posttoday

"ภูมิธรรม"ชี้"ซูซูกิ"ย้ายฐานการผลิตเป็นธรรมดาธุรกิจมีกำไรขาดทุน

10 มิถุนายน 2567

ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ เผย ซูซูกิ ย้ายฐานการผลิตเป็นธรรมดาของธุรกิจมีกำไรขาดทุน แต่หากมีปัญหา หรือผลกระทบ วงครม.เศรษฐกิจ อาจมีการหารือกัน ชี้การย้ายฐานการผลิตเป็นธรรมดาธุรกิจมีกำไรขาดทุน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวก่อนประชุมครม.เศรษฐกิจ กรณีการย้ายฐานการผลิตของบริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัดว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด ซึ่งหากมีปัญหาหรือผลกระทบครม.เศรษฐกิจ คงจะมีการพูดคุย และเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกธุรกิจจะได้รับผลกระทบจากการบริหารจัดการตัวเอง หรือมีปัญหาเรื่องได้ประโยชน์เสียประโยชน์ หรือเรื่องกำไรขาดทุนถือเป็นเรื่องปกติอย่าไปสนใจ คิดว่ามันจะเป็นอื่นๆ ซึ่งอาจจะไม่ใช่ข้อเท็จจริงและทำให้เรากังวลใจ

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.67 ซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น แถลงการณ์ว่า ซูซูกิตัดสินใจยุติการผลิตที่โรงงานประเทศไทย คือ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (SMT) ภายในช่วงสิ้นปี พ.ศ. 2568 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทบทวนโครงสร้างการผลิตของซูซูกิทั่วโลก

ตามที่รัฐบาลไทยได้มีการส่งเสริมการลงทุนรถยนต์อีโคคาร์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 ในเวลาดังกล่าวซูซูกิได้สมัครเข้าร่วมโครงการและก่อตั้ง SMT ขึ้น ในปี พ.ศ. 2554 ซึ่งหลังจากที่ได้รับการอนุมัติจึงได้มีการเริ่มดำเนินการผลิตขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 เป็นต้นมาโดยสามารถผลิตและส่งออกได้มากถึง 60,000 คันต่อปี 

ทั้งนี้ด้วยการส่งเสริมความเป็นกลางทางคาร์บอนและการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าของทั่วโลก ซูซูกิได้มีการพิจารณาเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในระดับโลก จึงได้ตัดสินใจยุติการดำเนินการของโรงงาน SMT ภายในช่วงสิ้นปี พ.ศ. 2568 นี้

แม้จะมีการยุติการดำเนินการของโรงงานในประเทศไทย แต่ SMT จะยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจในการจำหน่ายและให้บริการหลังการขาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าชาวไทยต่อไป ซึ่งจะมีการปรับแผนธุรกิจเป็นการนำเข้ารถยนต์จากโรงงานในภูมิภาคแถบอาเซียน รวมถึงประเทศญี่ปุ่นและประเทศอินเดีย

นอกจากนี้เพื่อเป็นการสนับสนุนและให้สอดคล้องในการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนตามนโยบายของภาครัฐ บริษัทฯ จะมีการแนะนำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่างๆ รวมถึง HEVs เข้าสู่ตลาดในอนาคตด้วยเช่นกัน

สำหรับยอดขายรถยนต์ซูซูกิ 4 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-เม.ย.67) ทำได้ 2,587คัน ลดลง 42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วส่วนข้อมูลงบทางการเงินพบว่า บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ขาดทุนสุทธิ 2 ปีติดต่อกัน  โดยปี 2565 ขาดทุนกว่า 80 ล้านบาท และปี 2566 ขาดทุนกว่า 264 ล้านบาท

ทั้งนี้ มีรายงานจาก ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย ว่า รถยนต์ที่ผลิตผลิตภายใต้โครงการอีโคคาร์ ที่โรงงานระยองยังคงจะผลิตและทำตลาดในประเทศจนถึงภายในปี 2568 (มิใช่หยุดในสิ้นปีนี้) ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนการรองรับดูแลช่วยเหลือพนักงานภายหลังยุติการผลิตที่โรงงานระยองอย่างเหมาะสม