posttoday

สัมภาษณ์พิเศษ : “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” กับตำแหน่งรองนายกฯ-รมว.ดีอี สมัยที่ 2

11 กันยายน 2567

“ประเสริฐ จันทรรวงทอง” รองนายกฯ และ รมว.ดีอี สมัยที่ 2 เปิดใจ 5 สิ่งสานต่อนโยบาย พร้อมผลงานภูมิใจหลังนั่งในตำแหน่งรมว.ดีอี 1 ปีที่ผ่านมา ทั้งการปราบอาชกรรมออนไลน์ นโยบายคลาวด์ เฟิร์ส และการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ

1 ใน รัฐมนตรี ที่ได้ไปต่อในกระทรวงเดิม แถมพ่วงเพิ่มในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี  คือ “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ซึ่งแแม้ว่าในขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของนโยบายได้ เนื่องจากต้องรอให้นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อสภาฯก่อนนั้น แต่เขาก็พร้อมจะเปิดใจถึงสิ่งที่ต้องการสานนโยบายต่อใน 5 เรื่องที่สำคัญประกอบด้วย

1.การแก้ปัญหาภัยออนไลน์ โดยเฉพาะเรื่องแก๊ง คอลเซ็นเตอร์ และการปราบพนันออนไลน์ 

2.การขับเคลื่อนนโยบายคลาวด์ เฟิร์ส ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำระเบียบวิธีการผ่านการจัดตั้งคณะอนุกรรมการ 3 คณะ ประกอบด้วย อนุกรรมการด้านซัพพลาย,อนุกรรมการด้านดีมานด์ และอนุกรรมการระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง การกำหนดมาตรฐาน และราคากลาง

สัมภาษณ์พิเศษ : “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” กับตำแหน่งรองนายกฯ-รมว.ดีอี สมัยที่ 2 ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดีอี

3. การช่วยเหลือ SME ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแข่งขันของแพลตฟอร์มต่างชาติ ซึ่งวันที่ 3 ต.ค. 2567 ประกาศ ให้ธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าโดยเรียกเก็บเงินปลายทางเป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงิน พ.ศ.2567 เพื่อแก้ไขปัญหาการซื้อขายสินค้าหรือบริการออนไลน์แบบใช้บริการเก็บเงินปลายทาง (COD) ตามที่คณะกรรมการว่าด้วยสัญญาภายใต้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ที่มีมติเห็นชอบ และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เดือน ก.ค.67 ที่ผ่านมา จะมีผลบังคับใช้

สำหรับกฎหมายฉบับนี้ ผู้ประกอบธุรกิจบริการขนส่งสินค้าต้องระบุรายละเอียดสำคัญของผู้ส่งสินค้าและผู้ประกอบการ รวมถึงชื่อ-นามสกุลของผู้รับเงิน พร้อมกับหมายเลขติดตามพัสดุ โดยข้อบังคับนี้กำหนดให้ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าต้องเก็บเงินค่าสินค้าไว้เป็นระยะเวลา 5 วัน ก่อนจะนำส่งเงินให้กับผู้ขาย เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคมีเวลาเพียงพอในการแจ้งขอคืนสินค้าและขอเงินคืนในกรณีที่พบปัญหาจากการสั่งซื้อ 

นอกจากนี้ กฎหมายยังให้สิทธิผู้บริโภคในการเปิดดูสินค้าก่อนที่จะทำการชำระเงิน หากตรวจสอบแล้วพบว่า สินค้าไม่ตรงตามที่สั่ง หรือมีปัญหาทางด้านคุณภาพ ผู้บริโภคสามารถปฏิเสธการชำระเงินและปฏิเสธการรับสินค้าได้ทันที

สัมภาษณ์พิเศษ : “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” กับตำแหน่งรองนายกฯ-รมว.ดีอี สมัยที่ 2 ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดีอี

4.การขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อสร้างโอกาสและรายได้ และ 5.การพัฒนากำลังคนดิจิทัล

เขาเล่าว่า กระแสข่าวการแบ่งกระทรวงรับผิดชอบในฐานะรองนายกฯตามที่เป็นข่าว คือ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นั้น ยังไม่ได้ข้อสรุป และยังไม่มีการแบ่งงานกันอย่างชัดเจน คงต้องรอหลังการแถลงนโยบายต่อสภาฯของนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการให้แล้วเสร็จก่อน

1 ปี ที่ผ่านมา ผลงานที่ภูมิใจมากที่สุด คือ การเปิดศูนย์ AOC 1441 เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมา ทำให้มีเรื่องร้องเรียนลดลง จากเดิมวันละ 100 สาย เหลือไม่ถึงวันละ 100 สาย ขณะที่มูลค่าความเสียหายลดลงไม่ถึง 50 ล้านบาทต่อวัน ส่งผลให้คดีลดลงตามลำดับด้วย

นอกจากนี้การขับเคลื่อนเรื่องนโยบายคลาวด์ เฟิร์ส ก็มีความคืบหน้าตามลำดับดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น โครงการสนับสนุนให้กลุ่มเกษตรกรเข้าถึงการใช้งานโดรน ในโครงการชุมชนโดรนใจ รวมถึงการพัฒนากำลังคนดิจิทัล ให้กลุ่มคนสามารถเข้าถึงหลักสูตรในการพัฒนาทักษะดิจิทัลแบบเร่งรัดภายใน 2-3 เดือน จากนั้นกระทรวงจะมีระบบในการจับคู่หางานให้กับพันธมิตรที่ทำงานร่วมกัน ขณะเดียวกันก็จับมือกับพันธมิตร ทั้งไมโครซอฟท์ หัวเว่ย ในการพัฒนากำลังคนตามเป้าหมาย รวมถึงการสอนโค้ดดิ้งให้กับครู และนักเรียน 

สัมภาษณ์พิเศษ : “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” กับตำแหน่งรองนายกฯ-รมว.ดีอี สมัยที่ 2 ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดีอี

ขณะเดียวกัน กระทรวงยังมีบทบาทในการยกระดับรัฐบาลสู่รัฐบาลดิจิทัล ลดการใช้กระดาษ มีการสร้างคนเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อให้หน่วยงานราชการใช้ฟรี เช่น โปรแกรมการใช้งานทดแทน Adobe 

รมว.ดีอี เล่าต่ออีกกว่า อีกสิ่งที่เป็นผลงานที่ภูมิใจก็คือ การเอาจริงเอาจังเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ผ่าน สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ สคส. จากการสุ่มตรวจหน่วยงานแต่ก่อนพบข้อมูลรั่ว 30% แต่ปัจจุบันสัดส่วนเหลือเพียง 1.5 % ซึ่งกระทรวงดีอีมีการปรับเงินเอกชนที่ละเลยและปล่อยข้อมูลของประชาชนหลุดรั่วออกไปอย่างจริงจังซึ่งล่าสุดมีการปรับเงินทางปกครองไปจำนวน 7 ล้านบาท ต่อไปจะมีการปรับกฎหมายให้มีความเคร่งครัดมากขึ้น

ปีงบประมาณ 2568 กระทรวงดีอี ได้งบประมาณ 9,800 ล้านบาท ยอมรับว่า กระทรวงได้งบประมาณเพิ่มขึ้นตามลำดับ จากตอนแรกที่เขาเข้ามารับตำแหน่ง ได้งบประมาณ ไม่ถึง 7,000 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่ากระทรวงนี้มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ

ข่าวล่าสุด

4 หน่วยงานลุย "สะพานสมุย" พ่วงน้ำ-ไฟ-เน็ต แก้ปัญหาระยะยาว