posttoday

เทียบฟอร์ม พันธบัตร “G-Token” กับ “พันธบัตรรัฐบาลแบบเดิม”

14 พฤษภาคม 2568

ส่องความแตกต่างของ พันธบัตร “G-Token” กับ “พันธบัตรรัฐบาลแบบเดิม” น่าสนใจแค่ไหน หลัง ครม. ไฟเขียวออก 5 พันล้านบาท หวังเป็นเครื่องมือระดมทุนของรัฐบาลรูปแบบใหม่

ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ออก “G-Token” หรือ Government Token พันธบัตรสินทรัพย์ดิจิทัลรูปแบบใหม่ เครื่องมือการออมและลงทุนรูปแบบใหม่สำหรับประชาชนโดยตรง วงเงินทดลอง 5,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ภาครัฐใช้รูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัลในการระดมทุนจากประชาชนโดยตรง

โดยการออก G-Token ครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญ 2 ประการ คือ เพิ่มเครื่องมือระดมทุนของรัฐบาล และขยายโอกาสการเข้าถึงการลงทุนให้กับประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ที่มีเงินลงทุนน้อย ซึ่งที่ผ่านมาอาจไม่สามารถเข้าถึงตราสารหนี้ของรัฐ เช่น พันธบัตรรัฐบาล ได้อย่างทั่วถึง

ดังนั้น “โพสต์ทูเดย์” จึงรวบรวมข้อมูลความแตกต่างระหว่างพันธบัตรรัฐบาลในรูปแบบดิจิทัล “G-Token” กับ “พันธบัตรรัฐบาลแบบเดิม” ในเชิงของการรับประกัน การซื้อขาย การลงทุนขั้นต่ำ และการซื้อขายในตลาดรอง

G-Token (Government Token) คือ โทเคนดิจิทัลที่รัฐบาลไทยออกขึ้นเพื่อใช้เป็นเครื่องมือระดมทุนผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยมีลักษณะคล้ายกับพันธบัตรรัฐบาลในรูปแบบดิจิทัล 

ความแตกต่างระหว่าง G-Token กับพันธบัตรรัฐบาลแบบเดิม

G-Token

  • การรับประกัน: G-Token มีความปลอดภัยในการลงทุนเทียบเท่ากับการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล เนื่องจากเป็นการกู้เงินโดยกระทรวงการคลัง ซึ่งได้รับการค้ำประกันโดยรัฐบาลไทย 
  • การซื้อขาย: สามารถซื้อผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) 
  • การลงทุนขั้นต่ำ: เริ่มต้นเพียง 1 บาท เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงการลงทุนได้ง่ายขึ้น 
  • การซื้อขายในตลาดรอง: คาดว่าจะสามารถซื้อขายได้ในตลาดรองผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับนักลงทุน 

พันธบัตรรัฐบาลแบบเดิม

  • รูปแบบ: เอกสารหรือระบบไร้ใบหลักทรัพย์
  • การซื้อขาย: ผ่านธนาคารหรือตัวแทนจำหน่าย
  • การลงทุนขั้นต่ำ: ส่วนใหญ่เริ่มต้นที่ 1,000 บาท 
  • การซื้อขายในตลาดรอง: สามารถซื้อขายได้ในตลาดรอง

เทียบฟอร์ม พันธบัตร “G-Token” กับ “พันธบัตรรัฐบาลแบบเดิม”

G-Token อยู่ภายใต้กรอบกฎหมายสำคัญ 2 ฉบับ

  • พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548: เป็นกฎหมายที่ให้อำนาจกระทรวงการคลังในการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ
  • พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561: กำกับดูแลการออกและซื้อขายโทเคนดิจิทัล โดยสำนักงาน ก.ล.ต. จะเป็นผู้กำกับดูแลให้การดำเนินการเป็นไปตามกฎหมาย

ข้อควรระวังในการลงทุน

  • ความเข้าใจในสินทรัพย์ดิจิทัล: แม้ G-Token จะมีความปลอดภัย แต่ผู้ลงทุนควรมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลและการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล
  • ตลาดรอง: ในช่วงแรกอาจยังไม่มีตลาดรองที่ชัดเจน ซึ่งอาจส่งผลต่อความสามารถในการขาย G-Token ก่อนครบกำหนด
  • การจ่ายผลตอบแทน: วิธีการจ่ายผลตอบแทนอาจแตกต่างจากพันธบัตรแบบเดิม และอาจมีความซับซ้อนในการดำเนินการผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล

อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามความชัดเจนจากทางสำนักงาน ก.ล.ต. เกี่ยวกับรายละเอียดหลักเกณฑ์ และการประกาศจากกระทรวงการคลังและสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เกี่ยวกับการออกและจำหน่าย G-Token

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา