สภาผู้บริโภคเตือนดีล AIS ซื้อลูกค้า NT หวั่นผูกขาดตลาด

นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการนโยบาย สภาผู้บริโภค และอดีตกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า กระแสข่าว ดีล บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ซื้อฐานลูกค้าของ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT นั้น ไม่ควรเกิดขึ้น และขอเรียกร้องให้รัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าจะไม่สนับสนุนการครอบครองกิจการ (Takeover) ซึ่งเป็นการควบรวมธุรกิจในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ซ่อนอยู่ภายใต้การอ้างว่าเป็นเพียงการซื้อฐานลูกค้า 

พร้อมเรียกร้องให้กรรมการบริหารของ NT และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ออกมาชี้แจงและแสดงวิสัยทัศน์ต่อสาธารณะว่าจะยังคงให้ NT เป็นผู้เล่นในตลาดเพื่อความสมดุล และรักษาอธิปไตยของประเทศด้านการสื่อสารไว้

นางสาวสุภิญญา ระบุว่า การที่ NT กำลังจะถอยออกจากตลาดมือถือ ไม่ว่าจะด้วยการไม่ขยายฐานลูกค้า หรือไม่เข้าร่วมการประมูลคลื่นความถี่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ล้วนเป็นสัญญาณอันตรายของการล่มสลายของหน่วยงานรัฐในกิจการโทรคมนาคม ซึ่งส่งผลโดยตรงต่ออธิปไตยของประเทศในระยะยาว เพราะคลื่นความถี่ถือเป็นทรัพยากรสาธารณะที่ควรอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐเพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ซึ่งหากรัฐสูญเสียส่วนแบ่งในการครอบครองคลื่นสัญญาณมือถือ ปล่อยให้อยู่ในมือเอกชนเพียงสองรายที่มีลักษณะการผูกขาดอย่างสมบูรณ์แบบจะทำให้เสียสมดุลในธุรกิจโทรคมนาคมที่มีมูลค่าทางการตลาดหลายหมื่นล้าน และจะเกิดผลเสียหากประเทศตกอยู่ในภาวะวิกฤติ

แม้ว่า NT จะมีส่วนแบ่งทางการตลาดค่อนข้างน้อย และถูกมองว่าเป็นผู้เล่นรายเล็กในตลาดมือถือ แต่ยังคงมีประชาชนกลุ่มหนึ่งที่เลือกใช้บริการ NT เพื่อหลีกเลี่ยงการพึ่งพาบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความต้องการทางเลือกในตลาดยังคงมีอยู่จริง หาก NT ต้องหลุดจากสมรภูมินี้ ก็เท่ากับว่าประชาชนจะถูกบังคับให้เลือกใช้งานจากผู้ให้บริการค่ายมือถือเพียงสองราย คือ AIS และทรู (ที่ควบรวมดีแทคไปแล้ว) รวมถึงอินเทอร์เน็ตบ้านที่มีการควบรวมกันระหว่าง AIS และ 3BB ซึ่งเป็นสถานการณ์ผูกขาดอย่างสมบูรณ์

ความกังวลเพิ่มขึ้นเมื่อพบว่าในขณะที่การประมูลคลื่นความถี่รอบใหม่ ซึ่งคาดว่าจะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้กำลังใกล้เข้ามา แต่จนถึงขณะนี้คณะรัฐมนตรีก็ยังไม่ได้มีมติอนุมัติให้ NT เข้าร่วมประมูล

ขณะเดียวกันกรรมการบริหารของ NT ก็ยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนหรือประกาศแผนใด ๆ ว่าจะเข้าร่วมแข่งขันเพื่อรักษาคลื่นความถี่ไว้ ซึ่งหมายความว่าโอกาสที่ NT จะสามารถมีคลื่นของตัวเองในอนาคตก็จะยิ่งริบหรี่ลงไปอีก และเปิดทางให้กลุ่มทุนขนาดใหญ่เข้าสู่ตลาดแบบไร้คู่แข่ง

กรรมการนโยบาย สภาผู้บริโภค ยังตั้งข้อสังเกตว่า กติกาการประมูลที่อยู่ในกระบวนการจัดทำโดย กสทช.ขณะนี้ยังไม่มีหลักประกันที่ชัดเจนว่าจะเอื้อต่อการแข่งขัน หรือเปิดโอกาสให้ผู้เล่นรายใหม่หรือรายเล็กสามารถเข้าสู่ตลาดได้อย่างแท้จริง ทั้งยังไม่มีข้อกำหนดด้านการควบคุมราคาค่าบริการ หรือกลไกคุ้มครองผู้บริโภคอย่างรัดกุม หากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ การประมูลก็จะตกอยู่ในกำมือของทุนใหญ่ และผู้บริโภคก็จะไร้ทางเลือก โดยอำนาจต่อรองจะถูกผูกไว้กับสองรายใหญ่แทบทั้งหมด ดังนั้น จึงเห็นว่าดีลการซื้อฐานลูกค้า NT โดย AIS นั้น ไม่ควรเกิดขึ้น

ซีอีโอ NT เผย เปิดกว้างทุกราย

พ.อ.สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ NT ได้กล่าวกับผู้บริหาร พนักงานและลูกจ้างทุกท่านว่า

ตามที่มีข่าวเกี่ยวกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เชอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS เสนอความร่วมมือทางธุรกิจกับ NT ในกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่และกิจการบรอดแบนด์ โดยมีการอ้างถึงบันทึกเลขที่ AIS-STP001/2025 ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 นั้น

ฝ่ายบริหารขอเรียนชี้แจงให้ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง NT ทุกคน ทราบว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นเพียงข้อเสนอจากทาง AIS เท่านั้น ทั้งนี้ จะต้องมีการพิจารณาอย่างรอบด้านในทุกมิติเพื่อให้เกิดประโยชน์กับองค์กรอย่างสูงสุด 

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีข้อเสนอจากภาคเอกชนเข้ามาเพื่อเป็นพันธมิตรกับ NT จำนวนหลายรายที่จะร่วมกันให้บริการกับ NT ซึ่งจะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อร่วมกันพิจารณาสรรหาพันธมิตร

และในประเด็นที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างละเอียดรอบคอบ โดยให้ความสำคัญกับประโยชน์สูงสุดต่องค์กรและยึดมั่นพันธกิจในการให้บริการลูกค้าทุกรายด้วยมาตรฐานที่ดีที่สุดอย่างต่อเนื่อง

ฝ่ายบริหารขอให้พนักงานทุกท่านไม่ตื่นตระหนก หรือเกิดความกังวลใด ๆ และขอเน้นย้ำว่าพนักงานทุกคนยังคงมีบทบาทสำคัญ และเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนองค์กร โดยการดำเนินงานต่าง ๆ ของ NT และยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง 

ผมขอให้ทุกท่านเชื่อมั่น และปฏิบัติหน้าที่ของตนเองด้วยความตั้งใจอย่างเต็มศักยภาพและร่วมมือกันอย่างแข็งขันเพื่อสร้างความมั่นคงและการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับองค์กรของเราทุกคน ขอขอบคุณในความเข้าใจ ความมุ่งมั่นและความร่วมมือของทุกท่านด้วยดีเสมอมา

อยู่ระหว่างการศึกษา

ขณะที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า การเสนอซื้อฐานลูกค้ามือถือและลูกค้าบรอดแบนด์รายย่อยของเอกชนเป็นเรื่องทางธุรกิจที่เข้าใจได้ แต่ต้องเปิดกว้างรับข้อเสนอจากทุกราย เพื่อประโยชน์สูงสุดของ NT นอกจากนั้นการซื้อฐานลูกค้า ยังต้องรวมการรับผิดชอบต่อพนักงาน NT ที่ควรต้องถูกโอนย้ายไปด้วย

ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้และมีหลายปัจจัยต้องพิจารณา จึงยังจะไม่ได้ข้อสรุปในเร็ววันนี้ และเป็นเรื่องที่ต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการบอร์ด NT ด้วย ส่วนธุรกิจบรอดแบนด์นั้น ส่วนตัวมองว่าต้องดูผลประกอบการล่าสุดก่อน เพราะดูแล้วยังมีแนวโน้มที่ดีกว่า