posttoday

ศาลปกครองกลางยกฟ้องคดี EASTW ชี้กรมธนารักษ์ ยุติสัญญาโดยชอบ

04 เมษายน 2568

ศาลปกครองกลางยกฟ้อง EASTW ชี้รัฐยุติสัญญาท่อน้ำภาคตะวันออกโดยชอบด้วยกฎหมาย จับตาแนวโน้มคืนทรัพย์สิน หลังธนารักษ์เดินหน้าฟ้องแพ่ง

เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2568 ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษายกฟ้องในคดีที่บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EASTW เป็นผู้ฟ้องคดีต่อกรมธนารักษ์ อธิบดีกรมธนารักษ์ และปลัดกระทรวงการคลัง กรณีที่ภาครัฐเพิกถอนหนังสืออนุญาตให้ EASTW ใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณประโยชน์ เพื่อดำเนินโครงการท่อส่งน้ำดิบในภาคตะวันออก พร้อมทั้งให้ส่งคืนทรัพย์สินของโครงการ

 

คดีนี้มีต้นตอมาจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อปี 2536 ที่ให้ EASTW เข้าบริหารระบบท่อส่งน้ำหลักในพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก ตั้งแต่ 1 มกราคม 2537 ถึง 31 ธันวาคม 2566 ต่อมา EASTW ยื่นฟ้องว่าการที่คณะรัฐมนตรีมีมติเปลี่ยนแปลงแนวทางการดำเนินการ และให้กรมธนารักษ์เข้ามาบริหารจัดการทรัพย์สิน เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยอ้างอิงมติ ครม. ปี 2535 ที่เห็นชอบให้จัดตั้งบริษัท EASTW เป็นผู้รับผิดชอบรายเดียว

 

ศาลปกครองกลางวินิจฉัยว่า มติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวเป็นการใช้อำนาจทางปกครองในการกำหนดนโยบายตามกฎหมาย และการที่กรมธนารักษ์เข้ามามีบทบาทในฐานะคู่สัญญา เป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่ชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้งการที่ EASTW จดทะเบียนบริษัทและทำสัญญากับกรมธนารักษ์ ก็เป็นการกระทำภายใต้กรอบของกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ อันเป็นผลสืบเนื่องจากมติ ครม. ดังกล่าว
 

ศาลยังชี้ว่า การดำเนินการของรัฐเป็นไปตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 จึงพิพากษายืนตามศาลปกครองชั้นต้นให้ยกฟ้อง EASTW โดยระบุว่าผู้ถูกฟ้องคดีได้ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่อย่างถูกต้อง

 

แหล่งข่าวจากภาครัฐเปิดเผยว่า คำตัดสินนี้ตอกย้ำว่า EASTW ไม่ใช่ผู้บริหารจัดการระบบท่อส่งน้ำแต่เพียงรายเดียว ส่งผลให้มีแนวโน้มว่า EASTW จะต้องส่งคืนสินทรัพย์ที่ยังคงถือครองอยู่ให้กับกรมธนารักษ์

 

ขณะเดียวกัน กรมธนารักษ์ได้ดำเนินการทางกฎหมายเพิ่มเติม โดยได้ยื่นฟ้องคดีแพ่งต่อ EASTW เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 เรียกร้องให้ขับไล่ รื้อถอนทรัพย์สิน และชดใช้ค่าเสียหายรวม 127.76 ล้านบาท สืบเนื่องจากการที่ EASTW ยังไม่ส่งมอบพื้นที่ทับซ้อนกว่า 4 ไร่ ซึ่งพึงส่งคืนตั้งแต่ 5 ธันวาคม 2565 ตามข้อตกลงหลังจากที่รัฐได้คัดเลือกเอกชนรายใหม่คือ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ให้เข้ามาบริหารโครงการท่อส่งน้ำแทน

 

กรมธนารักษ์อ้างว่า ได้รับความเสียหายจากการไม่ได้รับค่าธรรมเนียมแรกเข้าทำสัญญา 870 ล้านบาท และส่วนแบ่งรายได้ปีแรก 440 ล้านบาท จึงเรียกค่าเสียหายคิดอัตรา 5% ของเงินต้น รวมเป็นมูลค่าดังกล่าว

 

ทั้งนี้ ต้องจับตาการดำเนินการในส่วนของการคืนทรัพย์สินที่เหลือ และความคืบหน้าในคดีแพ่งต่อไป

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด อาร์เซน่อล พบ คริสตัล พาเลซ คาราบาวคัพ วันนี้