posttoday

JCR คงอันดับความน่าเชื่อถือไทยที่ A มอง Outlook มีเสถียรภาพ

15 มีนาคม 2568

JCR คงอันดับความน่าเชื่อถือไทยที่ A มอง Outlook เสถียร คาดศก.เติบโต 2.5% ในปี 67 ภายใต้มาตรการกระตุ้น และการฟื้นตัวจากการท่องเที่ยว หนี้สาธารณะอยู่ในระดับที่ควบคุมได้

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น "Japan Credit Rating Agency, Ltd." (JCR) ได้ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ระดับ A พร้อมกับมุมมองความน่าเชื่อถือ (Outlook) ที่มีเสถียรภาพ หรือ Stable Outlook ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 2568 และในระยะยาว

 

นายพชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ได้เปิดเผยว่า การคงอันดับความน่าเชื่อถือของไทยในครั้งนี้สะท้อนถึงการบริหารจัดการหนี้สาธารณะที่มั่นคง แม้จะมีการขาดดุลทางการคลังที่ค่อนข้างสูงที่ 4.5% ในปี 2568 แต่รัฐบาลยังสามารถรักษาระดับฐานะการคลังให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ซึ่งทำให้ระดับหนี้สาธารณะต่อ GDP ยังคงอยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้ที่ 63.2%

 

JCR คาดว่า เศรษฐกิจไทยจะเติบโตที่อัตรา 2.5% ในปี 2567 โดยได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และการส่งออกสินค้า รวมถึงการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่กลับมาอย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้จะเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2568

 

ในส่วนของการลงทุนจากต่างประเทศ JCR มองว่า รัฐบาลไทยได้ดำเนินมาตรการสิทธิประโยชน์ทางภาษี เพื่อดึงดูดการลงทุนและส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่จะผลักดันประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางของห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมยานยนต์ ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้ว่าจะมีผลกระทบจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ แต่การพัฒนาเหล่านี้ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมเศรษฐกิจไทย

 

อีกหนึ่งปัจจัยที่ JCR มองคือความแข็งแกร่งของภาคการเงินต่างประเทศ (External Finance) และทุนสำรองระหว่างประเทศที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งช่วยให้ไทยสามารถรองรับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกได้อย่างมีเสถียรภาพ

 

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ JCR จะติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไปคือการเปลี่ยนแปลงของประชากร โดยเฉพาะการลดลงของอัตราการเกิดและการเพิ่มขึ้นของประชากรผู้สูงอายุ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว

 

การคงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยในครั้งนี้ ถือเป็นการยืนยันถึงการบริหารหนี้สาธารณะอย่างมีประสิทธิภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีทั้งในระดับประเทศและในสายตาของนักลงทุนต่างประเทศ

ข่าวล่าสุด

4 หน่วยงานลุย "สะพานสมุย" พ่วงน้ำ-ไฟ-เน็ต แก้ปัญหาระยะยาว