posttoday

สวนกระแสมัทฉะชาเขียว! TSUJIRI ต้นตำรับจากญี่ปุ่น ปิดทุกสาขา โบกมืออำลาไทย

11 มีนาคม 2568

ท่ามกลางกระแสมัทฉะมาแรง แต่ทำไม "TSUJIRI" ร้านต้นตำรับชาเขียวจากเมืองเกียวโต ญี่ปุ่น จึงตัดสินใจอำลาไทย ปิดทุกสาขาภายในสิ้นเดือนมีนาคม 2568 นี้

แม้ว่ากระแสดื่ม “มัทฉะ” จะได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่คนรักสุขภาพในช่วงนี้ จนทำให้บางร้านเกิดภาวะผงมัทฉะขาดสต๊อกไม่สามารถจำหน่ายได้ชั่วคราว เนื่องจากเป็นช่วงนอกฤดูใบชา และหลาย ๆ ร้านเริ่มขึ้นราคาเมนูมัทฉะ แต่ว่าท่ามกลางกระแสความนิยม ร้านชาเขียวชื่อดังอย่าง TSUJIRI (ซึจิริ) อิมพอร์ตแท้จากญี่ปุ่น กลับต้องประกาศปิดกิจการทุกสาขาในประเทศไทย เริ่มตั้งแต่ 31 มีนาคม 2568

 

สัญญาณการแข่งขันดุเดือดตลาดเครื่องดื่มชา?

 

การปิดตัวของ TSUJIRI อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดเครื่องดื่มชาของไทย แม้เทรนด์มัทฉะจะได้รับความนิยม แต่ตลาดก็เต็มไปด้วยผู้เล่นรายใหญ่ ทั้งแบรนด์ชาเขียวจากญี่ปุ่นและแบรนด์ชาไทยที่ปรับตัวนำเสนอเมนูมัทฉะหลากหลาย รวมถึงการต่อสู้ด้านการหั่นราคา 

 

ทั้งนี้การอยู่รอดในตลาดที่มีการแข่งขันสูง แต่ถึงแม้ธุรกิจคาเฟจะเป็นธุรกิจที่อยู่ในโซน Red Ocean หรือการแข่งขันสูง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า ความนิยมในการเปิดร้านชา-กาแฟจะลดลงไปแม้แต่น้อย ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการศึกษาปัจจัย ที่จะทำให้เราอยู่รอดในยุคนี้ ในขณะที่ฝั่งผู้บริโภคเอง มีความต้องการที่หลากหลาย แต่ก็เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้แบรนด์ต้องปรับตัวนำเสนอเมนูและรูปแบบร้านที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค

 

ตำนานชาเขียวแห่งเมืองเกียวโต

 

สำหรับร้าน TSUJIRI ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1860 ที่เมืองอุจิ จังหวัดเกียวโต ซึ่งเป็นแหล่งปลูกชาเขียวที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น แบรนด์นี้มีความเชี่ยวชาญด้านมัทฉะและผลิตภัณฑ์จากชาเขียวคุณภาพสูง โดยมุ่งเน้นการอนุรักษ์ศิลปะการทำชาแบบดั้งเดิมควบคู่ไปกับนวัตกรรมใหม่ ๆ โดย Riemon Tsuji ผู้มีชื่อเสียงในด้านจิตวิญญาณแห่ง “YUWA” ซึ่งหมายถึง การคิดค้นสร้างสรรค์และสืบสานประเพณี (continue to innovate and sustain the tradition) 


 

 

Tsuji ได้ปรับปรุงการเพาะปลูก Gyokuro (ชาเขียวญี่ปุ่นเกรดสูงสุด) และวิธีการของเขายังคงใช้มาจนถึงทุกวันนี้ นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้ประดิษฐ์กล่องชาที่ช่วยรักษาความสดและความคงทนของใบชาระหว่างการขนส่ง ทำให้ชาสดจากเกียวโตสามารถส่งไปยังเมืองอื่น ๆ ในญี่ปุ่นได้เมื่อหนึ่งศตวรรษก่อน

 

จุดเริ่มต้น TSUJIRI ในไทย

 

เกิดจากสองพี่น้อง เฉลิมพร-วริศรา ประภาพยืนยง ผู้ที่หลงใหลในรสชาติของชาเขียวมัทฉะ ที่ไปเยือนประเทศญี่ปุ่นครั้งใดก็ต้องไปต่อคิวเพื่อลิ้มรสชาเขียวแท้ต้นตำรับกันที่ร้าน TSUJIRI ทั้งคู่จึงเกิดไอเดียที่อยากจะนำชาเขียวแท้ต้นตำรับมาให้คนไทยได้ลิ้มลอง

 

จึงได้นำแบรนด์ TSUJIRI มาเปิดสาขาแรกที่ประเทศไทย บริเวณ ชั้น 7 Helix Quartier ศูนย์การค้า The EmQuartier ในปี 2559 ภายใต้บริษัท เฮลิกซ์ กรุ๊ป (Helix Group) ดำเนินธุรกิจค้าปลีกและการบริการอาหารและเครื่องดื่ม (F&B)

 

เฉลิมพร บอกว่า ก่อนจะเปิดร้าน TSUJIRI ที่ประเทศไทย ไม่ใช่แค่การซื้อแฟรนไชส์มา แต่ต้องไปศึกษางานถึงที่ต้นกำเนิด ดูแหล่งผลิตชาเขียว ขั้นตอนการปลูกและดูแล ดูกระบวนการผลิตชาที่พิถีพิถันอย่างแท้จริง จนถึงขั้นตอนการทำ

 

ส่วนการเปิดร้าน TSUJIRI ในไทย ทางญี่ปุ่นให้ความใส่ใจโดยยกทีมงานมาฝึกอบรมที่ประเทศไทย ควบคุมคุณภาพอย่างใกล้ชิด รวมถึงดูแลเรื่องการออกแบบตัวร้านให้เป็นไปตามคอนเซ็ปส์เดียวกับที่ญี่ปุ่น ขณะที่พนักงานในร้านจะผ่านการรับรองว่าทำได้ถูกต้องตามมาตรฐาน และมาตรวจสอบคุณภาพทุก 3 เดือน

 

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน TSUJIRI นอกจากมีสาขาอยู่ในญี่ปุ่น 3 สาขา ตามข้อมูลบนเว็บไซต์ ระบุว่ายังมีสาขาอยู่ในต่างประเทศ ทั้งแคนาดา, สหราชอาณาจักร, จีน, ไต้หวัน, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, นิวซีแลนด์ และประเทศไทย ซึ่งมีสาขา เซ็นทรัลเวิลด์ เป็นสาขาสุดท้ายในไทย

 

ข่าวล่าสุด

"ซีอีโอศุภชัย" นำซีพีอาสาหนุนอุปกรณ์แพทย์ 10 ล้าน ช่วยชายแดน