posttoday

รัฐบาลเคาะค่าไฟต่อถึงสิ้นปี (ก.ย.-ธ.ค. 68) 3.99 บาทต่อหน่วย

06 พฤษภาคม 2568

กพช.มีมติกำหนดเพดานอัตราค่าไฟงวดปลายปี (ก.ย.-ธ.ค. 68) ไม่เกิน 3.99 บาทต่อหน่วย โดยไม่ใช้งบประมาณแผ่นดิน เว้นแต่มีการเปลี่ยนแปลงราคาต้นทุนพลังงานอย่างมีนัยยะสำคัญ

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังร่วมประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 1/2568 ถึงการปรับลดอัตราค่าไฟฟ้า งวดเดือน ก.ย. ถึง ธ.ค. 2568 จาก 4.15 บาทต่อหน่วย เหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย โดยระบุว่า รัฐบาลมั่นใจจะดำเนินการให้อัตราค่าไฟฟ้าเป็นไปตามนี้จนถึงสิ้นปี เว้นแต่มีการเปลี่ยนแปลงราคาต้นทุนพลังงานอย่างมีนัยยะสำคัญ ทั้งนี้ จะไม่ใช้งบประมาณแผ่นดิน

ขณะที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค Pirapan Salirathavinhaga ว่า

ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 1/2568 มีมติให้กำหนดเพดานอัตราค่าไฟฟ้าไม่เกิน 3.99 บาทต่อหน่วย เว้นแต่กรณีมีการเปลี่ยนแปลงราคาเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น นายพูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยภายหลังประชุมบอร์ด กกพ. ว่า รอบที่แล้วที่สำนักงาน กกพ. ประกาศหลังรับฟังความเห็นค่าไฟและได้ประกาศไว้ที่ 4.15 บาทต่อหน่วยนั้น กกพ.ได้ทบทวนตัวเลขที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงแล้วจึงขอประกาศค่าไฟ เดือน พ.ค.-ส.ค. 2568 ที่ 3.98 บาทต่อหน่วย ถูกกว่าที่รัฐบาลตั้งไว้ที่ 3.99 บาทต่อหน่วย โดยควักเงิน Claw Back 1.2 พันล้านช่วยอุ้ม

เงินส่วนหนึ่งจากอัตราเรียกคืนในผลประโยชน์ส่วนเกิน  หรือ Claw Back คือเงินที่การไฟฟ้าฯ สำรองไว้ให้ กกพ.สำรองการลงทุน ซึ่งขณะนี้ Claw Back มีทั้งหมด 2 หมื่นล้านบาท รอบนี้นำมาใช้อุ้มต้นทุนค่าไฟประมาณ 12,200 ล้านบาท หรือราวๆ 17 สตางค์ เมื่อหักออกจาก 4.15 บาท จึงได้ค่าไฟที่ 3.98 บาท ส่วนเงินที่เหลืออีกประมาณ 7,800 ล้านบาท จะสำรองไว้สำหรับการดูแลค่าไฟฟ้าในระยะต่อไป

ข่าวล่าสุด

จ่อตั้ง 1 จังหวัด 1 คลินิก 'การแพทย์แม่นยำ' ถอดรหัสพันธุกรรมโรคมะเร็ง-โรคหายาก