"SMR" กับบทบาทพลังงานทางเลือกใหม่ ตอบโจทย์อนาคตอุตสาหกรรมไทย

ในยุคที่โลกกำลังเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด ประเทศไทยเองก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงกระแสนี้ได้ โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมที่มีการใช้ไฟฟ้ากว่าครึ่งหนึ่งของการใช้ไฟฟ้าทั้งประเทศ และแนวโน้มความต้องการจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมใหม่ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และแบตเตอรี่ รวมถึงโครงการดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ ซึ่งต้องการพลังงานมหาศาล

 

 

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวในเสวนาโต๊ะกลมหัวข้อ “SMR ทางเลือก หรือ ทางรอด GREEN ENERGY” วันที่ 18 มี.ค.2568 ที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯว่า บีโอไออนุมัติบัตรส่งเสริมการลงทุนโครงการดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ 3 แห่ง ซึ่งมีความต้องการใช้ไฟฟ้ารวมกันถึง 300 เมกะวัตต์

 

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมที่ต้องการพลังงานไฟฟ้าสูงยังรวมถึงเซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่ไทยกำลังดึงดูดการลงทุน

 

ทั้งนี้ ความต้องการพลังงานสะอาดที่สูงขึ้นนั้น ประเทศไทยเองก็มีแผนดึงดูดการลงทุนใหม่ โดยกระทรวงพลังงานเตรียมกลไกการจัดหาพลังงานสะอาด (Utility Green Tariff : UGT) การจัดทำ Direct PPA และการเปิดให้ซื้อไฟผ่านบุคคลที่สาม

 

อย่างไรก็ตาม พลังงานสะอาดดั้งเดิมอย่างโซลาร์และลมยังคงมีข้อจำกัดเรื่องความเสถียรและต้นทุนการจัดเก็บพลังงาน รวมถึงข้อจำกัดด้านพื้นที่การติดตั้ง โซลาร์ฟาร์ม ทำให้ SMR (Small Modular Reactor) หรือโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ขนาดเล็ก กลายเป็นทางเลือกที่น่าจับตามอง

 

SMR ทางรอดเพื่อความมั่นคงทางพลังงาน

SMR ได้รับการพิจารณาเป็นทางเลือกสำคัญ เพราะสามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง มีความเสถียรสูง และใช้พื้นที่ติดตั้งน้อยกว่าพลังงานหมุนเวียนประเภทอื่น ๆ ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมใหม่ รวมถึงช่วยลดการปล่อยคาร์บอน เพื่อนำประเทศไทยไปสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

 

“เรากำลังมองหาความเป็นไปได้ในการผสมผสานพลังงานสะอาดแบบดั้งเดิมเข้ากับ SMR เพื่อสร้างระบบพลังงานไฮบริดที่มีความเสถียรและยืดหยุ่นมากขึ้น” นายนฤตม์กล่าว พร้อมเน้นย้ำว่า การทำให้ SMR เกิดขึ้นได้จริง ต้องอาศัยการพัฒนาเทคโนโลยีในการจัดการกากกัมมันตรังสี รวมถึงการเตรียมบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อรองรับอุตสาหกรรมนี้

 

ตอบโจทย์การลงทุนใหม่ในอนาคต

นายนฤตม์ กล่าวต่อว่า บริษัทขนาดใหญ่ที่สนใจเข้ามาลงทุนในไทย ต่างให้ความสำคัญกับ 2 ประเด็นหลัก คือ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และความมั่นคงด้านพลังงานสะอาด ซึ่งประเทศไทยจำเป็นต้องมีไฟฟ้าที่เพียงพอและเป็นพลังงานสะอาดจริง ไม่ใช่แค่การซื้อใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (REC) แต่ต้องเป็นไฟฟ้าที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งผลิตได้

 

ด้วยแนวโน้มการลงทุนใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาใน 10 ปีข้างหน้า ความต้องการไฟฟ้าสะอาดอาจเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าจาก 10 ปีที่ผ่านมา SMR จึงเป็นกุญแจสำคัญในการเติมเต็มความต้องการพลังงานสะอาด ควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของไทย เพื่อดึงดูดการลงทุน และก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยุคใหม่ของภูมิภาค

 

SMR จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่ทางเลือก แต่กำลังก้าวขึ้นมาเป็น 'ทางรอด' ของการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดอย่างแท้จริง พลังงานที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต