posttoday

27 พ.ค.นี้ ยังใช้โมบายแบงก์กิ้งได้ หากเบอร์ไม่ตรงบัญชี

27 พฤษภาคม 2567

สำนักงาน กสทช. ชี้แจง วันที่ 27 พ.ค. 67 ยังใช้โมบายแบงก์กิ้งได้ตามปกติ เผย ปปง. และธนาคารพาณิชย์ขอความร่วมมือเป็นตัวกลางคัดกรองเบอร์ที่ผูกโมบายแบงก์กิ้งให้ตรงกัน เพื่อแก้ปัญหาซิมผีบัญชีม้า คาดใช้เวลา 120 วันในการตรวจสอบ หากมีเหตุอธิบายได้ สามารถใช้งานได้ตามเดิม

สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ขอเรียนชี้แจง กรณีข่าวการตรวจสอบคัดกรองเบอร์โมบายแบงก์กิ้ง(ซิมการ์ด) ที่ผูกกับบัญชีธนาคารต้องตรงกันนั้น ขณะนี้เป็นขั้นตอนอยู่ในระหว่างดำเนินการ โดยในวันที่ 27 พ.ค. 2567 โมบายแบงก์กิ้งยังใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งนโยบายดังกล่าวเป็นการขอความร่วมมือจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และธนาคาร ให้สำนักงาน กสทช. เป็นตัวกลางในการประสานงานกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ในการตรวจสอบข้อมูล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาลที่ต้องการแก้ปัญหามิจฉาชีพใช้เป็นช่องทางในการทำธุรกรรมออนไลน์

ตามขั้นตอนธนาคารจะเป็นผู้รวบรวมบัญชีพร้อมเบอร์โทรศัพท์ที่ผูกกับโมบายแบงก์กิ้ง แล้วส่งให้ ปปง. จากนั้น ปปง. จะรับข้อมูลส่งต่อให้กับสำนักงาน กสทช. เพื่อให้สำนักงาน กสทช. แยกเครือข่ายก่อนประสานไปยังผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้ยืนยันอีกครั้งแล้วส่งกลับ 

ทั้งนี้ นโยบายดังกล่าว สำนักงาน กสทช. ได้รับการยืนยันจาก ปปง.ว่า หากมีเหตุผลเพียงพอ สามารถอธิบายความจำเป็นในการใช้งานได้ จะเป็นดุลยพินิจของธนาคารให้การพิจารณายกเว้น เช่น การเปิดโมบายแบงก์กิ้งให้กับบุตรหลานที่เป็นเด็กหรือเยาวชน หรือบิดามารดาผู้สูงวัย เบอร์องค์กรที่แสดงตัวตนได้ชัดเจน เป็นต้น และในเร็ว ๆ นี้ สำนักงาน กสทช. จะประชุมหารือกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการที่ต้องเปลี่ยนชื่อผู้ถือครองให้ตรงกับโมบายแบงก์กิ้ง ไม่ให้เป็นภาระแก่ประชาชนเกินจำเป็น โดยให้มีรายการส่งเสริมการขายที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์มากที่สุด 

เปิดขั้นตอนปิดเบอร์ไม่ตรงบัญชี 106 ล้านบัญชี

ด้านพล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช. ด้านกฎหมาย และประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับ ใช้กฎหมายความผิด ทางเทคโนโลยีฯ  เปิดเผยว่า ขั้นตอนดำเนินการ จะเริ่มในวันที่ 27 พ.ค. 2567 โดย ธนาคารจะเป็นผู้รวบรวมบัญชี ที่มีข้อมูล เลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือ เลขหนังสือเดินทาง พร้อมเบอร์โทร โมบายแบงก์กิ้งที่ผูกกับบัญชีธนาคาร ส่งให้ ปปง. ตามช่องทางที่กำหนด จากนั้น ปปง. รับข้อมูลทั้งหมดมาแล้วผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่เข้ารหัส แล้วเปิดช่องทางสื่อสารข้อมูลให้ กสทช. ภายในวันที่ 1 มิ.ย. 

จากนั้น กสทช. ได้รับข้อมูลดังกล่าวจาก ปปง. แล้ว จะนำเบอร์โมบายแบงก์กิ้งมาแยกเครือข่าย เพื่อส่งตรวจหารายชื่อผู้ถือครอง และตรวจเปรียบเทียบ กับรายชื่อเจ้าของบัญชีว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ โดยจะใช้เวลาประมาณ 120 วัน (ภายในสิ้นเดือน ก.ย.) จำนวนทั้งหมด 106 ล้านบัญชี  จากนั้นจะส่งผลบัญชีที่ไม่ตรงกลับไปให้ ปปง. และธนาคาร ทราบ เพื่อดำเนินการแจ้งเตือนต่อไป

กสทช. ได้พัฒนาระบบให้ตรวจสอบได้โดยง่ายผ่านทาง แอปพลิเคชัน 3 ชั้น และบริการ *179*เลขบัตรประชาชน# โทรออก และในอนาคต จะพัฒนาแพลตฟอร์มเชื่อมฐานข้อมูลที่ธนาคารสามารถตรวจสอบได้ทันทีว่าชื่อตรงกันหรือไม่ 

สำหรับความคืบหน้าการยืนยันตัวตนของผู้ถือครองซิมตั้งแต่ 6 หมายเลขขึ้นไป ตาม ประกาศ กสทช. พบว่า

กลุ่มที่ 1 (6-100 หมายเลข) จะครบกำหนด 180 วัน ในวันที่ 13 ก.ค.67 ที่จะถึงนี้ 

กลุ่มที่ 2 (101 หมายเลข ขึ้นไป) ซึ่งได้ครบกำหนดไป ตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา จากข้อมูลล่าสุด กสทช. ได้ระงับซิมที่ไม่ปฏิบัติตามประกาศ กสทช. ไปแล้วถึง 2,137,465 เลขหมาย รวมทั้งซิมโมบายแบงก์กิ้งที่เข้าเงื่อนไขดังกล่าวด้วย 

ด้าน พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิมสังกาศ รองเลขา ปปง. กล่าวว่า  เมื่อทาง ปปง. ได้รับผลกลับมาแล้ว สำหรับผู้ที่ชื่อจดทะเบียนซิม ไม่ตรงกับชื่อบัญชีโมบายแบงก์กิ้ง ทาง ปปง. จะไปหารือกับ ธปท. และ ธนาคารพาณิชย์ ในการกำหนดระยะเวลาในมา ปรับข้อมูลที่ศูนย์บริการว่าจะกำหนดภายในกี่วัน หากพ้นกำหนดแล้วไม่มาชี้แจง จะทำการระงับการใช้โมบายแบงก์กิ้ง แต่ยังสามารถไปเบิกถอนที่เคาเตอร์สาขาได้ ในกรณีชื่อไม่ตรงกัน 

ยกเว้นในกรณี มีเหตุผลความจำเป็น เช่น เปิดโมบายแบงก์กิ้ง ให้บุตรหลานที่เป็นเด็กเยาวชน หรือบิดามารดาผู้สูงวัย เป็นต้น สำหรับกรณีขอเปิดใช้โมบายแบงก์กิ้ง รายใหม่ ธนาคารต้องตรวจสอบชื่อเจ้าของบัญชีและ เจ้าของเบอร์ต้องเป็นบุคคลคนเดียวกัน

พล.ต.ต.เอกรักษ์  กล่าวว่า ปัจจุบันยังมีบัญชีม้าใหม่เข้าระบบประมาณ เดือนละ 2 หมื่นบัญชี และมีบัญชีม้าในระบบรวมมากว่า 1 ล้านบัญชี   จากบัญชีธนาคารในระบบทั้งหมด 130 ล้านบัญชี และเป็นการผูกโมบายแบงก์กิ้ง 106 ล้านบัญชี การดำเนินการตรงนี้ เป็นการตัดแขนขามิจฉาชีพไม่ให้มีบัญชีไปใช้โอนเงินได้ โดยมั่นใจว่าเมื่อถีงสิ้นปีนี้ จะสามารถกรองบัญชีม้า ออกจากระบบได้มาก โดยเฉพาะบัญชีม้าขายขาดที่ซื้อมาจากผู้ที่รับข้างเปิดบัญชีที่มีมากกว่า 90% ของบัญชีม้าทั้งหมด และจะช่วยลดอาชญากรรมอออนไลน์ลงได้อย่างแน่นอน