คลัง ชี้หุ้นไทยตกเป็นผลกระทบระยะสั้น มั่นใจพื้นฐานเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้เร่งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์ ในการเตรียมมาตรการรับมือกับผลกระทบจากการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก แคนาดา และจีน หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่ง โดยคาดว่าจะมีการประกาศมาตรการอย่างเป็นทางการในภายหลังเมื่อสถานการณ์ชัดเจนขึ้น 

นายเผ่าภูมิกล่าวว่า ปีนี้เศรษฐกิจไทยมีความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอกประเทศ แต่เชื่อว่าไม่ใช่ความเสี่ยงทั้งหมด และบางความไม่แน่นอนอาจสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับประเทศ กระทรวงการคลังจึงได้ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ในการเตรียมแผนรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ในส่วนของความผันผวนในตลาดหุ้นไทย โดยช่วงเช้าวันนี้(3ก.พ.67) ดัชชีหุ้นไทยปรับตัวลดลงอย่างหนักนั้น เป็นการแปรผันของราคาหุ้นในระยะสั้นไม่ได้สะท้อนถึงความไม่มั่นใจในนโยบายของรัฐบาล อยากให้มองในทิศทางระยะยาวมมากกว่าในที่สุดแล้วราคาหุ้นก็ปรับเข้าสู้พื้นฐาน ซึ่งมั่นใจว่าเศรษฐกิจขยายอยู่ในเกณฑ์ดี 
 

ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงมามาก มองว่าเป็นสะท้อนปัจจัยระยะสั้น มันไม่ได้สะท้อนอะไร แต่เวลาที่นักเศรษฐศาสตร์เขามองแผนการบริหารเขาจะพิจารณาระยะยาวในการดำเนินนโนยบายรัฐบาลผ่านมาตรการต่างๆของรัฐ โดยดูที่พื้นฐานเศรษฐกิจประเทศ ส่วนเรายังมองพื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่ดี ความไม่แน่นอนทางภูมิศาสตร์เราก็ต้องเตรียมรับมือด้วย

รัฐบาลยังคงมุ่งมั่นรักษาโมเมนตัมการเติบโตของเศรษฐกิจในปีนี้ โดยใช้มาตรการการคลังกระจายเม็ดเงินกว่า 1.4 แสนล้านบาทในช่วงปลายปีที่ผ่านมา และจะดำเนินมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง เช่น มาตรการลดหย่อนภาษี Easy E-Receipt และโครงการเงินหมื่นกระตุ้นเศรษฐกิจสำหรับผู้สูงอายุ รวมทั้งมาตรการอื่นๆ ที่จะช่วยกระจายเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในระยะต่อไป

นายเผ่าภูมิยังกล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญกับการสนับสนุนภาคการผลิตมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของสินเชื่อและการเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ ผ่านกลไกของธนาคารรัฐ รวมทั้งกระตุ้นให้ธนาคารพาณิชย์กระจายสินเชื่อให้กับประชาชนได้มากขึ้น

ในด้านการแก้ปัญหาการปฏิเสธสินเชื่อรถยนต์ โดยเฉพาะรถกระบะ ซึ่งพบว่าอัตราการปฏิเสธสินเชื่อสูงถึง 70% นายเผ่าภูมิกล่าวว่า กระทรวงการคลังกำลังหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อหามาตรการชดเชยภาระดังกล่าวในการปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มผู้กู้ที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปได้เร็วๆนี้ และพร้อมออกหลายมาตรการอย่างต่อเนื่อง

สำหรับปัญหาค่าเงินบาทอ่อนค่า นายเผ่าภูมิกล่าวว่า อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลค่าเงินให้ไม่ผันผวนเกินไป เพื่อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับการค้าและการแข่งขันในตลาดโลก พร้อมทั้งเรียกร้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทยพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน เพื่อให้ภาคส่งออกแข่งขันได้ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจไทยในปีนี้