิปแดนซ์โคฟเวอร์ แปลเพลง และพูดถึงโชว์ของลำไย โดยเปรียบเทียบกับศิลปินซูเปอร์สตาร์ในบ้านตนที่มีสไตล์การแสดงใกล้เคียงกัน กลายเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของซอฟต์พาวเวอร์ไทยที่เริ่มได้รับการยอมรับในระดับสากล
โอกาสของคอนเทนต์ไทยในตลาดต่างประเทศ
อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมบันเทิงไทยมีแนวโน้มที่จะเติบโตในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการเติบโต คือการขยายตัวของตลาดบันเทิงโลก การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้น และความนิยมในวัฒนธรรมไทยที่เพิ่มขึ้น โดย DITP ยังยกตัวอย่างโอกาสในแต่ละประเทศ ดังนี้
1.สหรัฐอเมริกา เริ่มเปิดกว้างหนังต่างชาติ
ผู้ชมในอเมริกาเริ่มเปิดใจรับคอนเทนต์จากเอเชียมากขึ้น ภาพยนตร์ต่างชาติได้รับความนิยมในวงกว้าง การเข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์ในสหรัฐฯ จึงเป็นช่องทางสำคัญในการสร้างการรับรู้ให้แก่หนังไทย ขณะเดียวกัน การฉายผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งก็ช่วยเปิดตลาดให้เข้าถึงผู้ชมกลุ่มใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.จีน ตลาดภาพยนตร์เด็กเติบโต
ตลาดภาพยนตร์เด็กในจีนเติบโตเร็วจากความต้องการของผู้ปกครองที่เพิ่มขึ้น ผู้สร้างไทยจึงควรมองหาโอกาสในการนำเสนอคอนเทนต์สำหรับเด็ก ที่สอดแทรกวัฒนธรรมไทยผ่านการเล่าเรื่อง ตัวละครที่มีเสน่ห์ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย
3.ญี่ปุ่น Boy Love มาแรง
ละครแนว Boy Love (BL) ของไทยได้รับความนิยมสูงในญี่ปุ่น เช่นเรื่อง เพราะเราคู่กัน การเจาะตลาดนี้ควรผสมผสานเสน่ห์เฉพาะของไทยเข้าไป เช่น วิถีชีวิต อาหาร และวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งอย่างเกาหลีใต้
4.เวียดนาม นิยมกระแสหนังไทยแนวครอบครัว สยองขวัญ BL
กระแสภาพยนตร์ไทยยังแข็งแรงในเวียดนาม เพราะความคล้ายคลึงทางวัฒนธรรมและความนิยมในนักแสดงไทย ถึงแม้หนังเกาหลีจะรุกตลาดด้วย CGV และการโปรโมต K-pop อย่างหนัก แต่ไทยยังแข็งแกร่งในเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัว หนังสยองขวัญ และแนว Boy Love (BL) รวมถึงบริการหลังการผลิต (post-production) ที่มีคุณภาพ
5.สิงคโปร์ โอกาสตลาดคอนเทนต์ไทย
ผู้ชมชาวสิงคโปร์นิยมรับชมคอนเทนต์ทั้งทางทีวีและออนไลน์อย่างต่อเนื่อง งานแสดงสินค้าด้านดิจิทัลคอนเทนต์ เช่น Asia TV Forum & Market (ATF) ถือเป็นเวทีสำคัญสำหรับการนำเสนอผลงานของไทยเพื่อขยายสู่ตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และต่อยอดไปทั่วโลก
ที่มาข้อมูล : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP)


