SIAM Songkran Music Festival ความหวังพาไทยสู่ศูนย์กลางเทศกาลดนตรีระดับโลก
วัน เอเชีย เวนเจอร์ส มองประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางของเทศกาลดนตรีขนาดใหญ่ที่ดึงผู้คนทั่วโลกเข้ามา พร้อมตั้งเป้าสร้างชื่อ “SIAM Songkran Music Festival” สู่เทศกาลดนตรีระดับโลก ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 100,000 คน ในงานสงกรานต์ปี 2568 นี้
แม้ว่ากรุงเทพฯ จะเป็นเมืองแห่งคอนเสิร์ต ในหนึ่งปีมีศิลปินมากหน้าหลายตาทั้งไทย และต่างประเทศเข้ามาจัดแทบจะทุก ๆ เดือน
แต่การที่จะสร้างเทศกาลดนตรีขนาดใหญ่ๆ เพื่อดึงคนจากทุกมุมโลกมาร่วมงานเหมือนอย่าง SummerFest, Coachella ในสหรัฐฯ เพื่อสร้างรายได้ภายในประเทศยังเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับประเทศไทย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความหวังเลย
SIAM Songkran Music Festival เป็นหนึ่งในเทศกาลดนตรีของไทยที่เริ่มจัดขึ้นในครั้งแรกเมื่อปี 2562 ที่ยกทัพ ศิลปิน ดีเจระดับโลก เข้ามาร่วมแสดงดนตรีไม่น้อยกว่า 20 ราย จุดเด่นของ SIAM Songkran คือนำศิลปะวัฒนธรรมของผืนแผ่นดินสยามผสมผสานเทคนิคดนตรีระดับโลก จนถือว่าประสบความสำเร็จไปด้วยดี
แม้ว่าช่วงโควิด-19 จะเป็นปีที่เหนื่อยล้า แต่เมื่อผ่านพ้นวิกฤตความคึกครื้นรื่นเริงของสงกรานต์กลับมา จึงเริ่มเปลี่ยน และขยับขยายสถานที่จัดงานในสเกลที่ค่อย ๆ ใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะในปี 2567 ที่ผ่านมา นับเป็นปีที่ประสบความสำเร็จสูง มีผู้เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 70,000 คน
นายรชต ธันยาวุฒิ ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารบริษัท วัน เอเชีย เวนเจอร์ส จำกัด ผู้จัดงาน SIAM Songkran Music Festival มองว่า ประเทศไทยเป็นเมืองแห่งการจัดงานคอนเสิร์ต อีเว้นต์ และเทศกาลต่าง ๆ มากขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะนโยบายซอฟต์พาวเวอร์
รวมถึงนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) ที่ผลักดันให้เทศกาลต่าง ๆ คึกคัก ที่ผ่านมาจะเห็นว่างานเทศกาลดนตรีต่างประเทศเข้ามาในไทยค่อนข้างเยอะ และส่วนใหญ่ก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จ
SIAM Songkran เกิดขึ้น โดยมีเอกลักษณ์เฉพาะประเทศไทย เพราะมีการผสมผสานวัฒนธรรมความเป็นไทยเข้าไปในงานทุกมิติ มองว่าเป็นงานที่ค่อนข้างแตกต่าง โจทย์ของการจัดงานนี้คือจะเอามาผสมความเป็นไทยอย่างไร ให้แตกต่างมากกว่าเดิม และให้เป็นที่ยอมรับระดับสากลได้
นั่นจึงเป็นที่มาที่ใช้คำว่า SIAM Songkran และนำเอาลายเส้นศิลปะ ลายกนกที่สะท้อนความเป็นไทย เข้ามาใส่ให้เป็นเอกลักษณ์ของงานเรา และชื่อนี้ได้จดลิขสิทธิ์เป็นที่เรียบร้อย
นายรชต กล่าวต่อว่า อีกทั้งช่วงสงกรานต์ เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะมาก หากย้อนดูที่ผ่านมามีต่างชาติเข้ามาเที่ยวในไทยราว ๆ 2 ล้านคนในช่วงนี้ การเลือกจัดเทศกาลดนตรีในช่วงสงกรานต์ถือว่าดี แม้ว่าสงกรานต์จะมีมานานแล้ว แต่ถ้าเราเพิ่มเรื่องของเทศกาลดนตรี ใส่ความเป็นอิเล็กทรอนิกส์เข้าไป ก็จะกลายเป็นจุดขายให้กับประเทศเรา และเป็นเทศกาลที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักเข้ามาได้มากที่สุด
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสนใจว่า ปีที่ผ่านมามีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเข้ามาร่วมงานจำนวนมาก คาดว่าชาวมาเลเซียมีกำลังซื้อสูง และเศรษฐกิจประเทศมาเลเซียกำลังดี
ปี’68 ทุ่ม 250 ล้าน ดึงศิลปิน DJ ระดับโลก-สร้างสรรค์โปรดักชัน
ในปีนี้ วัน เอเชีย เวนเจอร์ส เตรียมลงทุนครั้งใหญ่ในงาน SIAM Songkran Music Festival 2025 ด้วยงบประมาณกว่า 250 ล้านบาท โดยคาดหวังว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานราว ๆ100,000 คน เพิ่มขึ้นจาก 70,000 คนในปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งเพิ่มสัดส่วนผู้เข้าร่วมงานจากต่างประเทศประมาณ 50%
งานเทศกาลนี้จะผสานวัฒนธรรมไทยกับดนตรีสากลอย่างลงตัว สงกรานต์ครั้งนี้จะไม่ใช่การเล่นน้ำแบบเดิม ด้วยโปรดักชันระดับโลกและการใช้เทคโนโลยี Inflatable stage with LED screen integration ที่ทันสมัย เพื่อสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการดนตรีและลดการใช้วัสดุ ที่ย่อยสลายได้ ผลักดันการท่องเที่ยวของประเทศ
อีกไฮไลท์คือ การให้ศิลปินดีเจ B2B ซึ่งหมายถึงหมายถึง Back-to-Back หรือ ดีเจเล่นด้วยกันบนเวที พร้อมกับใช้โดรนแสดงแสงสีในงาน
“คาดว่าปีนี้ปริมาณผู้เข้าร่วมน่าจะถึง 100,000 คนแน่นอน เพราะจากสถิติที่ผ่านมา การจองบัตรเต็มรวดเร็ว
เช่นเดียวกับปีนี้ที่เปิดจำหน่ายบัตรช่วงแรกในระยะเวลา 3 วันที่เปิด บัตรหมดอย่างรวดเร็ว และตอนนี้กำลังเปิดจำหน่ายรอบที่ 3 และที่สำคัญงานนี้จัดขึ้นทั้งหมด 4 วัน พื้นที่รองรับผู้เข้าร่วมได้วันละไม่ต่ำกว่า 25,000 คน"
ด้วยโลเคชั่นปีนี้จัดที่ Bravo BKK Arena Area RCA, Bangkok เป็นสถานที่กลางเมือง ย่าน RCA พระราม 9 ถือเป็นศูนย์กลางที่มีผู้คนมาร่วมฉลองสงกรานต์มากอยู่แล้ว อีกทั้งยังสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า
มุ่งสู่การเป็น MUSIC FESTIVAL HUB ระดับโลก
นายรชต กล่าวอีกว่า ด้วยแผนธุรกิจและการลงทุนที่แข็งแกร่ง บริษัท วัน เอเชีย เวนเจอร์ส ยังคงมุ่งมั่นผลักดันวงการเอนเตอร์เทนเมนต์ ไลฟ์สไตล์ และการท่องเที่ยวของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน เป้าหมายคือการทำให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น MUSIC FESTIVAL HUB ระดับโลก ดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้รักดนตรีจากทุกมุมโลก ไทยมีศักยภาพ เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านที่เคยเป็นผู้นำมาก่อน อย่างเกาหลี ญี่ปุ่น
เพราะประเทศไทยตั้งอยู่ใจกลางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้เดินทางสะดวกจากหลายประเทศ ทั้งจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และกลุ่มประเทศอาเซียน โครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม สนามบินนานาชาติและระบบขนส่งมวลชนที่ครอบคลุม เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมระดับโลก มีภาพลักษณ์ที่ดีในด้านวัฒนธรรม อาหาร และการบริการ มีชื่อเสียงด้านเทศกาลประเพณี เช่น สงกรานต์ ลอยกระทง ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติจากทั่วโลกได้มาก
การเติบโตของอุตสาหกรรมบันเทิงและดนตรีอย่างรวดเร็ว มีศักยภาพในการดึงดูดศิลปินระดับโลกและกลุ่มแฟนคลับจากประเทศเพื่อนบ้าน และรัฐบาลไทยสนับสนุนการจัดงานอีเวนต์และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งกลไกลสำคัญในการเสริมศักยภาพไทยสู่การเป็นศูนย์กลางเทศกาลดนตรีระดับโลก


