posttoday

มาดามแป้ง ชี้ซอฟต์พาวเวอร์ของไทย คือ “คน” รัฐบาลชุดนี้มาถูกทางแล้ว

04 กุมภาพันธ์ 2568

มาดามแป้ง ชี้ซอฟต์พาวเวอร์ของไทย คือ “คน” รัฐบาลชุดนี้มาถูกทางแล้ว เพียงแต่ต้องรวมพลังเม็ดเงินให้ถูกที่ถูกจุด พัฒนาคนคุณภาพ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ เพราะอีกไม่กี่ปีจะหมดยุคของคนเบบี้บูมเมอร์

นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เมืองไทยประกันภัย กล่าวในงาน Chula Thailand Presidents Summit 2025 หัวข้อ Future Thailand: Soft Power ว่า ซอฟต์พาวเวอร์เป็นประเด็นที่รัฐบาลชุดนี้ให้ความสำคัญมาก หากย้อนดูเส้นทางอาชีพของตนเองแล้ว ในช่วงที่เรียนจบได้เริ่มต้นอาชีพโฆษณาด้วยการเป็น AE ซึ่งเป็นอาชีพยอดฮิตในปี 2532 

หลังจากนั้นก็มีความคิดอยากจะทำธุรกิจที่แยกมาจากธุรกิจที่ต้นตระกูล คือประกันชีวิต ประกันวินาศภัย และธนาคาร ตอนนั้นอยากนำเข้าแฟชั่นจากต่างประเทศ เนื่องจากสมัยก่อนคนไทยต้องไปช็อปปิ้งที่ฮ่องกง หรือสิงคโปร์เท่านั้นเลยรู้สึกว่าทำไมเราถึงไม่นำเอาสินค้าเหล่านี้มาขายในประเทศไทย จึงเริ่มต้นทำแบรนด์แรกคือ Celine (เซลีน) ในปี 2535 ก่อนจะเขียนจดหมายไปขอทำแบรนด์ Hermès (แอร์เมส) ในภายหลัง จนเป็นหุ้นส่วน Hermès ถึงทุกวันนี้เกือบ 30 ปี 

หากเปิดดูหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของฝรั่งเศสแบบเรียลไทม์ ณ ขณะนี้ จะเห็นได้ว่า หุ้น LVMH คือหุ้นเบอร์ 1 ของตลาดหลักทรัพย์ฝรั่งเศส ที่มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market Capitalization) อยู่ที่ 12 ล้านล้านบาทไทย อันดับ 2 คือ Hermès (แอร์เมส) มีมูลค่า 9 ล้านล้านบาท อันดับ 3 เป็นเครื่องสำอางค์ Loreal (ลอรีอัล) 

ซึ่งทำให้เห็นว่าสิ่งที่ฝรั่งเศสทำคือเปล่งประกายซอฟต์พาวเวอร์ของเขาในรูปแบบของแฟชันดีไซน์ ที่เขาทำและต่อยอดหรือบูรณาการไปถึงเศรษฐกิจได้ และสิ่งที่เห็นอีกอย่างคือ เขาให้ความสำคัญกับการทำ R&D มาก ทำให้ซอฟต์พาวเวอร์ของเขามีความมั่นคงในประเทศ 
 

สำหรับด้านกีฬาก็เป็นส่วนหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์เช่นกัน ซึ่งอยู่ในชีวิตของตนเองมาร่วม 19 ปีแล้ว ไม่นานมานี้มีโอกาสได้เดินทางไปดูฟุตบอลที่กาตาร์ ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2022 เนื่องจากการ์ตาเป็นประเทศเล็กมาก มีประชากรเพียง 3 แสนคน แต่มีประชากรจากที่อื่นๆ เข้าไปทำงาน ราวๆ 2 ล้านคน กาตาร์ใช้ 9 สนามในการจัดฟุตบอลโลก ถ่ายทอดไปยังทั่วโลกผ่านหลายแพตฟอร์ม  สามารถสร้างรายได้ให้เขา ไม่เท่านั้นยังเป็นการโปรโมตประเทศไปในตัวอีกด้วย 

ซอฟต์พาวเวอร์ของไทยคือ "คน" 

นวลพรรณกล่าวต่อว่า ประเทศไทยมีอาวุธที่สำคัญที่สุดที่เป็นซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศคือ “คนไทย” หากถามนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวประเทศไทย เขามักจะตอบว่ามาเที่ยวประเทศไทยเพราะว่าคนไทยใจดี ยิ้มแย้ม มี Service mind เหล่านี้อยู่ในดีเอ็นเอของคนไทย ไม่เช่นนั้นปีที่แล้วกรุงเทพมหานคร คงไม่เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับหนึ่ง 

“วันนี้ดีใจที่รัฐบาลชูคำว่าซอฟต์พาวเวอร์ แต่ซอฟต์พาวเวอร์จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่มีองค์กร ภาครัฐ ภาคเอกชน มาช่วยเสริมสร้างให้คนที่มีซอฟต์พาวเวอร์ไปต่อได้ดี พัฒนาต้องมาจากคนในประเทศ นอกจากจำนวนคนแล้ว ต้องมาจากคุณภาพของคนด้วยต้องใช้คำว่าสมาร์ทพาวเวอร์ คือซอฟต์บวกกับกำลังของภาครัฐ หรือเม็ดเงินที่ลงถูกจุด ถูกเวลา”

วันนี้จำนวนคนลดลงอย่างน่าใจหายโดยเฉพาะในประเทศไทย มีการเกิดน้อยกว่าการตาย และอีกไม่กี่ปีจะหมดยุคการทำงานของคนเบบี้บูมเมอร์ คนเป็นประเด็นสำคัญ และคนไทยมีซอฟต์พาวเวอร์อยู่ในตัว ดังนั้นซอฟต์พาวเวอร์ต้องทำร่วมกับการพัฒนาคน ยิ่งในช่วงที่เด็กเกิดน้อย และมีสภาพจิดตใจบอบบาง

“ความท้าทายของการทำซอฟต์พาวเวอร์คือ ต้องเชื่อมโยงทุกภาคส่วน ตั้งแต่เล็กสุดถึงใหญ่สุด ทำอย่างไร เมื่อวันนี้มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติขึ้นมาแล้ว ให้คณะกรรมการนี้อยู่ไปเรื่อย ๆ ทำตามแผนไปเรื่อย ๆ เมื่อมีการเลือกตั้งใหม่หรือเปลี่ยนรัฐบาล แผนยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ที่ถูกคิดร่วมกันของหลายฝ่ายยังดำเนินการไปได้ต่อไป ตั้งหลักแล้วต้องยิงยาว จะต้องเดินต่อไปอย่างยั่งยืน วันนี้รัฐบาลน่าจะมาถูกทางแล้ว แต่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง”

ข่าวล่าสุด

EA เปิดงบไตรมาส 3/68 พลิกกำไร 263 ล้าน ก้าวสู่ช่วงเติบโตในปี 69